พบผลลัพธ์ทั้งหมด 479 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 658/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกล้างโมฆียะกรรมต้องแสดงเจตนาชัดเจน การฟ้องอาญาไม่ใช่การบอกล้าง
การบอกล้างโมฆียะกรรมนั้น คู่กรณีฝ่ายที่มีสิทธิบอกล้างจะต้องแสดงเจตนาต่อคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งโดยชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 137,140 การที่ผู้ร้องฟ้องจำเลยที่ 3 เป็นคดีอาญาในความผิดฐานฉ้อโกงก็โดยประสงค์จะให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 3 ในทางอาญาจึงไม่เป็นการแสดงเจตนาบอกล้างโมฆียะกรรมตามความหมายของบทบัญญัติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างที่สมเหตุผล: ผลงานไม่เป็นที่พอใจและปฏิเสธการโยกย้าย
โจทก์เป็นหัวหน้าประกอบแบตเตอรี่ของจำเลยมีหน้าที่รับผิดชอบควบคุมดูแลงานในแผนกเกี่ยวกับการผลิตให้มีคุณภาพ ดูแลการทำงานของเครื่องจักรในแผนก ควบคุมบังคับบัญชาคนงานจำนวนมาก ตระเตรียมวางแผนงานและประสานงานกับแผนกอื่นเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพและตามนโยบายของฝ่ายผลิต เมื่อปรากฏว่าผลงานของโจทก์ไม่เป็นที่พอใจ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่จำเลยทั้งไม่มีพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าเป็นการกลั่นแกล้ง จำเลยย่อมเลิกจ้างโจทก์เสียได้ กรณีไม่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมอย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างที่สมเหตุผลจากผลงานไม่เป็นที่พอใจ และการเสนอตำแหน่งใหม่ที่ไม่ได้รับการตอบรับ
โจทก์เป็นหัวหน้าประกอบแบตเตอรี่ของจำเลยมีหน้าที่รับผิดชอบควบคุมดูแลงานในแผนกเกี่ยวกับการผลิตให้มีคุณภาพดูแลการทำงานของเครื่องจักรในแผนก ควบคุมบังคับบัญชาคนงานจำนวนมาก ตระเตรียมวางแผนงานและประสานงานกับแผนกอื่นเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพและตามนโยบายของฝ่ายผลิตเมื่อปรากฏว่าผลงานของโจทก์ไม่เป็นที่พอใจ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่จำเลยทั้งไม่มีพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าเป็นการกลั่นแกล้ง จำเลยย่อมเลิกจ้างโจทก์เสียได้ กรณีไม่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมอย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 582/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุคคลภายนอกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องเงินทดแทน จำเลยไม่มีอำนาจสั่งให้ชดใช้
พนักงานเงินทดแทนมิได้สอบสวนหรือมีคำสั่งในกรณีที่ ป. ยื่นคำร้องเรียกเงินทดแทนจากนายจ้างเกี่ยวกับโจทก์แต่อย่างใด เพราะไม่มีผู้ใดกล่าวอ้างว่าโจทก์ต้องรับผิดจ่ายเงินทดแทนรายนี้ด้วย โจทก์จึงเป็นบุคคลภายนอก มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ จำเลยซึ่งเป็นผู้พิจารณาอุทธรณ์คำสั่งเงินทดแทนของพนักงานเงินทดแทนจึงไม่มีอำนาจที่จะวินิจฉัยและมีคำสั่งให้โจทก์จ่ายหรือไม่จ่ายเงินทดแทน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 582/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุคคลภายนอกไม่ต้องรับผิดในเงินทดแทน หากไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในชั้นพนักงานเงินทดแทน
พนักงานเงินทดแทนมิได้สอบสวนหรือมีคำสั่งในกรณีที่ ป.ยื่นคำร้องเรียกเงินทดแทนจากนายจ้างเกี่ยวกับโจทก์แต่อย่างใด เพราะไม่มีผู้ใดกล่าวอ้างว่าโจทก์ต้องรับผิดจ่ายเงินทดแทนรายนี้ด้วย โจทก์จึงเป็นบุคคลภายนอก มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ จำเลยซึ่งเป็นผู้พิจารณาอุทธรณ์คำสั่งเงินทดแทนของพนักงานเงินทดแทนจึงไม่มีอำนาจที่จะวินิจฉัยและมีคำสั่งให้โจทก์จ่ายหรือไม่จ่ายเงินทดแทน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้กู้ยืมเงินโดยมีดอกเบี้ยของบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ถือเป็นการประกอบกิจการเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ ต้องเสียภาษีการค้า
ประมวลรัษฎากรมาตรา78 และบัญชีอัตราภาษีการค้าลำดับที่12 ถือว่าการประกอบกิจการให้กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเป็นการประกอบกิจการเยี่ยงธนาคารพาณิชย์อย่างหนึ่ง
แม้โจทก์ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์จะให้ลูกค้ากู้ยืมเงินโดยจำกัดตัวบุคคลผู้กู้ และมีเงื่อนไขในการกู้ว่า ต้องนำเงินกู้นั้นไปปฏิบัติตามโครงการส่งเสริมการค้าของโจทก์ก็ตาม ก็ย่อมไม่พ้นจากการประกอบธุรกิจในการให้กู้ยืมเงิน เพราะถึงอย่างไรโจทก์ก็ยังต้องการดอกเบี้ยจากผู้กู้อยู่นั่นเองเมื่อการให้กู้ยืมเงินของโจทก์เป็นการประกอบกิจการโดยปกติในทางการค้าของโจทก์ จึงถือเป็นกิจการของผู้ที่ประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ จึงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้าร้อยละ2.5 ของค่าดอกเบี้ยที่ได้รับ
