คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
วิถี ปานะบุตร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 183 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1701/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาแจ้งความเพื่อเป็นหลักฐาน ไม่ถือเป็นคำร้องทุกข์ คดีเช็คไม่มีเงิน
คำแจ้งความคดีออกเช็คไม่มีเงินจ่ายว่า 'จึงได้มา แจ้งไว้เป็นหลักฐาน' ไม่เป็นเจตนาให้สอบสวนดำเนินคดีแก่ผู้ต้องหาไม่เป็นร้องทุกข์ตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1689/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องชัดเจน สัญญาเงินกู้และจำนองไม่เคลือบคลุม แม้รายละเอียดบางส่วนต้องสืบเพิ่มเติม
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีที่จำเลยทำไว้กับโจทก์และบังคับจำนอง โดยฟ้องกล่าวถึงจำเลยทำสัญญาจำนองที่ดินเพื่อประกันหนี้ที่จำเลยมีต่อโจทก์ และจำเลยทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีไว้กับโจทก์เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2514 จำนวนเงินไม่เกิน 20,000 บาท กำหนดชำระภายใน 6 เดือนนับแต่วันทำสัญญากำหนดส่งดอกเบี้ยภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน หากผิดนัดไม่ชำระดอกเบี้ยตามกำหนด ยอมให้คิดดอกเบี้ยที่ค้างชำระทบต้นเข้ากับเงินที่เบิกเกินบัญชีโดยเสียดอกเบี้ยตามวิธีและอัตราดังกล่าวตามสำเนาสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี เอกสารท้ายฟ้อง ซึ่งในเอกสารดังกล่าวมีข้อความว่าจำเลยยอมให้ดอกเบี้ยโจทก์ร้อยละสิบสี่ต่อปี และบรรยายต่อไปว่าเมื่อจำเลยนำสัญญาจำนองและเบิกเงินเกินบัญชีแล้ว จำเลยผิดสัญญาไม่ชำระดอกเบี้ยและต้นเงินแก่โจทก์รวมทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยที่จำเลยเป็นหนี้โจทก์คิดเพียงวันที่ 7 กันยายน 2520 เป็นเงิน 63,256.29 บาท ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ว่าโจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีนับแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2514 ตลอดมาจนถึงวันที่ 7 กันยายน 2520 โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละสิบสี่ต่อปี และคิดดอกเบี้ยที่ผิดนัดทบเข้ากับต้นเงินเมื่อรวมกันทั้งหมดแล้วจำเลยเป็นหนี้โจทก์รวม 63,256.29 บาท ฟ้องของโจทก์ดังกล่าวได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว ส่วนที่ว่าจำเลยเบิกเงินจากโจทก์เมื่อไร จำนวนเท่าใด คิดดอกเบี้ยจากยอดต้นเงินเท่าใด คิดจากวันไหนถึงวันไหนนั้นเป็นรายละเอียดที่จะต้องนำสืบ เมื่อมีประเด็นโต้เถียงกัน แม้โจทก์ไม่บรรยายข้อความดังกล่าวในคำฟ้องและไม่แสดงบัญชีเดินสะพัด ฟ้องโจทก์ก็ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1689/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่: สัญญาเงินกู้เบิกเกินบัญชีและจำนอง - ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าฟ้องไม่เคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีที่จำเลยทำไว้กับโจทก์และบังคับจำนอง โดยฟ้องกล่าวถึงจำเลยทำสัญญาจำนองที่ดินเพื่อประกันหนี้ที่จำเลยมีต่อโจทก์และจำเลยทำสัญญากู้เบิกเงินเกิน บัญชีไว้กับโจทก์เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2514 จำนวนเงินไม่เกิน 20,000 บาท กำหนดชำระภายใน 6 เดือนนับแต่วันทำสัญญากำหนดส่งดอกเบี้ยภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน