พบผลลัพธ์ทั้งหมด 266 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2212/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ข้อเท็จจริงในคดีอาญา: คำสั่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เป็นที่สุดตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นยกฟ้องคดีฉ้อโกง ศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงโจทก์อุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์ตามศาลชั้นต้น คำสั่งนี้เป็นที่สุด โจทก์ฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2196/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการผ่านทางจำเป็นและค่าทดแทนความเสียหาย การฟ้องร้องเรียกค่าทดแทนไม่ถือเป็นฟ้องซ้ำหากประเด็นต่างกัน
คดีก่อนซึ่งจำเลยฟ้องโจทก์นั้นศาลพิพากษาถึงที่สุดว่าที่ดินของจำเลยตกอยู่ในที่ล้อม จำเลยมีสิทธิผ่านที่ดินของโจทก์ซึ่งล้อมอยู่ไปสู่คลองและทางสาธารณะได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1349 แต่เนื่องจากโจทก์มิได้ฟ้องแย้งในคดีนั้นเรียกค่าทดแทนความเสียหายจากการที่จำเลยจะใช้ที่ดินของโจทก์ ศาลจึงไม่พิพากษา ให้จำเลยใช้ค่าทดแทนความเสียหายให้แก่โจทก์และว่าหากโจทก์ประสงค์จะได้ค่าทดแทนความเสียหายก็ชอบที่จะว่ากล่าวแก่จำเลยเป็นอีกคดีหนึ่งต่างหาก โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้ ขอให้จำเลยใช้ค่าทดแทนที่โจทก์เปิดทางเดินให้ดังนี้ ในคดีก่อนมีประเด็นเพียงว่าทางพิพาทเป็นทางจำเป็นหรือไม่ส่วนคดีหลังมีประเด็นว่าจำเลยจะต้องให้ค่าทดแทนเพื่อการใช้ ทางผ่านนั้นแก่โจทก์หรือไม่ ประเด็นคนละอย่างกัน ฟ้องของโจทก์จึงไม่ เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2196/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิใช้ทางจำเป็นและค่าทดแทน: แม้ไม่ฟ้องแย้งในคดีก่อน ก็ฟ้องเรียกค่าทดแทนได้ในคดีหลังได้ หากประเด็นต่างกัน
คดีก่อนซึ่งจำเลยฟ้องโจทก์นั้นศาลพิพากษาถึงที่สุดว่า ที่ดินของจำเลยตกอยู่ในที่ล้อม จำเลยมีสิทธิผ่านที่ดินของโจทก์ซึ่งล้อมอยู่ไปสู่คลองและทางสาธารณะได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1349 แต่เนื่องจากโจทก์มิได้ฟ้องแย้งในคดีนั้นเรียกค่าทดแทนความเสียหายจากการที่จำเลยจะใช้ที่ดินของโจทก์ ศาลจึงไม่พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าทดแทนความเสียหายให้แก่โจทก์ และว่าหากโจทก์ประสงค์จะได้ค่าทดแทนความเสียหายก็ชอบที่จะว่ากล่าวแก่จำเลยเป็นอีกคดีหนึ่งต่างหาก โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้ ขอให้จำเลยใช้ค่าทดแทนที่โจทก์เปิดทางเดินให้ดังนี้ ในคดีก่อนมีประเด็นเพียงว่าทางพิพาทเป็นทางจำเป็นหรือไม่ ส่วนคดีหลังมีประเด็นว่าจำเลยจะต้องให้ค่าทดแทนเพื่อการใช้ทางผ่านนั้นแก่โจทก์หรือไม่ ประเด็นคนละอย่างกัน ฟ้องของโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2059/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้แปรรูปในที่ดินเอกชน: จำเลยต้องพิสูจน์สิทธิเพื่ออ้างข้อยกเว้นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีไม้ประดู่และไม้มะค่าโมงแปรรูปเป็นไม้หวงห้ามเกินกว่า 0.20 ลูกบาศก์เมตร โดยไม่เสียค่าภาคหลวงและโดยไม่รับอนุญาต จำเลยต่อสู้ว่าไม้แปรรูปของกลางเกิดในที่ดินของผู้มีชื่อจึงเป็นไม้ที่ชอบด้วยกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ มาตรา 48,50(4) แต่จำเลยนำสืบไม่ได้ความตามข้อต่อสู้ จำเลยจึงไม่พันผิด
ข้อเท็จจริงที่ว่าไม้ของกลางเกิดในที่ดินของผู้มีชื่อตามข้อต่อสู้ของจำเลยหรือไม่นั้น เมื่อคู่ความนำสืบไว้แล้วแต่ศาลล่างมิได้วินิจฉัย ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจวินิจฉัยเองได้
โจทก์ได้บรรยายฟ้องและขอให้ลงโทษจำเลยมาแต่อ้างบทมาตราผิดศาลมีอำนาจปรับบทกฎหมายที่ถูกต้องได้
ข้อเท็จจริงที่ว่าไม้ของกลางเกิดในที่ดินของผู้มีชื่อตามข้อต่อสู้ของจำเลยหรือไม่นั้น เมื่อคู่ความนำสืบไว้แล้วแต่ศาลล่างมิได้วินิจฉัย ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจวินิจฉัยเองได้
