คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประสม ศรีเจริญ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 505 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2542/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อข้าวเปลือกที่ได้มาจากการลักทรัพย์: ไม่ใช่การซื้อขายในท้องตลาด
แม้โรงสีเป็นสถานที่แหล่งรับซื้อข้าวเปลือกแต่การที่จำเลยซื้อข้าวเปลือกของโจทก์ที่ ส. ลักเอามาขายให้ที่โรงสีของจำเลยนั้น มิใช่การซื้อจากร้านค้าใดร้านค้าหนึ่งที่อยู่ในชุมนุมการค้า จึงไม่เป็นการซื้อทรัพย์ในท้องตลาดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1332

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2508/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับตามสัญญาประกัน: ศาลมีอำนาจลดจำนวนหากสูงเกินควร โดยคำนึงถึงพฤติการณ์และผลกระทบ
ค่าปรับตามสัญญาประกันมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ หากมีจำนวนสูงเกินไป ศาลย่อมมีอำนาจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้
จำเลยทำสัญญาประกันผู้ต้องหาความผิดฐานยักยอก เมื่อผิดสัญญาแล้วจำเลยก็มิได้ละเลยทอดทิ้ง ได้ติดตามจนได้ตัวผู้ต้องหามาส่งให้โจทก์ดำเนินคดีผลที่สุดผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ ศาลสั่งจำหน่ายคดีไปแล้วดังนี้ศาลลดค่าปรับตามสัญญาประกันลงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2468/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจร้องทุกข์, การบรรเทาความเสียหายจากการไม่ใช้เช็ค, และผลของสัญญาจำนองต่อความผิดฐานออกเช็ค
การร้องทุกข์ไม่มีกฎหมายห้ามมิให้มีการมอบอำนาจ ทั้งมิใช่กรณี ที่กฎหมายบังคับให้ผู้เสียหายต้องกระทำด้วยตนเอง ผู้เสียหายจึงมอบอำนาจ ให้ผู้อื่นร้องทุกข์แทนได้
จำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ค่าซื้อยางรถยนต์ให้ผู้เสียหายต่อมา ธนาคารปฏิเสธการใช้เงินตามเช็ค การที่ผู้เสียหายเอายางรถยนต์บางส่วน คืนจากจำเลยเป็นการกระทำเพื่อบรรเทาความเสียหายเท่านั้น เมื่อไม่ได้ ความว่ามีข้อตกลงให้ระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ย่อมถือไม่ได้ว่าเป็นการยอมความอันเป็นเหตุให้สิทธิการฟ้องคดีอาญา ระงับ
กรณีมีผู้จำนองที่ดินเป็นประกันการชำระหนี้ตามสัญญาซื้อขาย ระหว่าง ผู้เสียหายกับจำเลย ที่จำเลยออกเช็คชำระหนี้แก่โจทก์นั้น เป็นความผูกพัน ตามสัญญาจำนองอีกส่วนหนึ่งต่างหาก ไม่มีผลให้การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2468/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจร้องทุกข์ และการบรรเทาความเสียหายจากการใช้เช็ค ไม่ถือเป็นการยอมความ
การร้องทุกข์ไม่มีกฎหมายห้ามมิให้มีการมอบอำนาจ ทั้งมิใช่กรณีที่กฎหมายบังคับให้ผู้เสียหายต้องกระทำด้วยตนเอง ผู้เสียหายจึงมอบอำนาจให้ผู้อื่นร้องทุกข์แทนได้
จำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ค่าซื้อยางรถยนต์ให้ผู้เสียหาย ต่อมาธนาคารปฏิเสธการใช้เงินตามเช็ค การที่ผู้เสียหายเอายางรถยนต์บางส่วนคืนจากจำเลยเป็นการกระทำเพื่อบรรเทาความเสียหายเท่านั้น เมื่อไม่ได้ความว่ามีข้อตกลงให้ระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ย่อมถือไม่ได้ว่าเป็นการยอมความอันเป็นเหตุให้สิทธิการฟ้องคดีอาญาระงับ
กรณีมีผู้จำนองที่ดินเป็นประกันการชำระหนี้ตามสัญญาซื้อขายระหว่างผู้เสียหายกับจำเลย ที่จำเลยออกเช็คชำระหนี้แก่โจทก์นั้น เป็นความผูกพันตามสัญญาจำนองอีกส่วนหนึ่งต่างหาก ไม่มีผลให้การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2433/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอพิจารณาคดีใหม่: การส่งคำบังคับโดยชอบและผลของการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล
ในการขอพิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 ไม่ว่าในกรณีปกติหรือในกรณีที่มีพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ ระยะเวลาในการขอพิจารณาคดีใหม่ภายในสิบห้าวันหรือภายในหกเดือนแล้วแต่กรณีนั้น จะเริ่มบังคับต่อเมื่อได้มีการส่งคำบังคับโดยชอบแล้ว หากไม่มีการส่งคำบังคับโดยชอบแล้วจะยื่นคำขอพิจารณาใหม่เมื่อใดก็ได้ไม่อยู่ในบังคับของมาตรา 208 ดังกล่าว
