คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประสม ศรีเจริญ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 505 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3151/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทางการค้าต่างประเทศ: อำนาจฟ้องคดีนามทางการค้าในไทย และหน้าที่การนำสืบหลักฐาน
โจทก์อยู่ต่างประเทศ อ้างสิทธิคำว่า HILTON เป็นนามทางการค้าของโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยใช้นามเดียวกันโดยมิชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 18 กรณีเช่นนี้หาได้มีกฎหมายจำกัดสิทธิมิให้โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลในประเทศไทยไม่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องคดีนี้
จำเลยให้การว่าไม่รับรองและขอปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์เกี่ยวกับการใช้นามทางการค้าตามฟ้องและต่อสู้ด้วยว่านามที่จำเลยใช้ไม่ใช่นามเดียวกับโจทก์ จำเลยไม่รับรองและปฏิเสธการเป็นนิติบุคคลและวัตถุประสงค์ของโจทก์ รวมทั้งเรื่องการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีด้วย จึงไม่อาจรับฟังเป็นยุติตามคำฟ้องได้โจทก์จึงยังมีหน้าที่นำสืบอยู่ ศาลจะวินิจฉัยชี้ขาดให้โจทก์ชนะคดีโดยไม่มีการสืบพยานหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3151/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทางการค้าต่างชาติ: อำนาจฟ้องคดีในไทย & การพิสูจน์สิทธิทางการค้า
โจทก์อยู่ต่างประเทศ อ้างสิทธิคำว่า HILTON เป็นนามทางการค้าของโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยใช้นามเดียวกันโดยมิชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 18 กรณีเช่นนี้หาได้มีกฎหมายจำกัดสิทธิมิให้โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลในประเทศไทยไม่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องคดีนี้
จำเลยให้การว่าไม่รับรองและขอปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ เกี่ยวกับการใช้นามทางการค้าตามฟ้อง และต่อสู้ด้วยว่า นามที่จำเลยใช้ไม่ใช่นามเดียวกับโจทก์ จำเลยไม่รับรองและปฏิเสธการเป็นนิติบุคคลและวัตถุประสงค์ของโจทก์ รวมทั้งเรื่องการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีด้วย จึงไม่อาจรับฟังเป็นยุติตามคำฟ้องได้ โจทก์จึงยังมีหน้าที่นำสืบอยู่ ศาลจะวินิจฉัยชี้ขาดให้โจทก์ชนะคดีโดยไม่มีการสืบพยานหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3082/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าหน้าที่พิจารณาอนุญาตสร้างอาคารโรงแรม ต้องคำนึงถึงกฎหมายโรงแรมควบคู่กฎหมายควบคุมอาคาร
การที่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พุทธศักราช 2479 จะมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ปลูกสร้างอาคารหรือไม่ นอกจากจะพิจารณาถึงหลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พุทธศักราช 2479 แล้วจำเลยย่อมพิจารณาถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องได้ด้วย เมื่อคำขอของโจทก์ระบุว่า ขออนุญาตสร้างอาคารเพื่อใช้เป็นโรงแรมโดยไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ยื่นแผนผังและรายการของโรงแรมเพื่อขออนุญาตจัดสร้างต่อนายทะเบียนตามพระราชบัญญัติโรงแรมพุทธศักราช 2478 มาตรา 5 แล้วการที่จำเลยไม่อนุญาตให้โจทก์ปลูกสร้างอาคารโรงแรมโดยเกี่ยงให้โจทก์ได้รับอนุญาตให้จัดสร้างตาม มาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติโรงแรมพุทธศักราช 2478 เสียก่อน จึงชอบที่จะกระทำได้กรณียังถือไม่ได้ว่าจำเลยจงใจปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3082/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมีอำนาจพิจารณาอนุญาตสร้างอาคารโรงแรมโดยคำนึงถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องได้
