คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประสม ศรีเจริญ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 505 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495-496/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ต้องมีการกระทำความผิดเกิดขึ้นก่อน จึงจะมีความผิดฐานสนับสนุนได้
การที่ผู้สนับสนุนผู้กระทำความผิดจะต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 100 นั้น จะต้องมีการกระทำผิดเกี่ยวกับการผลิต จำหน่าย นำเข้าหรือส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติดังกล่าวเกิดขึ้นก่อน ไม่ว่าจะเป็นในขั้นพยายามหรือความผิดสำเร็จโดยมีหลักเดียวกับหลักทั่วไปของการสนับสนุนผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ดังนั้น เมื่อปรากฏว่ากัญชาที่จะส่งออกนอกราชอาณาจักรอยู่ในขั้นเตรียมการ ยังไม่ถึงขั้นพยายามกระทำความผิด แม้จำเลยจะได้ช่วยเหลือในการที่จะส่งกัญชาออกนอกราชอาณาจักร ก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นความผิดฐานสนับสนุนให้มีการส่งกัญชาออกนอกราชอาณาจักรส่วนการแกล้งละเลยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นการกระทำความผิดก็มิได้หมายความว่าเป็นการสนับสนุนทางอ้อมเสมอไป เพราะการละเว้นไม่ขัดขวางในเมื่อไม่มีหน้าที่ขัดขวางไม่ถือเป็นการกระทำโดยงดเว้นตามประมวลกฎหมายอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกสัญญาซื้อขายและการติดตามเอาทรัพย์สินคืน: กรรมสิทธิ์ยังไม่ระงับแม้ครอบครองนาน
จำเลยได้รับมอบลิฟท์พร้อมด้วยเครื่องอุปกรณ์ไว้ในความครอบครองตามเงื่อนไขแห่งสัญญาจะซื้อขายอันเป็นการครอบครองแทนโจทก์ แม้จะครอบครองเป็นเวลาช้านานเพียงใด จำเลยก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์
การที่โจทก์ใช้สิทธิเลิกสัญญาจะซื้อขายที่ทำไว้แก่จำเลยและเรียกให้จำเลยส่งมอบลิฟท์พร้อมด้วยเครื่องอุปกรณ์อันเป็นทรัพย์สินที่ซื้อขายคืนหากส่งคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทน เป็นกรณีที่เจ้าของกรรมสิทธิ์ติดตามเอาทรัพย์สินคืนจึงไม่มีอายุความ
เมื่อโจทก์มีหนังสือบอกเลิกสัญญาไปยังจำเลยแล้ว การแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาจะถอนเสียมิได้ ดังนั้นการที่โจทก์มีหนังสือติดต่อขอส่งมอบลิฟท์ให้แก่จำเลยและขอเก็บเงินงวดสุดท้ายในเวลาต่อมา จึงเป็นเพียงคำเสนอขึ้นใหม่ เมื่อไม่มีการสนองตอบจึงไม่ก่อให้เกิดผลแต่อย่างใด โจทก์ไม่จำต้องบอกเลิกสัญญาแก่จำเลยอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกสัญญาซื้อขายและการคืนทรัพย์สิน: กรรมสิทธิ์ยังคงเป็นของผู้ขายจนกว่าจะชำระเงินครบถ้วน แม้จำเลยครอบครองเป็นเวลานานก็ไม่เกิดกรรมสิทธิ์
จำเลยได้รับมอบลิฟท์พร้อมด้วยเครื่องอุปกรณ์ไว้ในความครอบครองตามเงื่อนไขแห่งสัญญาจะซื้อขายอันเป็นการครอบครองแทนโจทก์ แม้จะครอบครองเป็นเวลาช้านานเพียงใด จำเลยก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์
