พบผลลัพธ์ทั้งหมด 505 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 814/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแต่งตั้งผู้จัดการมรดกชั่วคราว: ประโยชน์ต้องอยู่ที่การจัดการทรัพย์สิน ไม่ใช่แค่การได้เป็นผู้จัดการ
คดีพิพาทกันเรื่องแต่งตั้งผู้จัดการมรดก จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายเป็นการชั่วคราว โดยอ้างว่าจำเลยเป็นทายาทตามพินัยกรรมและเจ้ามรดกตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดก ถ้าจำเลยไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกชั่วคราว กองมรดกจะได้รับความเสียหาย ดังนี้ ยังไม่มีเหตุผลสมควรที่จะแต่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกชั่วคราว เพราะโจทก์จำเลยพิพาทกันเพียงว่า โจทก์หรือจำเลยคนใดคนหนึ่งสมควรเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย มิได้พิพาทเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องเอาทรัพย์สินซึ่งเป็นมรดกของผู้ตายแต่อย่างใด ประโยชน์ของจำเลยอยู่ที่การได้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหรือไม่เท่านั้น ไม่ได้อยู่ที่การจะได้รับส่วนแบ่งในทรัพย์สินมรดกของผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 695/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คู่ความผูกพันตามคำพิพากษา: แม้ระบุฐานะผู้จัดการมรดก แต่ฟ้องฐานะทายาทก็ต้องผูกพันตามคำพิพากษา
แม้ในช่องคู่ความในคดีเดิม โจทก์จะระบุว่าจำเลยทั้งสองในฐานะผู้จัดการมรดกของ ป. เป็นจำเลย แต่ตามเนื้อหาของคำฟ้อง แสดงว่าโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองในฐานะทายาทผู้ครอบครองทรัพย์มรดกของผู้ตายด้วย ผู้ร้องซึ่งเป็นจำเลยที่ 2 ในคดีดังกล่าวจึงเป็นคู่ความในฐานะส่วนตัวต้องผูกพันตามคำพิพากษาดังกล่าว ผู้ร้องจะมาอ้างในคดีใหม่อีกว่าทรัพย์พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 587/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิรับมรดกของบุตรบุญธรรม vs น้องร่วมบิดามารดา: ผู้มีส่วนได้เสียในการจัดการมรดก
บุตรผู้เยาว์ทั้งสามของผู้ร้อง เป็นบุตรบุญธรรมโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย จึงถือว่าเป็นผู้สืบสันดานของผู้ตายเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 และเป็นทายาทโดยธรรมผู้มีสิทธิได้รับมรดกในลำดับที่ 1 ตามมาตรา1629. ผู้คัดค้านที่ 1 เป็นเพียงน้องร่วมบิดามารดาเดียวกับผู้ตาย ไม่มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย ตามมาตรา1630 จึงไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียที่จะร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกได้ตามมาตรา 1713
ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ปกครองของบุตรผู้เยาว์ตามคำสั่งศาลเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงในการจัดการมรดก ร้องขอต่อศาลให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกได้
ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ปกครองของบุตรผู้เยาว์ตามคำสั่งศาลเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงในการจัดการมรดก ร้องขอต่อศาลให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 547/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการฟ้องคืนสิทธิในที่ดิน: กรณีไม่ใช่การแย่งการครอบครอง
จำเลยบุกรุกเข้าปลูกบ้านในที่ดินของโจทก์เมื่อโจทก์แจ้งให้จำเลยรื้อถอนบ้านออกไป จำเลยโต้แย้งว่าที่พิพาทอยู่ในเขตทางหลวง เช่นนี้กรณีมิใช่เรื่องที่จำเลยแย่งการครอบครองที่ดินเป็นของตนโจทก์จึงไม่ต้องฟ้องคดีภายในหนึ่งปีนับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกคืนของให้เนื่องจากประพฤติเนรคุณ นับแต่วันที่ทราบเหตุ
โจทก์ฟ้องคดีเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุจำเลยประพฤติเนรคุณ เมื่อพ้นหกเดือนนับแต่วันที่โจทก์ทราบเหตุเช่นนั้นฟ้องของโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา533