การที่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร ฯ จะมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ปลูกสร้างอาคารหรือไม่ นอกจากจะพิจารณาถึงหลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร ฯ แล้ว จำเลยย่อมพิจารณาถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องได้ด้วย เมื่อคำขอของโจทก์ระบุว่า ขออนุญาตสร้างอาคารเพื่อใช้เป็นโรงแรมโดยไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ยื่นแผนผังและรายการของโรงแรมเพื่อขออนุญาตจัดสร้างต่อนายทะเบียนตามพระราชบัญญัติโรงแรมฯ มาตรา 5 แล้ว การที่จำเลยไม่อนุญาตให้โจทก์ปลูกสร้างอาคารโรงแรมโดยเกี่ยงให้โจทก์ได้รับอนุญาตให้จัดสร้างตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติโรงแรม ฯ เสียก่อน จึงชอบที่จะกระทำได้ กรณียังถือไม่ได้ว่าจำเลยจงใจปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3056/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีเงินอุดหนุน ปชล. - จังหวัดมีหน้าที่ควบคุมดูแลการใช้จ่ายเงิน หากเกิดความเสียหายจากการยักยอก มีอำนาจฟ้องได้
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการปฏิบัติตามโครงการพัฒนาท้องถิ่นและช่วยประชาชนในชนบทให้มีงานทำในฤดูแล้ง พ.ศ. 2518 เงินอุดหนุนโครงการดังกล่าวเรียกโดยย่อว่าเงินอุดหนุนปชล. เป็นเงินที่กรมบัญชีกลางจัดสรรให้จังหวัดโจทก์เพื่อใช้จ่ายตามโครงการของคณะกรรมการ ปชลต. ที่ได้รับอนุมัติ จึงอยู่ในความควบคุมดูแลรับผิดชอบของโจทก์เพื่อให้การใช้จ่ายเงินได้เป็นไปโดยถูกต้องเป็นประโยชน์แก่จังหวัดโจทก์ หากการเบิกจ่ายเงินมีการผิดระเบียบและมีการยักยอกเงินไป โจทก์ย่อมได้รับความเสียหาย จึงมีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3051/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงโดยมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิง แม้ไม่ได้ล่วงล้ำทางเพศก็เป็นตัวการร่วม
จำเลยที่ 2 ใช้อาวุธมีดบังคับผู้เสียหายซึ่งมีอายุ 12 ปีเศษให้ไปยังสถานที่เกิดเหตุเพื่อข่มขืนกระทำชำเราโดยจำเลยทั้งสองได้คบคิดกันมาก่อน แม้จำเลยแต่ละคนจะผลัดกันเข้ากระทำชำเราผู้เสียหาย ก็เป็นการร่วมกันกระทำความผิด และเมื่อจำเลยที่ 2กระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จแล้ว แม้จะได้ความว่าอวัยวะเพศของจำเลยที่ 1 ไม่ได้ล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายจำเลยที่ 1ก็ต้องรับผิดเป็นตัวการในการข่มขืนกระทำชำเราร่วมกับจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 2 ใช้อาวุธมีดบังคับขู่เข็ญผู้เสียหายให้ไปยังสถานที่เกิดเหตุซึ่งเป็นห้องในอาคารเรียน จากนั้นจำเลยทั้งสองบังคับผู้เสียหายให้นอนที่พื้นห้องเรียนและผลัดเปลี่ยนกันกระทำชำเราผู้เสียหายต่อเนื่องกันเป็นการรุมกันกระทำต่อผู้เสียหาย ถือได้ว่าเป็นการร่วมกันกระทำชำเราผู้เสียหายอันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3007/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอระบุพยานเพิ่มเติมและการงดสืบพยานจำเลยเนื่องจากประวิงคดี
การขอระบุพยานเพิ่มเติมหลังจากที่คู่ความฝ่ายที่มีหน้าที่นำสืบก่อนสืบไปหมดแล้วต้องมีเหตุผลแสดงว่าไม่สามารถทราบได้ว่า ตนจะต้องนำพยานหลักฐานบางอย่างมาสืบเพื่อประโยชน์ของตนหรือไม่ ทราบว่าพยานหลักฐานบางอย่างได้มีอยู่ ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสาม เมื่อคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติมของจำเลยมิได้แสดงเหตุตามกฎหมายดังกล่าว ศาลไม่อนุญาตให้ระบุพยานเพิ่มเติมชอบแล้ว
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 102 เป็นเพียงบทบัญญัติที่กำหนดวิธีการส่งประเด็นไปสืบพยานที่ศาลอื่นในเมื่อศาลที่พิจารณาเห็นสมควรตามความจำเป็น
เมื่อถึงวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรก ทนายจำเลยแถลงต่อศาลว่า ตัวจำเลยยังไม่กลับจากต่างประเทศ ขอเลื่อนคดีโดยรับรองว่านัดหน้าจะไม่ขอเลื่อนคดีอีกไม่ว่ากรณีใด ๆ ศาลอนุญาตโดยกำชับว่า นัดหน้าไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใดก็ตาม ศาลจะไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีต่อไป แต่เมื่อถึงวันนัดทนายจำเลยได้แถลงต่อศาลว่า ตัวจำเลยยังศึกษาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ขอให้ส่งประเด็นไปสืบที่ประเทศสหรัฐอเมริกาพฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวเป็นการประวิงคดีให้ชักช้า ศาลย่อมมีอำนาจสั่งงดสืบตัวจำเลยเสียได้โดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3007/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอระบุพยานเพิ่มเติมและการงดสืบพยานจำเลยในคดีแพ่ง กรณีประวิงคดี
