คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 174

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 260 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1884/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่การพิสูจน์สินค้าต้องห้ามนำเข้า: ผู้นำเข้าต้องพิสูจน์แหล่งกำเนิดเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดตามกฎหมายศุลกากร
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 53 ห้ามมิให้นำสินค้าที่ผลิตหรือมีกำเนิดในประเทศจีนคอมมิวนิสต์หรือซึ่งมาจากประเทศจีนคอมมิวนิสต์เข้ามาในราชอาณาจักร ผู้ใดนำสินค้าดังกล่าวนี้เข้ามาในราชอาณาจักร มีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรฐานนำของต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร เมื่อจำเลยเป็นผู้นำเขากวางอ่อนของกลางเข้ามาในราชอาณาจักร คงโต้เถียงกันว่าเขากวางอ่อนของกลางเป็นของที่มีกำเนิดในประเทศจีนคอมมิวนิสต์หรือไม่ หน้าที่การพิสูจน์ตกอยู่แก่จำเลย ตามนัยแห่งมาตรา 100 พระราชบัญญัติศุลกากร
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2516)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1884/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่พิสูจน์สินค้าต้องห้ามนำเข้า: จำเลยต้องพิสูจน์แหล่งกำเนิดสินค้าที่นำเข้า
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 53 ห้ามมิให้นำสินค้าที่ผลิตหรือมีกำเนิดในประเทศจีนคอมมิวนิสต์หรือซึ่งมาจากประเทศจีนคอมมิวนิสต์เข้ามาในราชอาณาจักร ผู้ใดนำสินค้าดังกล่าวนี้เข้ามาในราชอาณาจักร มีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรฐานนำของต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร เมื่อจำเลยเป็นผู้นำเขากวางอ่อนของกลางเข้ามาในราชอาณาจักร คงโต้เถียงกันว่าเขากวางอ่อนของกลางเป็นของที่มีกำเนิดในประเทศจีนคอมมิวนิสต์หรือไม่ หน้าที่การพิสูจน์ตกอยู่แก่จำเลย ตามนัยแห่งมาตรา 100 พระราชบัญญัติศุลกากร
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2516)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2470/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเกินเหตุ: การใช้กำลังป้องกันการถูกทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย
ผู้ตายรูปร่างใหญ่กว่าจำเลยและสูงกว่าจำเลย 3-4 นิ้ว คืนเกิดเหตุฝนตกและเดือนมืด ผู้ตายเดินตามจำเลยไปจนทันแล้วผู้ตายกับจำเลยยืนหันหน้าเข้าหากันผู้ตายใช้มือขวาจับคอด้านหลังของจำเลยไว้และใช้มือซ้ายถือไม้รวกตีจำเลยถูกที่ต้นคอ แก้ม และที่หน้าผากรุนแรงหลายทีจนหน้าผากมีรอยบุ๋ม จำเลยเอามีดปลายแหลมแทงสวนไปในที่มืดในระยะประชิดติดพัน 2 ทีโดยไม่มีโอกาสเลือกแทงให้ถูกที่สำคัญ แผลแรกเพียงผิวหนังขาดเลือดซึม เมื่อผู้ตายยังไม่หยุดตีจำเลย จำเลยจึงแทงผู้ตายอีกทีหนึ่งเพื่อหยุดยั้งการตีถูกผู้ตายที่ใต้นมขวาบนสะดือ ลึกทะลุเข้าไปในทรวงอกถึงแก่ความตาย เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ จำเลยไม่มีความผิด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จำเลยให้การปฏิเสธในการสืบพยาน โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานในขณะเกิดเหตุคงมีพยานเพียงว่าได้ยินเสียงผู้ตายร้องบอกภริยาว่าจำเลยแทงตนเท่านั้น ส่วนจำเลยนำสืบว่าจำเลยแทงผู้ตายเพื่อป้องกันตนดังนี้ ศาลย่อมวินิจฉัยพยานหลักฐานของโจทก์ประกอบพยานหลักฐานของจำเลยว่าจำเลยกระทำเพื่อป้องกันจริงหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 903/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักยอกทรัพย์ที่เกิดจากการตกลงแบ่งกรรมสิทธิ์ในผลผลิต ศาลต้องฟังพยานให้ครบถ้วนเพื่อพิสูจน์ความผิด
ฟ้องยักยอกทรัพย์ สืบพยาน 1 ปากแล้วศาลชั้นต้นงดสืบพยานเมื่อคำพยานโจทก์ที่นำสืบมายังไม่เพียงพอจะชี้ขาดว่า จำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ จึงควรจะได้ฟังพยานต่อไป กรณีต้องให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