หากผิดนัดไม่ชำระดอกเบี้ยตามกำหนดยอมให้คิดดอกเบี้ยที่ค้างชำระทบต้นเข้ากับเงินที่เบิกเกินบัญชีโดยเสียดอกเบี้ยตามวิธีและอัตราดังกล่าวตามสำเนาสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี เอกสารท้ายฟ้อง ซึ่งในเอกสารดังกล่าวมีข้อความว่าจำเลยยอมให้ดอกเบี้ยโจทก์ร้อยละสิบสี่ต่อปี และบรรยายต่อไปว่าเมื่อจำเลยนำสัญญาจำนองและเบิกเงินเกินบัญชีแล้ว จำเลยผิดสัญญาไม่ชำระดอกเบี้ยและต้นเงินแก่โจทก์รวมทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยที่จำเลยเป็นหนี้โจทก์คิดเพียงวันที่ 7 กันยายน 2520 เป็นเงิน 63,256.29 บาท ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ว่าโจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีนับแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2514 ตลอดมาจนถึงวันที่ 7 กันยายน 2520 โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละสิบสี่ต่อปี และคิดดอกเบี้ยที่ผิดนัดทบเข้ากับต้นเงินเมื่อรวมกันทั้งหมดแล้วจำเลยเป็นหนี้โจทก์รวม 63,256.29 บาท ฟ้องของโจทก์ดังกล่าวได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว ส่วนที่ว่าจำเลยเบิกเงินจากโจทก์เมื่อไร จำนวนเท่าใด คิดดอกเบี้ยจากยอดต้นเงินเท่าใด คิดจากวันไหนถึงวันไหน นั้นเป็นรายละเอียดที่จะต้องนำสืบ เมื่อมีประเด็นโต้เถียงกันแม้โจทก์ไม่บรรยายข้อความดังกล่าวในคำฟ้องและไม่แสดงบัญชีเดินสะพัด ฟ้องโจทก์ก็ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1681/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งขาดความสมบูรณ์ แม้มีการกล่าวอ้างค่าเสียหาย หากไม่มีคำขอให้บังคับชำระเงิน
แม้จำเลยจะให้การและฟ้องแย้งว่าโจทก์ละเมิดสิทธิของจำเลยเสียหายเป็นเงิน 40,000 บาท ตลอดจนเสียค่าขึ้นศาลโดยครบถ้วน แต่ในคำขอบังคับคดีท้ายฟ้องแย้งรวม 5 ข้อของจำเลยนั้น มิได้มีข้อใดเลยที่ขอให้ศาลพิพากษาบังคับคดีให้โจทก์ใช้เงินค่าเสียหายให้แก่จำเลย จึงไม่เป็นคำฟ้องที่ต้องบริบูรณ์ตามกฎหมาย
แม้ในคำขอท้ายฟ้องแย้งข้อ 1 ตอนท้ายจำเลยขอให้ศาลพิพากษาให้โจทก์แก้วันที่ในเช็คเป็นวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2518 แต่ก็เป็นคำขอที่สืบเนื่องจากคำขอในข้อ 1 ตอนต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ศาลจักต้องหยิบยกขึ้นวินิจฉัยตามคำให้การของจำเลยอยู่แล้ว ถ้าหากศาลวินิจฉัยให้ตามคำขอในข้อ 1ตอนต้นว่า เช็คฉบับพิพาทมิได้ออกหรือลงวันที่ 2 มกราคม 2521 ดังฟ้องแต่เป็ยเช็คที่ต้องลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2518 ก็ไม่ต้องมีการบังคับให้โจทก์แก้วันที่ในเช็คอีก เพราะจำเลยย่อมได้รับผลแห่งคำพิพากษาอยู่แล้ว หาใช่เป็นเรื่องที่ต้องฟ้องแย้งมาในคำให้การตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 วรรคสาม ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1673/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสอบสวนของคณะปฏิวัติมีอำนาจตามกฎหมายหรือไม่ และการหักเงินจากผู้รับเหมาเข้าลักษณะความผิดอาญาอย่างไร
สมุห์บัญชีและพนักงานเทศบาลผู้มีหน้าที่ตรวจและควบคุมงานจ้างหักเงินที่จ่ายแก่ผู้รับเหมาไว้ร้อยละ 10 แบ่งกัน เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149
ประกาศคณะปฏิวัติเป็นกฎหมาย ผู้ได้รับอำนาจสอบสวนตามประกาศทำการสอบสวนแล้ว อัยการฟ้องได้
จำเลยที่ 5 ถอนอุทธรณ์ก่อนส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตและออกหมายแจ้งโทษเด็ดขาดแล้วจำเลยอื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 5 คนเดียวไม่ชอบ ให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1606/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกทำลายสิทธิครอบครอง แม้ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ ก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
บุกรุกตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา362 เป็นการรบกวนสิทธิครอบครอง แม้อสังหาริมทรัพย์เป็นที่ดินที่ครอบครอง มิได้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เสียหายก็เป็นความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1562/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์รถยนต์โอนเมื่อซื้อขาย แม้ยังไม่โอนทะเบียน สัญญาซื้อขายมีเงื่อนไข กรรมสิทธิ์ยังไม่โอนจนกว่าจะชำระเงินและโอนทะเบียนครบถ้วน
ซื้อขายรถยนต์ แม้ไม่โอนทะเบียนเป็นชื่อผู้ซื้อกรรมสิทธิ์ก็โอนไปเป็นของผู้ซื้อตาม มาตรา 458 ผู้ซื้อขายต่อไปโดยมีข้อสัญญาว่า ชำระราคาครบจึงจะโอนทะเบียนรถให้ และให้ถือการโอนชื่อในทะเบียนเป็นเงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์ ดังนี้ เป็นสัญญาซื้อขายมีเงื่อนไขตามมาตรา459 กรรมสิทธิ์ยังไม่โอนจนกว่าจะชำระราคาครบและโอนทะเบียนแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1536/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ร่วมสินสมรส: ภรรยาต้องรับผิดชอบหนี้ที่สามีทำขึ้นระหว่างสมรส หากภรรยามีส่วนรู้เห็นและได้รับประโยชน์จากหนี้นั้น
ผู้ร้องรู้เห็นในการที่จำเลยซึ่งเป็นสามีผู้ร้องเข้าเป็นกรรมการสหกรณ์โจทก์รับดำเนินงานจัดซื้อข้าวโพด โดยมีรายได้จากโจทก์วันละ 30 บาท ผู้ร้องเคยพาผู้อื่นไปขายข้าวโพดกับโจทก์ จึงมีส่วนช่วยในการดำเนินงานดังกล่าวหารายได้จุนเจือครอบครัว หนี้ตามคำพิพากษาเป็นค่าเสียหายเกิดจากจำเลยดำเนินงานดังกล่าวและประพฤติผิดสัญญาต่อโจทก์เป็นหนี้ที่จำเลยก่อขึ้นในระหว่างสมรส ถือได้ว่าเป็นหนี้ที่จำเลยกับผู้ร้องเป็นลูกหนี้ร่วมกันผู้ร้องต้องร่วมรับผิด จึงไม่มีสิทธิขอกันส่วนตามคำร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1468/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช่าช่วง-ตกแต่ง-ค่าเสียหาย: การตกแต่งตามแบบผู้ให้เช่าเดิมไม่ถือเป็นสัญญาต่างตอบแทนพิเศษ
จำเลยเช่าช่วงห้องทำการค้า เสียค่าตกแต่งไป 100,000 บาทโดยทำตามแบบที่ผู้ให้เช่าเดิมกำหนด ไม่มีข้อตกลงกับโจทก์ผู้เช่าเดิมไม่เป็นสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าเช่าธรรมดา โจทก์เลิกสัญญาแล้ว จำเลยไม่ส่งมอบห้องคืน ค่าเสียหายคือค่าเช่าที่โจทก์ควรได้รับในการเช่าห้องนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1459/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อและการเรียกร้องค่าเสียหาย: สัญญาเดิมมีผลผูกพันจนกว่าจะครบกำหนด
ขณะจำเลยที่ 1 ทำสัญญารับช่วงสัญญาเช่าซื้อต่อจากสามาซึ่งถึงแก่กรรมนั้น มีค่าเช่าซื้อที่ค้างส่งอยู่แล้วรวม 10 งวด การที่โจทก์ตกลงให้จำเลยที่ 1 ปฏิบัติตามสัญญาต่อไป เห็นได้ว่าโจทก์ไม่ประสงค์ที่จะบอกเลิกสัญญา เพราะเหตุผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อ 10 งวดนั้นแล้ว เมื่อจำเลยที่ 1 ทำสัญญารับช่วงสัญญาเช่าซื้อแล้วผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้ออีกเพียง 1 งวด จึงไม่ใช่เป็นการผิดนักชำระค่าเช่าซื้อสองคราวติดกัน โจทก์ไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาและกลับเข้าครองทรัพย์สินนั้นพร้อมกับเรียกค่าใช้ทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 574 และมาตรา 391 วรรคสาม
of 19