พบผลลัพธ์ทั้งหมด 293 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองแร่ผิดกฎหมายจากการดูดแร่นอกเขตประทานบัตร ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิมให้ริบแร่ของกลาง
จำเลยเป็นผู้ขับแพควบคุมคนงานออกดูดหาแร่ การออกหาแร่คราวหนึ่งๆใช้เวลาราว 5-6 วันจำเลยได้ทำการดูดแร่นอกเขตประทานบัตรที่ได้รับอนุญาต มีแร่อยู่ในความครอบครองเกิน 2 กิโลกรัม แร่ที่ดูดขึ้นมาบนแพถือได้ว่าอยู่ในความครอบครองของจำเลย และแร่ของกลางนั้นเป็นแร่ที่อยู่นอกเขตเหมืองแร่ที่เก็บแร่นั้นไว้เป็นแร่ที่จำเลยได้มาไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย จำเลยมีความผิดและแร่ของกลางต้องริบตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในกองมรดกของบุตรบุญธรรมที่มิได้จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
บุตรบุญธรรมตามกฎหมายเก่าและมิได้จดทะเบียนตามบรรพ 5มีฐานะอย่างเดียวกับบุตรชอบด้วยกฎหมาย แต่ไม่มีสิทธิรับมรดกของผู้รับบุตรบุญธรรม จึงไม่ใช่ทายาท และไม่มีส่วนได้เสียที่จะขอตั้งและถอนผู้จัดการมรดก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขบทกฎหมายลงโทษโดยศาลอุทธรณ์และการห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า.จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และมาตรา 200 ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักจำคุก 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 200และมาตรา 201 ให้ลงโทษตามมาตรา 149 ซึ่งเป็นบทหนักส่วนโทษที่ลงแก่จำเลยนั้นให้เป็นไปตามที่ศาลชั้นต้นกำหนดดังนี้เป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์แก้ไขเฉพาะการปรับบทกฎหมายในการลงโทษให้ถูกต้อง โดยมิได้แก้ไขโทษแต่อย่างใด จึงเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 102/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองไม้ผิดกฎหมาย แม้มีใบเบิกทางแต่เกินเวลา หากไม่มีเจตนาถือครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นความผิด
จำเลยมีถ่านไม้บรรทุกรถโดยมีใบเบิกทางของเจ้าหน้าที่กำกับแต่บังเอิญรถยางรั่วนำไปถึงที่ไม่ทันกำหนด จึงเกินเวลาในใบเบิกทางไป 2 ชั่วโมง และถูกจับระหว่างทางยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนามีถ่านไม้ไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต ไม่เป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 99/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตอำนาจศาล: ภูมิลำเนาจำเลยจากการติดต่อค้าขาย, ฟ้องต่อศาลแพ่งได้
จำเลยที่ 1 ประกอบกิจการค้าเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่การติดต่อซื้อขายไม้รายพิพาทโจทก์เคยติดต่อกับจำเลยที่ 1 ที่บ้านเลขที่ 195 ถนนข้าวสาร กรุงเทพมหานคร ถือได้ว่าบ้านเลขที่ 195 ดังกล่าว เป็นภูมิลำเนาของจำเลยที่ 1 อีกแห่งหนึ่งในการติดต่อค้าขาย กับโจทก์ในกรุงเทพมหานคร และในกรณีเช่นนี้ แม้จำเลยที่ 2 จะมิได้มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพมหานครโจทก์ก็ย่อมฟ้อง จำเลยทั้งสองต่อศาลแพ่งได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4(2) และ มาตรา 5 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 99/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตอำนาจศาล: ภูมิลำเนาของจำเลยจากการติดต่อค้าขาย
จำเลยที่ 1 ประกอบกิจการค้าเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่การติดต่อซื้อขายไม้รายพิพาทโจทก์เคยติดต่อกับจำเลยที่ 1 ที่บ้านเลขที่ 195 ถนนข้าวสาร กรุงเทพมหานคร ถือได้ว่าบ้านเลขที่ 195 ดังกล่าวเป็นภูมิลำเนาของจำเลยที่ 1 อีกแห่งหนึ่งในการติดต่อค้าขายกับโจทก์ในกรุงเทพมหานคร และในกรณีเช่นนี้แม้จำเลยที่ 2 จะมิได้มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพมหานคร โจทก์ก็ย่อมฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาลแพ่งได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4 (2) และมาตรา 5 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาททั้งสองฝ่ายและการแบ่งความรับผิดในความเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