ฟ้องว่า จำเลยกับผู้เสียหายได้ตกลงกันและยอมรับปฏิบัติตามประเพณีท้องถิ่นว่าจำเลยเป็นลูกน้องผู้เสียหายเป็นนายทุนออกค่าใช้จ่ายเมื่อจำเลยขุดหาพลอยได้เท่าใด จำเลยและผู้เสียหายเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในพลอยนั้นคนละครึ่ง ต่อมาจำเลยขุดพลอยได้ 1 เม็ด ผู้เสียหายจึงมีกรรมสิทธิ์ครึ่งหนึ่งและจำเลยเป็นผู้ได้รับมอบให้ครอบครองเก็บรักษาพลอยไว้ แล้วจำเลยได้บังอาจเบียดบังยักยอกเอาพลอยดังกล่าวไปเป็นของตนโดยทุจริต ถ้าข้อเท็จจริงได้ความตามฟ้อง จำเลยอาจมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 606/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยคดีนอกเหนือพยานหลักฐาน: การลงโทษจำเลยฐานไม่ให้สัญญาณแตรเมื่อพยานหลักฐานไม่สนับสนุน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเลี้ยวรถโดยไม่ได้ให้สัญญาณเลี้ยวพยานโจทก์เบิกความแต่เพียงว่าไม่เห็นรถคันที่จำเลยขับให้สัญญาณเลี้ยว จำเลยเบิกความว่าขณะเลี้ยวจำเลยได้ให้สัญญาณไฟเลี้ยวแล้ว ศาลชั้นต้นเห็นว่าตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก เมื่อจะเลี้ยวรถจะต้องให้สัญญาณแตรเสียก่อนจึงฟังว่าจำเลยไม่ให้สัญญาณแตรก่อนเลี้ยวรถ ทั้งๆ ที่พยานโจทก์มิได้เบิกความถึงเรื่องสัญญาณแตร และจำเลยก็มิได้เบิกความรับเช่นนั้น ดังนี้ ย่อมเป็นการวินิจฉัยนอกเหนือพยานหลักฐานในสำนวน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนทางอาญา: ภาระการพิสูจน์และการใช้พยานหลักฐาน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยเจตนา จำเลยให้การว่าทำร้ายผู้ตายเพราะผู้ตายกับพวกเข้าปล้นบ้านจำเลย จำเลยไม่ได้กระทำผิด ดังนี้ เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความจริง แต่การนำสืบในกรณีเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องมีประจักษ์พยานมาเบิกความเสมอไป ถ้อยคำพยานและเหตุผลแวดล้อมอาจมีน้ำหนักพอให้วินิจฉัยได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนและการพิสูจน์ความผิดในคดีอาญา: โจทก์ต้องพิสูจน์การกระทำความผิด แม้ไม่มีพยานรู้เห็น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยเจตนา จำเลยให้การว่าทำร้ายผู้ตายเพราะผู้ตายกับพวกเข้าปล้นบ้านจำเลย จำเลยไม่ได้กระทำผิด ดังนี้ เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความจริง แต่การนำสืบในกรณีเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องมีประจักษ์พยานมาเบิกความเสมอไป ถ้อยคำพยานและเหตุผลแวดล้อมอาจมีน้ำหนักพอให้วินิจฉัยได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1748/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตควบคุมการแปรรูปไม้เป็นองค์ประกอบความผิด ต้องพิสูจน์สถานที่เกิดเหตุเป็นเขตควบคุมฯ
เขตควบคุมการแปรรูปไม้เป็นข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ เมื่อโจทก์มิได้นำสืบว่าท้องที่เกิดเหตุเป็นเขตควบคุมการแปรรูปไม้ คดีก็ฟังไม่ได้ว่าท้องที่เกิดเหตุที่จำเลยมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองเป็นเขตควบคุมการแปรรูปไม้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1748/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตควบคุมการแปรรูปไม้เป็นองค์ประกอบความผิด การพิสูจน์ข้อเท็จจริงสำคัญ
เขตควบคุมการแปรรูปไม้เป็นข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ เมื่อโจทก์มิได้นำสืบว่าท้องที่เกิดเหตุเป็นเขตควบคุมการแปรรูปไม้ คดีก็ฟังไม่ได้ว่าท้องที่เกิดเหตุที่จำเลยมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองเป็นเขตควบคุมการแปรรูปไม้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1520/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนการพิจารณาคดีอาญาเนื่องจากทนายจำเลยติดว่าความคดีอื่น ศาลต้องอนุญาตหากมีเหตุสมควร
ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาโดยอ้างว่าในวันนัดนั้น ทนายจำเลยติดว่าความที่ศาลอื่น ข้ออ้างของทนายจำเลยเป็นความจริงทั้งเป็นกรณีที่มีเหตุอันสมควร ชอบที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาสืบพยานโจทก์ไปได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 175 วรรค 2 แต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและทำการพิจารณาพิพากษาไปเลย จึงเป็นการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกระบวนพิจารณาศาลฎีกาจึงให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาพิพากษาใหม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 208(2)
of 26