โจทก์ได้บรรยายฟ้องและขอให้ลงโทษจำเลยมาแต่อ้างบทมาตราผิดศาลมีอำนาจปรับบทกฎหมายที่ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2001/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา และการพิจารณาคำร้องที่มีลักษณะเป็นคำอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นยกคำร้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลย จำเลยยื่นคำร้องให้ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้จำเลยอุทธรณ์อย่างคนอนาถา คำร้องนี้ต้องให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่ง ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องนี้เสียเอง จำเลยอุทธรณ์และโจทก์ฎีกาได้ตามวิธีธรรมดา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2000/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอม: ขอบเขตความรับผิดชอบจำเลยในการรักษาสภาพทางและจัดการสิ่งกีดขวาง
ทางภาระจำยอมกว้าง 3 เมตร บางจุดกว้าง 2.95 เมตรเพราะรั้วสังกะสีของบ้านข้างเคียงเอียงเข้ามา จำเลยไม่ต้องรับผิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1390 และไม่ต้องเทปูนให้ตลอด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1829/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเช่าร่วมกันของสามีภริยาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย: โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยไม่ได้
โจทก์จำเลยเป็นสามีภริยาไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีบุตรด้วยกัน5 คน ทุกคน อยู่ในห้องเช่าพิพาทโดยน้องชายจำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าเดิมแบ่งให้อาศัยทำมาค้าขาย ต่อมาน้องชายจำเลยโอนสิทธิการเช่าให้โจทก์จำเลย แต่จำเลยยอมให้โจทก์เป็นผู้มีชื่อเป็นผู้เช่าแต่ผู้เดียว ดังนี้ โจทก์จำเลยได้สิทธิการเช่ามาในฐานะเจ้าของร่วมกัน โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าที่พิพาทไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1813/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกผิดที่อยู่ การขาดนัดยื่นคำให้การ และผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
แม้สัญญาประกันผู้ต้องหาที่จำเลยทำไว้กับโจทก์ระบุว่าจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 172 ซอยสุวรรณสวัสดิ์ฯลฯ ก็ตาม แต่ต่อมาจำเลยได้ย้ายจากภูมิลำเนาเดิมไปอยู่บ้านเลขที่ 633 ถนนสุขุมวิท ฯลฯ แล้ว และปรากฏจากการติดต่อนัดส่งตัวผู้ต้องหาระหว่างโจทก์ที่ 2 กับจำเลย แสดงว่าโจทก์ที่ 2 ได้ทราบถึงภูมิลำเนาใหม่ของจำเลยแล้วด้วยเช่นนี้ การที่โจทก์ฟ้องโดยระบุว่าจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 172 ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิม จึงมิใช่ภูมิลำเนาจำเลย ครั้นส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยไม่ได้ โจทก์ก็แถลงศาลว่า ไม่ทราบว่าจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ที่ใด เป็นเหตุให้ศาลเชื่อสั่งให้โฆษณาทางหนังสือพิมพ์แทน จึงขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 จะถือว่าจำเลยทราบการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแล้วไม่ได้ จำเลยไม่จงใจขาดนัดยื่นคำให้การขอให้พิจารณาใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1793/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน และทำร้ายร่างกาย
ฟ้องว่าจำเลยเมาสุราประพฤติวุ่นวาย ตำรวจจับจำเลยจำเลยต่อสู้และทำร้ายตำรวจผู้กระทำการตามหน้าที่ ได้ความว่าจำเลยไม่เมาสุราแต่ไม่ยอมเสียค่าเข้าดูภาพยนตร์ตำรวจขอค้นเป้จำเลยไม่ยอมให้ค้นแล้วทำร้ายตำรวจ จึงไม่ใช่การที่ตำรวจทำการตามหน้าที่ตามฟ้อง ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1792/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนคำร้องทุกข์หลังฟ้องคดี การระงับคดีอาญาเฉพาะการร้องทุกข์ ไม่กระทบต่อคดีที่ฟ้องต่อศาล
การถอนคำร้องทุกข์ที่จะทำให้คดีระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) นั้นต้องเป็นการถอนโดยเจตนาที่จะไม่เอาความแก่จำเลยอีกต่อไป แต่การที่โจทก์ขอถอนคำร้องทุกข์โดยเหตุที่โจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลแล้ว ไม่ประสงค์จะให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนพยานหลักฐานของโจทก์อีก จึงคงระงับไปแต่เฉพาะเรื่องการร้องทุกข์ ส่วนคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลไว้แล้วนั้นหาระงับไปไม่ ศาลย่อมดำเนินคดีต่อไปได้ เสมือนว่าไม่มีการร้องทุกข์มาก่อน