การที่โจทก์ใช้สิทธิเลิกสัญญาจะซื้อขายที่ทำไว้แก่จำเลยและเรียกให้จำเลยส่งมอบลิฟท์พร้อมด้วยเครื่องอุปกรณ์อันเป็นทรัพย์สินที่ซื้อขายคืนหากส่งคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทนเป็นกรณีที่เจ้าของกรรมสิทธิ์ติดตามเอาทรัพย์สินคืนจึงไม่มีอายุความ
เมื่อโจทก์มีหนังสือบอกเลิกสัญญาไปยังจำเลยแล้ว การแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาจะถอนเสียมิได้ ดังนั้นการที่โจทก์มีหนังสือติดต่อขอส่งมอบลิฟท์ให้แก่จำเลยและขอเก็บเงินงวดสุดท้ายในเวลาต่อมา จึงเป็นเพียงคำเสนอขึ้นใหม่เมื่อไม่มีการสนองตอบจึงไม่ก่อให้เกิดผลแต่อย่างใดโจทก์ไม่จำต้องบอกเลิกสัญญาแก่จำเลยอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 424/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงเจตนาลวง นิติกรรมโมฆะ สิทธิในทรัพย์สินระหว่างสมรส การจัดการทรัพย์มรดก
การแสดงเจตนาลวงที่จะเป็นเหตุทำให้เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118 นั้น ต้องเป็นการแสดงเจตนาที่ทำขึ้นโดยความประสงค์ร่วมกันของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายที่จะไม่ให้ผูกพันกัน การที่จำเลยที่ 1 แสดงเจตนาทำนิติกรรมจดทะเบียนยกที่ดินให้จำเลยที่ 2 โดยแจ้งเท็จแก่เจ้าพนักงานที่ดินว่าสามีจำเลยที่ 1 ตาย จำเลยที่ 1 ยังไม่มีสามีใหม่นั้น เป็นการแสดงเจตนาทำนิติกรรมยกที่ดินให้กันจริง ไม่ปรากฏว่าได้แสดงเจตนาลวงด้วยสมรู้กับคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งแต่อย่างใด จึงไม่เป็นโมฆะ
จำเลยที่ 1 เคยทวงถามเงินกู้จากผู้กู้หลังจากเจ้ามรดกตาย โดยยอมลดจำนวนเงินกู้ให้ หรือให้ผู้กู้เปลี่ยนเป็นกู้จำเลยที่ 1 แทนแต่ผู้กู้ไม่ยอม และเมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกขอให้ส่งมอบสัญญากู้เงินดังกล่าวให้ จำเลยที่ 1 บิดพลิ้วโดยขอหักเป็นค่าทำศพเจ้ามรดกรูปเรื่องน่าจะเป็นเพราะจำเลยที่ 1 ในฐานะทายาทเข้าใจว่าตนมีสิทธิจะทำได้ และเป็นการใช้สิทธิขอหักกลบลบหนี้ ไม่พอฟังว่าปิดบังหรือยักย้ายทรัพย์มรดก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 424/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงเจตนาลวง นิติกรรมยกทรัพย์สินระหว่างสมรส และการยักย้ายทรัพย์มรดก
การแสดงเจตนาลวงที่จะเป็นเหตุทำให้เป็นโมฆะตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118 นั้น ต้องเป็นการแสดงเจตนาที่ทำขึ้นโดยความประสงค์ร่วมกันของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายที่จะไม่ให้ผูกพันกัน การที่จำเลยที่ 1แสดงเจตนาทำนิติกรรมจดทะเบียนยกที่ดินให้จำเลยที่ 2 โดยแจ้งเท็จแก่เจ้าพนักงานที่ดินว่าสามีจำเลยที่ 1 ตายจำเลยที่ 1 ยังไม่มีสามีใหม่นั้น เป็นการแสดงเจตนาทำนิติกรรมยกที่ดินให้กันจริง ไม่ปรากฏว่าได้แสดงเจตนาลวงด้วยสมรู้กับคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งแต่อย่างใดจึงไม่เป็นโมฆะ