โจทก์ขับรถจักรยานยนต์ชนกับรถยนต์ที่จำเลยขับ ต่างขับด้วยความประมาทเท่ากันโจทก์ได้รับความเสียหาย 58,000 บาท ดังนี้ โจทก์จำเลยจะต้องรับผิดในความเสียหายคนละส่วนเท่ากัน โจทก์จึงควรได้รับค่าเสียจากจำเลยเป็นเงิน 29,000 บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาททั้งสองฝ่ายในอุบัติเหตุทางรถยนต์: การแบ่งความรับผิดและค่าเสียหาย
โจทก์ขับรถจักรยานยนต์ชนกับรถยนต์ที่จำเลยขับ ต่างขับด้วยความประมาทเท่ากัน โจทก์ได้รับความเสียหาย 58,000บาท ดังนี้ โจทก์จำเลยจะต้องรับผิดในความเสียหายคนละส่วนเท่ากัน โจทก์จึงควรได้รับค่าเสียหายจากจำเลยเป็นเงิน 29,000 บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 28/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจร้องเพิกถอนคำสั่งเลิกมูลนิธิ และการขอพิจารณาคดีใหม่ในคดีที่ไม่ได้เป็นคู่ความ
เมื่อศาลมีคำสั่งให้เลิกมูลนิธิแล้ว ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้อำนาจแก่ผู้หนึ่งผู้ใดที่จะร้องขอต่อศาลให้เพิกถอนคำสั่งนั้นได้ ดังนั้นผู้ร้องซึ่งเป็นกรรมการของมูลนิธีที่ศาลสั่งเลิกแล้วจึงไม่มีอำนาจร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งที่ให้เลิกมูลนิธินั้น
เดิม จ.ผู้คัดค้านได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งเลิกมูลนิธิ ฮ.ศาลประกาศนัดไต่สวน ไม่มีผู้ใดคัดค้าน เมื่อไต่สวนแล้วได้มีคำสั่งให้เลิกมูลนิธิ ฮ. ผู้ร้องจะมาร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ไม่ได้ เพราะผู้ร้องมิได้เข้าเป็นคู่ความในคดีนี้มาก่อน และศาลมิได้แสดงว่าผู้ร้องขาดนัดพิจารณาแต่อย่างใด
เดิม จ.ผู้คัดค้านได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งเลิกมูลนิธิ ฮ.ศาลประกาศนัดไต่สวน ไม่มีผู้ใดคัดค้าน เมื่อไต่สวนแล้วได้มีคำสั่งให้เลิกมูลนิธิ ฮ. ผู้ร้องจะมาร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ไม่ได้ เพราะผู้ร้องมิได้เข้าเป็นคู่ความในคดีนี้มาก่อน และศาลมิได้แสดงว่าผู้ร้องขาดนัดพิจารณาแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 28/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งเลิกมูลนิธิเป็นเด็ดขาด ไม่มีอำนาจเพิกถอน หรือขอพิจารณาคดีใหม่
เมื่อศาลมีคำสั่งให้เลิกมูลนิธิแล้ว ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้อำนาจแก่ผู้หนึ่งผู้ใดที่จะร้องขอต่อศาลให้เพิกถอนคำสั่งนั้นได้ ดังนั้นผู้ร้องซึ่งเป็นกรรมการของมูลนิธิที่ศาลสั่งเลิกแล้วจึงไม่มีอำนาจร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งที่ให้เลิกมูลนิธินั้น
เดิม จ. ผู้คัดค้านได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งเลิกมูลนิธิ ฮ. ศาลประกาศนัดไต่สวน ไม่มีผู้ใดคัดค้าน เมื่อไต่สวนแล้วได้มีคำสั่งให้เลิกมูลนิธิ ฮ. ผู้ร้องจะมาร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ไม่ได้ เพราะผู้ร้องมิได้เข้าเป็นคู่ความในคดีนี้มาก่อน และศาลมิได้แสดงว่าผู้ร้องขาดนัดพิจารณาแต่อย่างใด
เดิม จ. ผู้คัดค้านได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งเลิกมูลนิธิ ฮ. ศาลประกาศนัดไต่สวน ไม่มีผู้ใดคัดค้าน เมื่อไต่สวนแล้วได้มีคำสั่งให้เลิกมูลนิธิ ฮ. ผู้ร้องจะมาร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ไม่ได้ เพราะผู้ร้องมิได้เข้าเป็นคู่ความในคดีนี้มาก่อน และศาลมิได้แสดงว่าผู้ร้องขาดนัดพิจารณาแต่อย่างใด