คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประสม ศรีเจริญ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 505 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2896/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินที่เป็นสินสมรสโดยไม่ชอบธรรม การให้ตามสมควรในทางศีลธรรมอันดี และการเพิกถอนนิติกรรม
โจทก์กับ ช. สมรสกัน 60 ปี มาแล้วมีบุตรคนเดียว ต่อมาโจทก์ไปบวชชีโดยไม่ได้หย่ากัน ช. เป็นข้าราชการบำนาญ ออกจากบ้านเดิมไปพักอาศัยอยู่กับจำเลยและมารดา แล้วยกที่พิพาท 4 แปลงอันเป็นสินสมรสให้จำเลยซึ่งไม่ได้เป็นญาติกับโจทก์หรือ ช. โดยไม่ปรากฏว่าโจทก์และ ช. มีทรัพย์สินมีค่าอย่างอื่นอีก ดังนั้น ถือไม่ได้ว่าเป็นการให้ตามสมควรในทางศีลธรรมอันดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1480 เมื่อปราศจากความยินยอมของโจทก์การให้จึงไม่สมบูรณ์ โจทก์ขอเพิกถอนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2773/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่อาจรับวินิจฉัยเนื่องจากเป็นข้อพิพาทเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ตัดสินแล้ว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้องศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
โจทก์ฎีกาว่า จำเลยงดออกอาชญาบัตรให้โจทก์ เป็นการกระทำมิชอบเพื่อกลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย ควรฟังข้อเท็จจริงตามข้อนำสืบของโจทก์ คดีมีมูลครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ควรรับประทับฟ้องไว้พิจารณาต่อไป ดังนี้ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2690/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาการกระทำอนาจาร – การร่วมกระทำผิด – การให้โอกาสกระทำผิด
ผู้เสียหายจับมือ อ. เดินตามหาเพื่อน สวนทางกับจำเลยทันใดนั้นจำเลยที่ 1 ตรงเข้าจับมือผู้เสียหายสะบัดหลุดจากมือ อ.ส่วนจำเลยที่ 2 เข้าจับอวัยวะเพศผู้เสียหายและกระชากสร้อยคอพาวิ่งหนีไป การที่จำเลยที่ 2 จับอวัยวะเพศผู้เสียหายไม่มีพฤติการณ์แสดงว่าได้คบคิดกับจำเลยที่ 1 มาก่อน การจับมือผู้เสียหายแสดงให้เห็นเจตนาเพียงให้โอกาสจำเลยที่ 2 กระชากสร้อยได้สะดวกเท่านั้นจำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดฐานกระทำอนาจาร คงผิดฐานร่วมกันวิ่งราวทรัพย์เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2561/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิด: เริ่มนับเมื่อรู้การละเมิดและตัวผู้ต้องใช้ค่าสินไหม ไม่ใช่เมื่อได้รับแจ้งคำวินิจฉัย
ครั้งแรกคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำตำบลมีคำวินิจฉัยว่า โจทก์นำนาพิพาทไปให้บุคคลอื่นเช่าช่วงโดยไม่ได้รับความยินยอมจากจำเลย จำเลยจึงมีสิทธิบอกเลิกไม่ให้โจทก์เช่านาพิพาทได้ตามมาตรา 32(2) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 โจทก์อุทธรณ์คำวินิจฉัยดังกล่าวต่อคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำจังหวัดตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา มาตรา 43 ดังนั้นการบอกเลิกการเช่านาตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการฯประจำตำบลยังไม่มีผลใช้บังคับได้ในทันที เมื่อจำเลยเข้าไปทำนาพิพาทจึงเป็นการละเมิดต่อสิทธิการเข้าทำนาพิพาทของโจทก์ อายุความจึงต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 บัญญัติไว้ อายุความมิได้นับเริ่มตั้งแต่วันที่นายอำเภอมีหนังสือแจ้งให้โจทก์ทราบถึงคำวินิจฉัยของคณะกรรมการฯ ประจำจังหวัดว่า จำเลยไม่มีสิทธิบอกเลิกการเช่านาพิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2477/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม ศาลไม่รับฟ้องแย้งได้
จำเลยได้ว่าจ้างโจทก์ทำลูกกลิ้ง 2 ครั้ง คือทำลูกกลิ้งเหล็กชุบโครเมี่ยมซึ่งยังเป็นปัญหาโต้เถียงกันอยู่ และทำลูกกลิ้งยางคนละคราวไม่เกี่ยวข้องกัน ทั้งการทำลูกกลิ้งยางของโจทก์ก็เสร็จสิ้นแล้วไม่มีข้อโต้เถียงกันแต่ประการใด แต่จำเลยยังไม่ชำระสินจ้างให้โจทก์ โจทก์ฟ้องจำเลยให้ชำระสินจ้างค่าทำลูกกลิ้งยางเป็นคดีนี้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับลูกกลิ้งเหล็กชุบโครเมี่ยม ดังนั้นคำฟ้องแย้งของจำเลยที่เรียกสินจ้างค่าทำลูกกลิ้งเหล็กชุบโครเมี่ยมคืนในข้อชำรุดบกพร่องของลูกกลิ้งดังกล่าวนั้นจึงเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมของโจทก์ ศาลชอบที่จะมีคำสั่งไม่รับฟ้องแย้งของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2477/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งต้องเกี่ยวเนื่องกับคำฟ้องเดิม หากไม่เกี่ยว ศาลไม่รับฟ้องแย้ง