เมื่อศาลมิได้สั่งให้นำส่งและกำหนดเวลาให้นำส่งหมายนัดการไต่สวนไว้ จะถือว่าทิ้งคำร้องหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2433/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอพิจารณาคดีใหม่, คำบังคับ, การส่งหมายนัด, และการเพิกเฉยต่อกระบวนการยุติธรรม
ในการขอพิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 ไม่ว่าในกรณีปกติหรือในกรณีที่มี พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ ระยะเวลาในการ พิจารณาคดีใหม่ภายในสิบห้าวันหรือภายในหกเดือนแล้วแต่กรณี นั้น จะเริ่มบังคับต่อเมื่อได้มีการส่งคำบังคับโดยชอบแล้ว หากไม่มีการส่งคำบังคับโดยชอบแล้วจะยื่น คำขอพิจารณาใหม่เมื่อใดก็ได้ไม่อยู่ในบังคับของมาตรา 208 ดังกล่าว
เมื่อศาลมิได้สั่งให้นำส่งและกำหนดเวลาให้นำส่งหมายนัดการไต่สวนไว้จะถือว่าทิ้งคำร้องหรือไม่ปฏิบัติตาม คำสั่งศาลไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2406/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดครองที่ดินในเขตป่าสงวนก่อนประกาศใช้กฎกระทรวงกำหนดเป็นป่าสงวน การกระทำนั้นไม่เป็นความผิด
จำเลยเข้าไปยึดถือครอบครองทำประโยชน์ที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติก่อนกฎกระทรวงกำหนดให้ที่เกิดเหตุเป็นป่าสงวนแห่งชาติใช้บังคับ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด แม้จำเลยจะไม่ฎีกาข้อนี้ขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2406/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดครองที่ดินก่อนประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ไม่เป็นความผิด
จำเลยเข้าไปยึดถือครอบครองทำประโยชน์ที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติก่อนกฎกระทรวงกำหนดให้ที่เกิดเหตุเป็นป่าสงวนแห่งชาติใช้บังคับ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดแม้จำเลยจะไม่ฎีกาข้อนี้ขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2368/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดก: โจทก์มีสิทธิขอรวมในคดีมีข้อพิพาท แม้ศาลชั้นต้นจะไม่อาจเพิกถอนได้ ก็ต้องพิจารณาข้อเท็จจริงอื่น
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งที่ตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกเป็นคดีมีข้อพิพาท คำขอท้ายฟ้องมีหลายข้อด้วยกันโดยเฉพาะคำขอให้จำเลยพ้นจากการเป็นผู้จัดการมรดกย่อมหมายถึงขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1727ซึ่งโจทก์มีสิทธิร้องขอรวมมาในคดีนี้ได้ไม่จำต้องแยกไปร้องขอในคดีเดิม แม้ศาลชั้นต้นจะเห็นว่าศาลไม่อาจสั่งเพิกถอนคำสั่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกได้ ก็ยังต้องฟังข้อเท็จจริงตามคำขอข้ออื่นของโจทก์อยู่อีก จะงดสืบพยานแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียทั้งหมดหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2368/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดก: โจทก์มีสิทธิขอรวมในคดีมีข้อพิพาทได้ ไม่ต้องแยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งที่ตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดก เป็นคดีมีข้อพิพาทคำขอท้ายฟ้องมีหลายข้อด้วยกัน โดยเฉพาะคำขอให้จำเลยพ้นจากการเป็นผู้จัดการมรดกย่อมหมายถึงขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1727 ซึ่งโจทก์มีสิทธิร้องขอรวมมาในคดีนี้ได้ ไม่จำต้องแยกไปร้องขอในคดีเดิม แม้ศาลชั้นต้นจะเห็นว่า ศาลไม่อาจสั่งเพิกถอนคำสั่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกได้ แม้ศาลชั้นต้นจะเห็นว่า ศาลไม่อาจสั่งเพิกถอนคำสั่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกได้ ก็ยังต้องฟังข้อเท็จจริงตามคำขอข้ออื่นของโจทก์อยู่อีก จะงดสืบพยานแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียทั้งหมดหาได้ไม่
of 51