คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 174

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 260 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยในคดีอาญา มีสิทธิพิสูจน์ความบริสุทธิ์ แม้ไม่ให้การต่อสู้ หรือซักค้านพยานโจทก์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยฆ่าคน แม้ว่าจำเลยจะให้การปฏิเสธลอยๆ และจำเลยไม่ได้ซักค้านพยานโจทก์ในเรื่องป้องกันตัว จำเลยก็นำสืบในเรื่องป้องกันตัวได้ เพราะกระบวนพิจารณาความในคดีอาญาต่างกับในคดีแพ่ง ในคดีอาญาจำเลยไม่ยอมให้การอย่างใดเลย ก็ไม่เป็นไรและไม่ว่าจำเลยจะให้การต่อสู้อย่างไรหรือไม่ให้การเลย ก็เป็นหน้าที่ของโจทก์ต้องนำพยานเข้าสืบเพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลยตามฟ้องก่อนเสมอไป และหลังจากสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วจำเลยมีอำนาจนำพยานเข้าสืบเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของจำเลยได้ เมื่อเป็นดังนี้จำเลยในคดีอาญาจึงมีอำนาจนำพยานเข้าสืบเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของจำเลยได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้การต่อสู้เป็นประเด็นไว้และไม่จำต้องซักค้านพยานโจทก์ในเรื่องที่จำเลยจะนำพยานเข้าสืบต่อไปไว้เลยก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1569/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีไม้แปรรูปเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด การพิสูจน์ข้อยกเว้นโทษเป็นหน้าที่ของจำเลย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษทางอาญาแก่จำเลยฐานมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองเกินกว่าปริมาณที่กำหนดไว้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ม. 48 ถ้าจำเลยต่อสู้ว่าได้รับยกเว้นโทษตาม ม. 50 จำเลยจะต้องนำสืบว่ากรณีต้องด้วยข้อยกเว้นนั้น มิฉะนั้นก็ไม่อาจพ้นผิดไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1569/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีไม้แปรรูปเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด จำเลยต้องพิสูจน์ข้อยกเว้นเพื่อพ้นผิด
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษทางอาญาแก่จำเลยฐานมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองเกินกว่าปริมาณที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ มาตรา 48 ถ้าจำเลยต่อสู้ว่าได้รับยกเว้นโทษตาม มาตรา 50 จำเลยจะต้องนำสืบว่ากรณีต้องด้วยข้อยกเว้นนั้น มิฉะนั้นก็ไม่อาจพ้นผิดไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1569/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้แปรรูปเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด การพิสูจน์ข้อยกเว้นโทษเป็นหน้าที่ของจำเลย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษทางอาญาแก่จำเลยฐานมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองเกินกว่าปริมาณที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ มาตรา 48 ถ้าจำเลยต่อสู้ว่าได้รับยกเว้นโทษตาม มาตรา 50 จำเลยจะต้องนำสืบว่ากรณีต้องด้วยข้อยกเว้นนั้น มิฉะนั้นก็ไม่อาจพ้นผิดไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 977/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสูญเสียสัญชาติไทยหลังได้รับใบสำคัญคนต่างด้าว และอายุความฟ้องร้อง
บุคคลผู้มีสัญชาติไทยเพราะเกิดในราชอาณาจักรไทยแต่บิดาเป็นคนต่างด้าวนั้น เมื่อจำเลยรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวแล้ว ย่อมขาดจากสัญชาติไทย ตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ(ฉบับที่ 2)พ.ศ.2496 มาตรา 5 ไม่ว่าจะได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวก่อนหรือหลังวัน พระราชบัญญัตินั้นใช้บังคับ
การที่จำเลยให้การว่าได้เอาใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไปคืนให้แก่อำเภอ 7-8 ปีแล้ว แต่ไม่มีหลักฐานอะไร ดังนี้ ก็ย่อมไม่มีเหตุจำเป็นที่ศาลฎีกาจะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
พระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 2)2496 มาตรา 5 ใช้บังคับเมื่อ 4 ก.พ. 2496 จำเลยมีหน้าที่ต้องไปขอใบสำคัญประจำตัวภายใน 30 วันนับแต่วันรู้หรือควรจะรู้ว่าตนได้สูญเสียสัญชาติไทยโจทก์มาฟ้องเมื่อ 15 ก.พ. 2497 ดังนี้ยังหาขาดอายุความไม่ เพราะฟ้องภายในกำหนด 1 ปีนับแต่วันที่จำเลยไม่ไปขอใบสำคัญประจำตัวภายในกำหนดที่กฎหมายบังคับไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 825/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความข้อกำหนดการปิดประกาศให้ถูกต้องตามกฎหมายป่าไม้ การพิสูจน์ข้อเท็จจริงในคดีอาญา
พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ม.5 กำหนดวิธีปฏิบัติในเรื่องประกาศไว้เป็นพิเศษคือให้คัดสำเนาประกาศปิดไว้ ณที่ว่าการอำเภอและที่ทำการกำนันหรือสาธารณะสถานดังนี้ เมื่อปรากฎว่าประกาศเขตควบคุมการแปรรูปไม้เรื่องนี้ได้ปิดประกาศไว้ที่ว่าการอำเภอเพียงแห่งเดียว จึงเป็นการปฏิบัติที่ยังไม่ยอม จะลงโทษจำเลยหาได้ไม่
ข้อความเรื่องปิดประกาศเขตควบคุมการแปรรูปไม้นี้ เป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะต้องพิสูจน์จะอ้างว่าจำเลยไม่ได้ให้การโต้เถียงไว้ย่อมฟังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 825/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกาศเขตควบคุมการแปรรูปไม้ต้องปิดตามสถานที่ที่กฎหมายกำหนด การไม่ปฏิบัติตามทำให้การลงโทษจำเลยเป็นโมฆะ
พระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 ม.5 กำหนดวิธีปฏิบัติในเรื่องประกาศไว้เป็นพิเศษคือให้คัดสำเนาประกาศปิดไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอและที่ทำการกำนันหรือสาธารณะสถาน.ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าประกาศเขตควบคุมการแปรรูปไม้เรื่องนี้ได้ปิดประกาศไว้ที่ว่าการอำเภอเพียงแห่งเดียวจึงเป็นการปฏิบัติที่ยังไม่ชอบ จะลงโทษจำเลยหาได้ไม่
ข้อความเรื่องปิดประกาศเขตควบคุมการแปรรูปไม้นี้เป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะต้องพิสูจน์จะอ้างว่าจำเลยไม่ได้ให้การโต้เถียงไว้ย่อมฟังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2091/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการนำสืบพยานในคดีอาญา: การสมคบคิดกับผู้รับสารภาพและความเชื่อมโยงกับความผิดตามฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดอาญา จำเลยคนหนึ่งรับสารภาพ แต่อีกคนหนึ่งปฏิเสธโจทก์จะขอสืบพะยานว่าจำเลยคนที่ปฏิเสธได้สมคบกับจำเลยที่รับสารภาพกระทำความผิดอาญานั้นก็ได้ ฉะเพาะในความหมายของการสมคบในนัยที่ว่า จำเลยนั้นได้ลงมือกระทำผิดตามฟ้องนั้นเอง เพราะคำว่าสมคบนั้นเป็นคำที่มีความหมายกว้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2091/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานความผิดสมคบร่วมกันกระทำความผิดอาญา ต้องไม่เกินกรอบคำฟ้องเดิม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดอาญา จำเลยคนหนึ่งรับสารภาพ แต่อีกคนหนึ่งปฏิเสธ โจทก์จะขอสืบพยานว่าจำเลยคนที่ปฏิเสธได้สมคบกับจำเลยที่รับสารภาพกระทำความผิดอาญานั้นก็ได้ เฉพาะในความหมายของการสมคบในนัยที่ว่า จำเลยนั้นได้ลงมือกระทำผิดตามฟ้องนั้นเอง เพราะคำว่าสมคบนั้นเป็นคำที่มีความหมายกว้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1519/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา, การขาดนัดโจทก์ร่วม, และอำนาจศาลเลื่อนคดี
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.118,223,227 โดยบรรยายฟ้องว่าได้กระทำความเสียหายแก่นางสงวน นายบรรจัดและกรมที่ดินมิได้บรรยายว่าได้กระทำความเสียหายแก่สาธารณชนหรือผู้หนึ่งผู้ใดนั้นเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ ผู้หนึ่งผู้ใดในที่นี้ก็คือนางสงวน นายบรรจัดและกรมที่ดินซึ่งได้บรรยายมาในฟ้องแล้ว,
ในคดีซึ่งมีโจทก์ร่วมกันสองคนโจทก์คนหนึ่งมาอีกคนหนึ่งขาดนัดดังนี้ จะยกฟ้องโจทก์เพราะเหตุขาดนัดไม่ได้
of 26