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2525)
แม้โจทก์ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์จะให้ลูกค้ากู้ยืมเงินโดยจำกัดตัวบุคคลผู้กู้ และมีเงื่อนไขในการกู้ว่า ต้องนำเงินกู้นั้นไปปฏิบัติตามโครงการส่งเสริมการค้าของโจทก์ก็ตาม ก็ย่อมไม่พ้นจากการประกอบธุรกิจในการให้กู้ยืมเงิน เพราะถึงอย่างไรโจทก์ก็ยังต้องการดอกเบี้ยจากผู้กู้อยู่นั่นเองเมื่อการให้กู้ยืมเงินของโจทก์เป็นการประกอบกิจการโดยปกติในทางการค้าของโจทก์ จึงถือเป็นกิจการของผู้ที่ประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ จึงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้าร้อยละ2.5 ของค่าดอกเบี้ยที่ได้รับ
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2525)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 427/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจสอบสวนคดีภาษีอากรของตำรวจ: ต้องมีคำขอจากเจ้าพนักงานสรรพากรเท่านั้น
เจ้าพนักงานตำรวจจะดำเนินคดีอาญาเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรได้ก็ต่อเมื่อเจ้าพนักงานตามประมวลรัษฎากรซึ่งมีเฉพาะแต่ข้าราชการพลเรือนสามัญสังกัดกรมสรรพากร ร้องขอเท่านั้น หาได้มีข้อยกเว้นให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจจับได้โดยไม่ต้องมีหมายจับในกรณีความผิดซึ่งหน้าแต่อย่างใดไม่ ฉะนั้น เมื่อข้อเท็จจริงในคดีนี้ฟังได้เป็นยุติว่าเจ้าพนักงานตามประมวลรัษฎากรมิได้มีคำขอให้ดำเนินคดีแต่อย่างใดเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนย่อมไม่มีอำนาจสอบสวนดำเนินคดีการสอบสวนที่ได้กระทำไปจึงไม่ชอบพนักงานอัยการจึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2525)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 427/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจสอบสวนคดีภาษีอากรของตำรวจ: ต้องมีคำขอจากเจ้าพนักงานสรรพากรเท่านั้น
เจ้าพนักงานตำรวจจะดำเนินคดีอาญาเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรได้ก็ต่อเมื่อเจ้าพนักงานตามประมวลรัษฎากรซึ่งมีเฉพาะแต่ข้าราชการพลเรือนสามัญสังกัดกรมสรรพากร ร้องขอเท่านั้น หาได้มีข้อยกเว้นให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจจับได้ โดยไม่ต้องมีหมายจับในกรณีความผิดซึ่งหน้าแต่อย่างใดไม่ ฉะนั้น เมื่อข้อเท็จจริงในคดีนี้ฟังได้เป็นยุติว่า เจ้าพนักงานตามประมวลรัษฎากร มิได้มีคำขอให้ดำเนินคดีแต่อย่างใด เจ้าพนักงานตำรวจซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนย่อมไม่มีอำนาจสอบสวนดำเนินคดีการสอบสวนที่ได้กระทำไป จึงไม่ชอบพนักงานอัยการจึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2525)
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2525)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 422/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การติชมด้วยความสุจริตเพื่อประโยชน์สาธารณะและการป้องกันส่วนได้เสีย ย่อมได้รับการยกเว้นความผิดฐานหมิ่นประมาท
เมื่อมีพฤติการณ์ที่ทำให้จำเลยเชื่อโดยสุจริตใจว่าผู้เสียหายทุจริตในขณะเป็นกรรมการสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการจำเลยจึงกล่าวข้อความเช่นนั้นในขณะพูดหาเสียงให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลซึ่งผู้เสียหายเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งด้วยจึงเป็นการแสดงข้อความโดยสุจริตติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(3) และเนื่องจากจำเลยเป็นผู้สมัครสอบในครั้งนั้นด้วยการกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม ตามมาตรา 329(1)อีกด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 422/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงความคิดเห็นติชมการทุจริตในการสอบเข้างานเพื่อหาเสียงเลือกตั้ง เป็นการแสดงข้อความโดยสุจริตและป้องกันส่วนได้เสีย
เมื่อมีพฤติการณ์ที่ทำให้จำเลยเชื่อโดยสุจริตใจว่า ผู้เสียหายทุจริตในขณะเป็นกรรมการสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการ จำเลยจึงกล่าวข้อความเช่นนั้นในขณะพูดหาเสียงให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลซึ่งผู้เสียหายเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งด้วย จึงเป็นการแสดงข้อความโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 (3) และเนื่องจากจำเลยเป็นผู้สมัครสอบในครั้งนั้นด้วย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม ตามมาตรา 329 (1) อีกด้วย