คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สุรเจตน์ วิชิตชลชัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 17 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีต้องเป็นไปตามหนังสือมอบอำนาจ การเปลี่ยนแปลงผู้ถูกฟ้องร้องเกินขอบเขตหนังสือมอบอำนาจทำให้ขาดอำนาจฟ้อง
หนังสือมอบอำนาจมีข้อความระบุไว้ชัดว่ามอบอำนาจให้ดำเนินการฟ้องร้อง ฮ. แต่คู่ความแถลงรับกันว่า ฮ.เป็นคนละคนกับ ซ. จำเลยคดีนี้ ดังนั้น โจทก์จึงฟ้อง ซ. จำเลยคดีนี้โดยอาศัยหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวไม่ได้ เป็นการนอกเหนือไปจากหนังสือมอบอำนาจ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย
การมอบอำนาจให้เป็นผู้แทนฟ้องคดีต้องทำเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 60 วรรคสอง โจทก์จึงขอสืบพยานบุคคลเพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 (ข)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 763/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งสินค้าเนื่องจากสินค้าเสียหายจากเครื่องทำความเย็นไม่ได้มาตรฐาน และข้อจำกัดความรับผิดเป็นโมฆะหากไม่มีการยินยอม
จำเลยใช้รถยนต์บรรทุกห้องเย็นรับจ้างขนส่งไก่สดของโจทก์ไปต่างจังหวัดปรากฏว่าไก่สดเกิดเน่าเสียเพราะเครื่องทำความเย็นของรถบรรทุกจำเลยไม่ดีพอ จำเลยในฐานะผู้ขนส่งจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616
ใบส่งสินค้าของจำเลยมีข้อความจำกัดความรับผิดว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ไม่เกิน 500 บาท แต่เมื่อปรากฏว่าโจทก์มิได้ลงชื่อยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวทั้งไม่ได้ความจากข้อนำสืบของจำเลยว่า โจทก์ได้ตกลงด้วยชัดแจ้ง ข้อจำกัดความรับผิดดังกล่าวจึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 625 จำเลยผู้ขนส่งต้องรับผิดเต็มราคาของที่เสียหายไปจริง
จำเลยฎีกาว่า ไก่ของโจทก์มีถึง 4,000 ตัว มีมูลค่าเก้าหมื่นบาทเศษ นับว่าเป็นของมีค่าอย่างอื่น ๆ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 620 โจทก์มิได้แจ้งราคาไก่ให้ทราบ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด ความข้อนี้เมื่อจำเลยมิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้กันมาในศาลชั้นต้น และมิใช่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องความผิดเช็ค: ผู้เสียหายคือผู้ทรงเช็ค ณ วันปฏิเสธการจ่ายเงิน แม้จะมีการนำเช็คกลับมาเรียกเก็บอีกครั้งก็ไม่ทำให้เกิดความผิดซ้ำ
ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้นเกิดขึ้นในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เมื่อขณะที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งแรก โจทก์ไม่ได้เป็นผู้ทรงเช็ค โจทก์ก็ไม่เป็นผู้เสียหาย แม้ต่อมาโจทก์จะได้รับเช็คดังกล่าวมาแล้วนำไปเบิกเงินจากธนาคารและถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอีก ไม่ว่าจำเลยจะตกลงให้โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินอีกหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่ทำให้การกระทำของจำเลยซึ่งเป็นความผิดแล้วกลับเป็นความผิดซ้ำขึ้นมาอีก โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีเช็ค เนื่องจากไม่ใช่ผู้เสียหายในขณะเกิดความผิด แม้จะได้รับเช็คภายหลัง
ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้นเกิดขึ้นในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เมื่อขณะที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งแรก โจทก์ไม่ได้เป็นผู้ทรงเช็ค โจทก์ก็ไม่เป็นผู้เสียหาย แม้ต่อมาโจทก์จะรับเช็คดังกล่าวมาแล้วนำไปเบิกเงินจากธนาคารและถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอีก ไม่ว่าจำเลยจะตกลงให้โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินอีกหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่ทำให้การกระทำของจำเลยซึ่งเป็นความผิดแล้วกลับเป็นความผิดซ้ำขึ้นมาอีกโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้เรื่องเงื่อนไขเช็คและการโอนเช็คโดยฉ้อฉล ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดใช้เงินตามเช็ค
ตามคำให้การของจำเลยว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่โจทก์โดยมีเงื่อนไขว่า โจทก์จะไปขึ้นเงินตามเช็คได้ต่อเมื่อ ว. โอนกิจการอู่ซ่อมรถยนต์ให้แก่จำเลย เพราะจำเลยออกเช็คเพื่อใช้หนี้แทน ป. น้องชายของจำเลย แต่จำเลยกลับนำสืบว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่พ.เจ้าหนี้คนหนึ่งของป.โดยพ. ได้ทราบข้อตกลงและเงื่อนไขดังกล่าว ต่อมา ว. ไม่ยอมโอนอู่ซ่อมรถยนต์ให้จำเลยจำเลยจึงแจ้งให้ธนาคารระงับการจ่ายเงินแล้ว พ. กลับโอนเช็คพิพาทให้แก่โจทก์โดยคบคิดกันฉ้อฉลเพื่อให้โจทก์นำเช็คมาฟ้องจำเลย ซึ่งเป็นเรื่องจำเลยต่อสู้ว่าพ. ผู้ทรงคนก่อนโอนเช็คพิพาทให้โจทก์ผู้ทรงคนปัจจุบันด้วยคบคิดกันฉ้อฉล ข้อนำสืบของจำเลยดังกล่าวจึงนอกประเด็นพิพาท รับฟังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบหลักฐานนอกประเด็น และการเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายในคดีเช็ค
ตามคำให้การของจำเลยว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่โจทก์โดยมีเงื่อนไขว่า โจทก์จะไปขึ้นเงินตามเช็คได้ต่อเมื่อ ว. โอนกิจการอู่ซ่อมรถยนต์ให้แก่จำเลย เพราะจำเลยออกเช็คเพื่อใช้หนี้แทน ป. น้องชายของจำเลย แต่จำเลยกลับนำสืบว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่ พ. เจ้าหนี้คนหนึ่งของ ป. โดย พ. ได้ทราบข้อตกลงและเงื่อนไขดังกล่าว ต่อมา ว. ไม่ยอมโอนอู่ซ่อมรถยนต์ให้จำเลย จำเลยจึงแจ้งให้ธนาคารระงับการจ่ายเงินแล้ว พ. กลับโอนเช็คพิพาทให้แก่โจทก์โดยคบคิดกันฉ้อฉลเพื่อให้โจทก์นำเช็คมาฟ้องจำเลย ซึ่งเป็นเรื่องจำเลยต่อสู้ว่า พ. ผู้ทรงคนก่อนโอนเช็คพิพาทให้โจทก์ผู้ทรงคนปัจจุบันด้วยคบคิดกันฉ้อฉล ข้อนำสืบของจำเลยดังกล่าวจึงนอกประเด็นพิพาท รับฟังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การออกเช็คและอายัดเช็คเพื่อเรียกร้องการปฏิบัติตามสัญญา ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค หากไม่มีเจตนาทุจริต
จำเลยออกเช็คชำระหนี้ค่าจ้างทำของแก่ ม. โอนเช็คไปยังโจทก์ ม. ไม่นำของที่จำเลยจ้างทำมาส่งตามสัญญา จำเลยจึงห้ามธนาคารจ่ายเงินตามเช็ค ไม่เป็นทุจริต ไม่เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2497
of 2