คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
จำรัส เขมะจารุ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 108 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 808/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาแลกบ้านที่มีลักษณะคล้ายเช่าทรัพย์ สัญญาเช่าต้องทำเป็นหลักฐานเป็นหนังสือจึงมีผลบังคับใช้
การที่โจทก์จำเลยตกลงแลกบ้านกันอยู่ โดยจำเลยเข้าอยู่ในบ้านพิพาทซึ่งเป็นของโจทก์ และโจทก์เข้าอยู่ในบ้านที่จำเลยเช่าจากผู้มีชื่อ โดยจำเลยต้องจ่ายเงินค่าเช่าให้แก่ผู้มีชื่อเดือนละ 300 บาท. และต้องจ่ายเงินให้แก่โจทก์อีกเดือนละ 200 บาทนั้นเป็นข้อตกลงที่เป็นสัญญาเช่าทรัพย์ หาใช่เป็นสัญญาต่างตอบแทนประเภทอื่นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อุทธรณ์ข้อเท็จจริงในศาลแขวงและข้อจำกัดการฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
คดียักยอกทรัพย์ที่ฟ้องต่อศาลแขวงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352,353 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ร่วมอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง โจทก์ร่วมอุทธรณ์คำสั่งศาลอุทธรณ์ไม่รับอุทธรณ์ตามศาลชั้นต้น คำสั่งนี้เป็นที่สุดโจทก์ร่วมฎีกาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 697/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดชอบนายจ้างต่อเงินทดแทนกรณีลูกจ้างประสบอันตรายระหว่างเดินทางไปทำงาน
ลูกจ้างของโจทก์ออกเดินทางจากบ้านพักจะไปโรงกุสีเพื่อเอาป้ายสำหรับเดินตรวจทางซึ่งอยู่ในหน้าที่ แต่ยังเดินทางไปไม่ถึงโรงกุสีก็ถูกรถไฟชนถึงแก่ความตาย เป็นกรณีที่ผู้ตายยังมิได้เริ่มเดินตรวจทางตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากโจทก์ เพียงแต่กำลังเดินทางจะไปโรงกุลีซึ่งเท่ากับเป็นสถานที่ที่ผู้ตายจะเริ่มต้นทำงาน เมื่อผู้ตายได้รับอันตรายในขณะที่ยังเดินทางไปไม่ถึงสาถนที่ที่จะเริ่มต้นทำงานและยังมิได้ลงมือทำงานให้แก่โจทก์ จะถือว่าประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง หรือป้องกันรักษาประโยชน์ให้แก่นายจ้าง ตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 103 ลงวันที่ 16 มีนาคม 2515 ข้อ 2 (6) และประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 697/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลูกจ้างประสบอันตรายระหว่างเดินทางไปทำงาน ไม่ถือว่าเป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงาน จึงไม่ต้องจ่ายเงินทดแทน
ลูกจ้างของโจทก์ออกเดินทางจากบ้านพักจะไปโรงกุลีเพื่อเอาป้ายสำหรับเดินตรวจทางซึ่งอยู่ในหน้าที่ แต่ยังเดินทางไปไม่ถึงโรงกุลีก็ถูกรถไฟชนถึงแก่ความตายเป็นกรณีที่ผู้ตายยังมิได้เริ่มเดินตรวจทางตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากโจทก์ เพียงแต่กำลังเดินทางจะไปโรงกุลีซึ่งเท่ากับเป็นสถานที่ที่ผู้ตายจะเริ่มต้นทำงานเมื่อผู้ตายได้รับอันตรายในขณะที่ยังเดินทางไปไม่ถึงสถานที่ที่จะเริ่มต้นทำงานและยังมิได้ลงมือทำงานให้แก่โจทก์จะถือว่าประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง หรือป้องกันรักษาประโยชน์ให้แก่นายจ้าง ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103 ลงวันที่ 16 มีนาคม2515 ข้อ 2(6) และประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษและไม่อนุญาตให้รอการลงโทษในคดีอาวุธปืน โดยพิจารณาจากสภาพท้องที่และเจตนารมณ์ของกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯฐานมีอาวุธปืน 4 ปี ฐานพกอาวุธปืน 1 ปี ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกรวม 2 กระทง 2 ปี 6 เดือนริบของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ฐานมีอาวุธปืนเป็นจำคุก 2 ปีลดโทษแล้ว จำคุก 2 กระทง 1 ปี 6 เดือนจำเลยฎีกาข้อเท็จจริงได้เฉพาะฐานมีอาวุธปืนซึ่งแก้มากฐานพกปืนฎีกาไม่ได้คดีที่จำเลยรับสารภาพตามฟ้องศาลฟังข้อเท็จจริงตามที่โจทก์อ้างในฎีกาและจำเลยมิได้แก้ฎีกาเป็นอย่างอื่นเป็นเหตุผลในการวินิจฉัย ไม่ควรรอการลงโทษได้ ในการกำหนดโทษใหม่ ศาลฎีกาลดโทษฐานอายุน้อยให้จำเลยก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยเงินได้จากการขายทรัพย์สินประกัน การงดสืบพยานเมื่อไม่มีประเด็นชัดเจน
ผู้จัดการมรดกของ ช. ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้ที่จำเลยยืมเงิน ช.จำเลยให้การว่าช. บังคับให้จำเลยขายรถยนต์ได้เงิน 60,000 บาท และเงิน 60,000 บาท ช.ได้รับไว้เป็นการชำระหนี้เงินกู้ทั้งหมด ดังนี้ คำให้การดังกล่าวมีความหมายว่า ช. ได้รับชำระหนี้ด้วยเงินซึ่งได้จากการขายรถยนต์ หาใช่ได้รับชำระหนี้ด้วยรถยนต์ไม่จึงไม่มีประเด็นว่า ช. ได้รับชำระหนี้ด้วยทรัพย์อย่างอื่นหรือไม่ เมื่อจำเลยไม่มีใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐานการใช้เงิน และยังมิได้เวนคืนหนังสือสัญญากู้เงินจำเลยจึงไม่มีสิทธินำพยานมาสืบตามข้อกล่าวอ้างนั้น