การขอระบุพยานเพิ่มเติมหลังจากที่คู่ความฝ่ายที่มีหน้าที่นำสืบก่อนสืบไปหมดแล้วต้องมีเหตุผลแสดงว่าไม่สามารถทราบได้ว่า ตนจะต้องนำพยานหลักฐานบางอย่างมาสืบเพื่อประโยชน์ของตน หรือไม่ทราบว่าพยานหลักฐานบางอย่างได้มีอยู่ ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสาม เมื่อคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติมของจำเลยมิได้แสดงเหตุตามกฎหมายดังกล่าว ศาลไม่อนุญาตให้ระบะพยานเพิ่มเติมชอบแล้ว
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 102 เป็นเพียงบทบัญญัติที่กำหนดวิธีการส่งประเด็นไปสืบพยานที่ศาลอื่นในเมื่อศาลที่พิจารณาเห็นสมควรตามความจำเป็น
เมื่อถึงวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรก ทนายจำเลยแถลงต่อศาลว่า ตัวจำเลยยังไม่กลับจากต่างประเทศ ขอเลื่อนคดีโดยรับรองว่านัดหน้าจะไม่ขอเลื่อนคดีอีกไม่ว่ากรณีใด ๆ ศาลอนุญาตโดยกำชับว่า นัดหน้าไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใดก็ตาม ศาลจะไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีต่อไป แต่เมื่อถึงวันนัดทนายจำเลยได้แถลงต่อศาลว่า ตัวจำเลยยังศึกษาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ขอให้ส่งประเด็นไปสืบที่ประเทศสหรัฐอเมริกา พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวเป็นการประวิงคดีให้ชักช้า ศาลย่อมมีอำนาจสั่งงดสืบตัวจำเลยเสียได้โดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2985/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหย่าเนื่องจากจำเลยนำตำรวจจับกุมโจทก์ตามข้อกล่าวหาของบิดามารดา ถือเป็นการหมิ่นประมาทและทำให้โจทก์ยากจนลง
การที่บิดามารดาจำเลยไปแจ้งความต่อตำรวจกล่าวหาว่าโจทก์ลักทรัพย์แม้จะมิใช่เหตุที่โจทก์จะยกขึ้นอ้างเพื่อฟ้องขอหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากับจำเลยก็ตามแต่การที่จำเลยนำตำรวจไปจับกุมโจทก์ตามข้อกล่าวหาของบิดามารดานั้น การกระทำของจำเลยย่อมถือได้ว่าเป็นการลบหลู่ดูหมิ่นต่อเกียรติยศและชื่อเสียงของโจทก์ อันเป็นการหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามโจทก์อย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้โจทก์ฟ้องหย่าจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1516(3)
โจทก์เพิ่งจะหางานทำได้หลังจากที่แยกกันอยู่กับจำเลยจึงติดใจขอค่าเลี้ยงชีพจากจำเลย จำเลยมิได้นำสืบโต้แย้งเป็นอย่างอื่น กรณีถือได้ว่าการหย่าทำให้โจทก์ยากจนลง เพราะไม่มีรายได้จากการงานตามที่เคยทำอยู่ในระหว่างสมรส เมื่อเหตุแห่งการหย่าเป็นความผิดของจำเลยจำเลยจึงต้องจ่ายค่าเลี้ยงชีพให้โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1526

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2985/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องหย่าจากพฤติกรรมดูหมิ่นเหยียดหยามและการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคู่สมรส รวมถึงสิทธิในการได้รับค่าเลี้ยงชีพหลังหย่า
การที่บิดามารดาจำเลยไปแจ้งความต่อตำรวจกล่าวหาว่าโจทก์ลักทรัพย์แม้จะมิใช่เหตุที่โจทก์จะยกขึ้นอ้าง เพื่อฟ้องขอหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากับจำเลยก็ตามแต่การที่จำเลยนำตำรวจไปจับกุมโจทก์ตามข้อกล่าวหาของบิดามารดานั้น การกระทำของจำเลยย่อมถือได้ว่าเป็นการลบหลู่ดูหมิ่นต่อเกียรติยศและชื่อเสียงของโจทก์ อันเป็นการหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามโจทก์อย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้โจทก์ฟ้องหย่าจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516 (3)
โจทก์เพิ่งจะหางานทำได้หลังจากที่แยกกันอยู่กับจำเลยจึงติดใจขอค่าเลี้ยงชีพจากจำเลย จำเลยมิได้นำสืบโต้แย้งเป็นอย่างอื่น กรณีถือได้ว่าการหย่าทำให้โจทก์ยากจนลง เพราะไม่มีรายได้จากการงานตามที่เคยทำอยู่ในระหว่างสมรส เมื่อเหตุแห่งการหย่าเป็นความผิดของจำเลยจำเลยจึงต้องจ่ายค่าเลี้ยงชีพให้โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1526
of 51