จำเลยที่ 1 เคยทวงถามเงินกู้จากผู้กู้หลังจากเจ้ามรดกตายโดยยอมลดจำนวนเงินกู้ให้ หรือให้ผู้กู้เปลี่ยนเป็นกู้จำเลยที่ 1 แทนแต่ผู้กู้ไม่ยอม และเมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกขอให้ส่งมอบสัญญากู้เงินดังกล่าวให้ จำเลยที่1 บิดพลิ้วโดยขอหักเป็นค่าทำศพเจ้ามรดกรูปเรื่องน่าจะเป็นเพราะจำเลยที่ 1 ในฐานะทายาทเข้าใจว่าตนมีสิทธิจะทำได้ และเป็นการใช้สิทธิขอหักกลบลบหนี้ ไม่พอฟังว่าปิดบังหรือยักย้ายทรัพย์มรดก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 403/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขบัญชีเงินฝากไม่ทำให้เจ้าของบัญชีเสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
การ์ดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันเป็นเอกสารที่ธนาคารจัดทำขึ้นเป็นหลักฐานของธนาคารเอง แสดงการเป็นลูกหนี้เจ้าหนี้ที่มีต่อเจ้าของบัญชีตามรายการที่แสดงไว้ การที่จำเลยที่ 2 ผู้รักษาการในตำแหน่งสมุห์บัญชีและจำเลยที่ 3 ผู้จัดการธนาคารแก้ไขเพิ่มจำนวนเงินฝากในการ์ดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันของโจทก์ที่ธนาคาร โดยโจทก์มิได้นำเงินเข้าบัญชีตามรายการนั้น การแก้ไขรายการเช่นนั้นมิได้ทำให้โจทก์เสียสิทธิที่มีต่อธนาคาร โจทก์มิใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 403/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขรายการในบัญชีธนาคารไม่ทำให้เจ้าของบัญชีเสียสิทธิ จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
การ์ดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันเป็นเอกสารที่ธนาคารจัดทำขึ้นเป็นหลักฐานของธนาคารเอง แสดงการเป็นลูกหนี้เจ้าหนี้ที่มีต่อเจ้าของบัญชีตามรายการที่แสดงไว้ การที่จำเลยที่ 2 ผู้รักษาการในตำแหน่งสมุห์บัญชีและจำเลยที่ 3 ผู้จัดการธนาคารแก้ไขเพิ่มจำนวนเงินฝากในการ์ดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันของโจทก์ที่ธนาคาร โดยโจทก์มิได้นำเงินเข้าบัญชีตามรายการนั้น การแก้ไขรายการเช่นนั้นมิได้ทำให้โจทก์เสียสิทธิที่มีต่อธนาคาร โจทก์มิใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 351/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพรากผู้เยาว์, ข่มขืน, และการฟ้องที่ไม่ชัดเจน
จำเลยฉุดคร่าผู้เสียหายจากทางเดินพาเข้าไปในทุ่งนาข่มขืนกระทำชำเราแล้วก็ทิ้งผู้เสียหายไว้ ณ ที่เกิดเหตุ แสดงว่าจำเลยพาไปเพื่อจะกระทำชำเราเท่านั้นหาได้มีเจตนาพาหรือแยกเอาผู้เสียหายไปจากความปกครองดูแลของบิดามารดาผู้เสียหายไม่ จึงไม่เป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์ตาม ป.อ.ม.318 ด้วย
การพรากผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแลผู้กระทำไม่จำต้องมีเจตนาเพื่อการอนาจาร หรือทำให้ผู้เยาว์ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ก็เป็นความผิดได้อยู่ในตัวเอง เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องเฉพาะเรื่องพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร โดยไม่บรรยายให้ปรากฏการกระทำตาม ป.อ. ม.284 และ ม.310 ที่ขอให้ลงโทษมาท้ายฟ้องด้วยจึงไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. ม.158 ศาลจะปรับบทลงโทษตามมาตราดังกล่าวไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 331/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมสมบูรณ์ แม้ผู้รับผลประโยชน์ไม่เป็นบุตร ผู้วายชนม์มีสิทธิกำหนดผู้จัดการมรดก