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 453/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษตามมาตรา 340 ตรี มิใช่ความผิดเพิ่ม แต่เป็นเหตุให้โทษหนักขึ้น การลงโทษประหารชีวิตแล้ว ไม่สามารถปรับโทษตามมาตรานี้ได้
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา340 ตรี เป็นเพียงเหตุที่ทำให้ผู้กระทำความผิดตามมาตราที่ระบุไว้ได้รับโทษหนักขึ้นเท่านั้น หาได้เป็นความผิดต่างหากอีกบทหนึ่งไม่ และไม่ใช่เรื่องของการเพิ่มโทษดังนั้นเมื่อลงโทษให้ประหารชีวิตแล้วก็ไม่มีทางที่จะระวางโทษหนักกว่าหรือหนักขึ้นกึ่งหนึ่งตามที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี บัญญัติไว้ได้ จึงนำ มาตรา 340 ตรี นี้มาปรับด้วยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 447/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการพิจารณาคำขออนาถาใหม่: ศาลจำกัดเฉพาะการพิสูจน์ฐานะยากจน ไม่รวมเหตุผลการอุทธรณ์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสี่ บัญญัติเฉพาะเพื่ออนุญาตให้ผู้ขอนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมในประเด็นว่า ผู้ขอเป็นคนยากจนเท่านั้นหาได้ให้สิทธิแก่ผู้ขอที่จะขอให้ศาลพิจารณาใหม่ในประเด็นว่า คดีของผู้ขอมีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์ด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 447/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการพิจารณาคำขออนาถาใหม่: เน้นพยานหลักฐานเหตุผลอุทธรณ์ ไม่ใช่พิจารณาเหตุผลอุทธรณ์ซ้ำ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสี่ บัญญัติเฉพาะ เพื่ออนุญาตให้ผู้ขอนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมในประเด็นว่า ผู้ขอเป็นคนยากจนเท่านั้น หาได้ให้สิทธิแก่ผู้ขอที่จะขอให้ศาลพิจารณาใหม่ในประเด็นว่า คดีของผู้ขอมีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์ด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจดทะเบียนการค้าผูกพันผู้ประกอบการต้องชำระภาษี แม้จะอ้างว่าถูกเชิดให้จดทะเบียน
ประมวลรัษฎากรมาตรา 78 วรรคแรกบัญญัติให้ผู้ประกอบการค้าตามที่ระบุไว้ในบัญชีอัตราภาษีการค้ามีหน้าที่เสียภาษีการค้าจากรายรับของทุกเดือนภาษีตามอัตราในบัญชีอัตราภาษีการค้ามาตรา 80 วรรคแรก ให้ผู้ประกอบการค้ายื่นคำขอจดทะเบียนการค้าตามแบบที่อธิบดีกำหนดมาตรา 84 ให้ผู้มีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการชำระภาษีพร้อมกับการยื่นแบบแสดงรายการนั้น เห็นได้ว่ากฎหมายกำหนดหน้าที่ของผู้ประกอบการค้าไว้ดังกล่าวเพื่อประโยชน์แก่การจัดเก็บภาษี เมื่อโจทก์ยื่น คำขอจดทะเบียนการค้าโรงเลื่อย ส. ย่อมเป็นหลักฐานแสดงตนต่อทางราชการว่า โจทก์เป็นผู้ประกอบการค้าในกิจการนั้นตามกฎหมาย เป็นการยินยอมผูกพันตนที่จะยื่นแบบแสดงรายการการค้า และเสียภาษีการค้ารวมทั้งยอมรับว่ามีเงินได้จากกิจการที่จดทะเบียนการค้าไว้ตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายด้วย โจทก์จะอ้างว่าโจทก์ถูกเชิดให้ขอจดทะเบียนการค้าอันเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างโจทก์กับ จ. นอกเหนือจากที่แสดงไว้ต่อทางราชการ เป็นข้อแก้ตัวให้พ้นความรับผิดชำระภาษีหาได้ไม่ เมื่อทะเบียนการค้ามีชื่อโจทก์เป็นผู้ประกอบการค้าทั้งแบบแสดงรายการการค้าและภาษีเงินได้ที่ยื่นไว้ในนามโจทก์ แสดงรายรับไว้ต่ำกว่าความจริงเจ้าพนักงานประเมินย่อมมีอำนาจทำการประเมินให้โจทก์ชำระภาษีเพิ่มให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายของผู้เช่าซื้อเมื่อรถเสียหายจากละเมิด ผู้รับประกันภัยต้องรับผิดชอบเต็มจำนวน
จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ที่โจทก์เช่าซื้อมาเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมให้กลับคืนดีได้ แม้โจทก์จะชำระราคาค่าเช่าซื้อยังไม่ครบ โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหาย และต้องถือว่าจำเลยที่ 1 ได้ทำละเมิดโดยตรงต่อโจทก์ โจทก์ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ผู้รับประกันภัยค้ำจุนได้เต็มราคารถจักรยานยนต์