จำเลยฎีกาขอให้ศาลสืบพยาน เป็นคดีที่มีคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ เมื่อจำเลยเสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ จึงไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาให้คืนค่าขึ้นศาลส่วนที่เกิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยเงินได้จากการขายทรัพย์สินประกัน การงดสืบพยานเมื่อไม่มีประเด็นชัดเจน
ผู้จัดการมรดกของ ช. ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้ที่จำเลยยืมเงิน ช. จำเลยให้การว่า ช. บังคับให้จำเลยขายรถยนต์ได้เงิน 60,000 บาท และเงิน 60,000 บาท ช.ได้รับไว้เป็นการชำระหนี้เงินกู้ทั้งหมด ดังนี้ คำให้การดังกล่าวมีความหมายว่า ช. ได้รับชำระหนี้ด้วยเงินซึ่งได้จากการขายรถยนต์ หาใช่ได้รับชำระหนี้ด้วยรถยนต์ไม่ จึงไม่มีประเด็นว่า ช. ได้รับชำระหนี้ด้วยทรัพย์อย่างอื่นหรือไม่ เมื่อจำเลยไม่มีใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐานการใช้เงิน และยังมิได้เวนคืนหนังสือสัญญากู้เงิน จำเลยจึงไม่มีสิทธินำพยานมาสืบตามข้อกล่าวอ้างนั้น
จำเลยฎีกาขอให้ศาลสืบพยาน เป็นคดีที่มีคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ เมื่อจำเลยเสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ จึงไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาให้คืนค่าขึ้นศาลส่วนที่เกิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 501/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างต่อการละเมิดของลูกจ้าง กรณีลูกจ้างนำรถของนายจ้างไปใช้ส่วนตัวหลังหมดเวลาทำงาน
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างขับรถยนต์คันเกิดเหตุของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 ขับรถกลับมาแล้วก็นำรถเข้าตรวจสภาพที่ปั๊มน้ำมันของจำเลยที่ 2 เสร็จแล้วจำเลยที่ 1 ขับรถเปล่าคันนี้จะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านของจำเลยที่ 1 เพื่อจะกลับมานอนและเตรียมตัวจะเดินทางในวันรุ่งขึ้นอีกระหว่างทางขาไปได้ชนรถยนต์ของโจทก์เสียหายดังนี้แม้ตามระเบียบเมื่อคนขับรถนำรถเข้าเก็บแล้ว ก่อนจะถึงเวลารับส่งคนโดยสารคนขับจะนำรถออกจากที่เก็บไม่ได้เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเท่านั้นก็ตาม แต่การควบคุมดูแลหละหลวมมาก และเป็นเช่นนี้ก่อนเกิดเหตุถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ยินยอมให้คนขับนำรถออกไปใช้เมื่อหมดเวลาทำงานแล้วได้ เมื่อคนขับไปทำละเมิดก็ต้องถือว่าได้กระทำในทางการที่จ้าง จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 341/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อจำเลยมิได้ระบุข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยกล่าวในฎีกาเพียงว่า 'จำเลยขอให้การกลับคำให้การในชั้นสอบสวน และในชั้นศาลทุกประการและทุกถ้อยกระทงความโดยจำเลยขอให้การว่ามิได้กระทำความผิดตามคำกล่าวหาของพนักงานสอบสวนและคำฟ้องของโจทก์' โดยมิได้ระบุข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จำเลยประสงค์จะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาแต่ประการใด ทั้งมิได้กล่าวอ้างว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีนี้ไม่ถูกต้องในข้อใดอย่างไร ฎีกาเช่นนี้ไม่เป็นการคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรค 2 ประกอบด้วยมาตรา 225 และมาตรา 216

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 341/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมายเมื่อไม่ระบุเหตุคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยกล่าวในฎีกาเพียงว่า "จำเลยขอให้การกลับคำให้การในชั้นสอบสวนและในชั้นศาลทุปกระการและทุกถ้อยกระทงความ โดยจำเลยขอให้การว่ามิได้กระทำความผิดตามคำกล่าวหาของพนักงานสอบสวนและคำฟ้องของโจทก์" โดยมิได้ระบุข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จำเลยประสงค์จะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาแต่ประการใด ทั้งมิได้กล่าวอ้างว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีไม่ถูกต้องในข้อใดอย่างไรฎีกาเช่นนี้ไม่เป็นการคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรค 2 ประกอบด้วยมาตรา 225 และมาตรา 216
of 11