ผู้วายชนม์ทำพินัยกรรมไว้ แม้ผู้คัดค้านเป็นบุตรของผู้วายชนม์แต่ตามพินัยกรรมผู้คัดค้านไม่มีส่วนได้รับทรัพย์สินของผู้วายชนม์เลย จึงไม่สมควรตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกร่วมด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 321/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดเครื่องหมายการค้า: การใช้ชื่อ/เครื่องหมายคล้ายกัน ทำให้สาธารณชนสับสน และแสวงหาประโยชน์จากชื่อเสียงผู้อื่น
จำเลยจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใช้นามภาษาไทยว่า "บริษัทยอร์ค จำกัด" แม้จำเลยจะใช้นามเป็นภาษาอังกฤษซึ่งส่วนหนึ่งมีคำว่า "YORK" ตรงกับส่วนหนึ่งของนามโจทก์ที่ 2 แต่นามภาษาไทยและนามเต็มภาษาอังกฤษก็แตกต่างกับนามโจทก์ที่ 2 จำแนกได้ชัดแจ้งว่ามิใช่นิติบุคคลเดียวกัน อนึ่ง โจทก์ที่ 2 จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในต่างประเทศ ไม่ปรากฏว่าได้ประกอบกิจการในประเทศไทย ทั้งไม่ได้ความว่าการใช้นามของจำเลยทำให้โจทก์ที่ 2 ต้องเสื่อมเสียประโยชน์ประการใด จึงไม่มีเหตุจะห้ามจำเลยใช้นามของจำเลย
โจทก์ที่ 1 จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า "YORK" ในประเทศไทยสำหรับสินค้าจำพวก 6 และ 18 ผู้อื่นจึงไม่มีสิทธินำเครื่องหมายการค้านั้นไปใช้กับสินค้าจำพวกเดียวกันจำเลยใช้คำว่า "YORK INC. LTD." สำแดงให้ปรากฏกับสินค้าจำพวก 6 ประเภทเครื่องปรับอากาศที่จำเลยผลิตออกจำหน่าย โดยคำว่า "YORK" ใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่มีลักษณะเหมือนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ที่ 1 คำว่า "INC. LTD." ใช้ตัวอักษรขนาดเล็ก ได้ความว่า ส. กรรมการแต่ผู้เดียวของบริษัทจำเลยเคยเป็นตัวแทนช่วงจำหน่ายสินค้าของโจทก์ที่ 1 ในประเทศไทยมาก่อน สินค้าประเภทเครื่องปรับอากาศของจำเลยก็มีรูปลักษณะส่วนใหญ่เหมือนของโจทก์ที่ 1 แม้จำเลยจะใช้เครื่องหมายการค้าของจำเลยให้ปรากฏควบคู่อยู่ด้วยแต่ก็เป็นตัวอักษรขนาดเล็ก พฤติการณ์ต่าง ๆ ประกอบกันฟังได้ชัดแจ้งว่าจำเลยมุ่งหวังใช้คำว่า "YORK" ให้เป็นที่สังเกตในลักษณะเครื่องหมายการค้า เป็นการลวงสาธารณชนให้สับสนหลงผิดว่าสินค้าของจำเลยเป็นสินค้าของโจทก์ที่ 1 หรือโจทก์ที่ 1 มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย การกระทำของจำเลยเป็นการแสวงหาประโยชน์จากเครื่องหมายการค้าของโจทก์ที่ 1 เป็นการใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น โจทก์ที่ 1 มีสิทธิขอให้ห้ามได้
ปัญหาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความแล้วหรือไม่นั้น มิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ทั้งมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้
of 51