จำเลยได้ว่าจ้างโจทก์ทำลูกกลิ้ง 2 ครั้ง คือทำลูกกลิ้งเหล็กชุบโครเมี่ยมซึ่งยังเป็นปัญหาโต้เถียงกันอยู่ และทำลูกกลิ้งยางคนละคราวไม่เกี่ยวข้องกัน ทั้งการทำลูกกลิ้งยางของโจทก์ก็เสร็จสิ้นแล้วไม่มีข้อโต้เถียงกันแต่ประการใดแต่จำเลยยังไม่ชำระสินจ้างให้โจทก์ โจทก์ฟ้องจำเลยให้ชำระสินจ้างค่าทำลูกกลิ้งยางเป็นคดีนี้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับลูกกลิ้งเหล็กชุบโครเมี่ยม ดังนั้นคำฟ้องแย้งของจำเลยที่เรียกสินจ้างค่าทำลูกกลิ้งเหล็กชุบโครเมี่ยมคืนในข้อชำรุดบกพร่องของลูกกลิ้งดังกล่าวนั้นจึงเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมของโจทก์ ศาลชอบที่จะมีคำสั่งไม่รับฟ้องแย้งของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2440/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลอกลวงเพื่อเรียกทรัพย์สิน: ผู้ถูกหลอกลวงมีสิทธิร้องทุกข์
จำเลยกับภริยาร่วมกันหลอกลวง ศ. ว่าสามารถนำบุตรของ ศ. เข้าเรียนเป็นผู้ช่วยพยาบาลในโรงพยาบาลได้โดยไม่ต้องสอบคัดเลือกเข้าเรียน และเรียกร้องเอาเงินจำนวนหนึ่ง ศ. ตกลงและมอบเงินให้ภริยาจำเลยไป ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่า ศ. ให้เงินไปเพื่อให้จำเลยหรือภริยานำไปให้แก่เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการสอบคัดเลือกให้กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่โดยทุจริต พฤติการณ์น่าจะเป็นว่าจำเลยกับภริยาร่วมกันหลอกลวง ศ. เพื่อต้องการได้เงินจาก ศ. เท่านั้น ถือไม่ได้ว่า ศ. ได้ร่วมกับจำเลยนำสินบนไปให้เจ้าพนักงานอันเป็นการใช้ให้จำเลยกระทำผิด ศ. ย่อมเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย และมีสิทธิร้องทุกข์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2440/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลอกลวงเพื่อเรียกรับเงินและการมีสิทธิร้องทุกข์ของผู้ถูกหลอกลวง
จำเลยกับภริยาร่วมกันหลอกลวง ศ. ว่าสามารถนำบุตรของศ. เข้าเรียนเป็นผู้ช่วยพยาบาลในโรงพยาบาลได้โดยไม่ต้องสอบคัดเลือกเข้าเรียน และเรียกร้องเอาเงินจำนวนหนึ่ง ศ.ตกลงและมอบเงินให้ภริยาจำเลยไป ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าศ. ให้เงินไปเพื่อให้จำเลยหรือภริยานำไปให้แก่เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการสอบคัดเลือกให้กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่โดยทุจริต พฤติการณ์น่าจะเป็นว่าจำเลยกับภริยาร่วมกันหลอกลวง ศ. เพื่อต้องการได้เงินจาก ศ.เท่านั้น.ถือไม่ได้ว่าศ. ได้ร่วมกับ จำเลยนำสินบนไปให้เจ้าพนักงานอันเป็นการใช้ให้จำเลย กระทำผิด ศ. ย่อมเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย และมี สิทธิร้องทุกข์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2417/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ประมาทเอง ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้อื่น แม้มีประกันภัย
ช. ขับรถยนต์ชนกับรถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ 2 ซึ่งมีจำเลยที่ 1 ลูกจ้างเป็นผู้ขับขี่ไปในทางการที่จ้าง ช. ถูกฟ้องเป็นคดีอาญาและศาลพิพากษาลงโทษฐานขับรถยนต์ประมาทเป็น เหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย คดีถึงที่สุด ดัง นั้น ช. ไม่อยู่ในฐานะเป็นเจ้าหนี้ที่จะมีสิทธิเรียกร้อง ค่าเสียหายได้จากจำเลยทั้งสอง แม้โจทก์ซึ่งรับประกันภัย รถยนต์ไว้จาก ช. จะได้ชำระเงินให้แก่ ช. ไป ก็เป็นการปฏิบัติไปตามสัญญาในกรมธรรม์ประกันภัยที่โจทก์ทำไว้กับ ช. แต่หาอาจก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ที่จะรับช่วงสิทธิ จาก ช. นำคดีมาฟ้องจำเลยทั้งสองให้ร่วมกันรับผิดต่อ โจทก์ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880 นั้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2417/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บริษัทประกันภัยไม่อาจรับช่วงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ประมาทเองได้ แม้จะจ่ายเงินชดใช้ให้
ช. ขับรถยนต์ชนกับรถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ 2 ซึ่งมีจำเลยที่ 1 ลูกจ้างเป็นผู้ขับขี่ไปในทางการที่จ้าง ช. ถูกฟ้องเป็นคดีอาญาและศาลพิพากษาลงโทษฐานขับรถยนต์ประมาทเป็น เหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย คดีถึงที่สุด ดัง นั้น ช. ไม่อยู่ในฐานะเป็นเจ้าหนี้ที่จะมีสิทธิเรียกร้อง ค่าเสียหายได้จากจำเลยทั้งสอง แม้โจทก์ซึ่งรับประกันภัย รถยนต์ไว้จาก ช. จะได้ชำระเงินให้แก่ ช. ไป ก็เป็นการปฏิบัติไปตามสัญญาในกรมธรรม์ประกันภัยที่โจทก์ทำไว้กับ ช. แต่หาอาจก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ที่จะรับช่วงสิทธิ จาก ช. นำคดีมาฟ้องจำเลยทั้งสองให้ร่วมกันรับผิดต่อ โจทก์ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880 นั้นไม่
of 51