พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1536/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ร่วมสินสมรส: ภรรยาต้องรับผิดชอบหนี้ที่สามีทำขึ้นระหว่างสมรส หากภรรยามีส่วนรู้เห็นและได้รับประโยชน์จากหนี้นั้น
ผู้ร้องรู้เห็นในการที่จำเลยซึ่งเป็นสามีผู้ร้องเข้าเป็นกรรมการสหกรณ์โจทก์รับดำเนินงานจัดซื้อข้าวโพด โดยมีรายได้จากโจทก์วันละ 30 บาท ผู้ร้องเคยพาผู้อื่นไปขายข้าวโพดกับโจทก์ จึงมีส่วนช่วยในการดำเนินงานดังกล่าวหารายได้จุนเจือครอบครัว หนี้ตามคำพิพากษาเป็นค่าเสียหายเกิดจากจำเลยดำเนินงานดังกล่าวและประพฤติผิดสัญญาต่อโจทก์เป็นหนี้ที่จำเลยก่อขึ้นในระหว่างสมรส ถือได้ว่าเป็นหนี้ที่จำเลยกับผู้ร้องเป็นลูกหนี้ร่วมกันผู้ร้องต้องร่วมรับผิด จึงไม่มีสิทธิขอกันส่วนตามคำร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 486/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมโดยปริยายในสัญญาจะซื้อขายและหนี้ร่วมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1482(4)
สามีได้ลงชื่อเป็นพยานรู้เห็นในสัญญาจะซื้อขาย ย่อมถือได้ว่า สามีได้ยินยอมหรือให้สัตยาบันโดยปริยายในสัญญาแล้ว
หนี้ที่เกิดขึ้นเพราะภรรยาผิดสัญญาจะซื้อขายที่ดินจึงเป็นหนี้ร่วมระหว่างภรรยากับสามีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1482(4) สามีต้องรับผิดร่วมด้วย
หนี้ที่เกิดขึ้นเพราะภรรยาผิดสัญญาจะซื้อขายที่ดินจึงเป็นหนี้ร่วมระหว่างภรรยากับสามีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1482(4) สามีต้องรับผิดร่วมด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 486/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมโดยปริยายในสัญญาจะซื้อจะขาย และความรับผิดร่วมในหนี้ที่เกิดจากสัญญา
สามีได้ลงชื่อเป็นพยานรู้เห็นในสัญญาจะซื้อจะขาย ย่อมถือได้ว่าสามีได้ยินยอมหรือให้สัตยาบันโดยปริยายในสัญญาแล้ว หนี้ที่เกิดขึ้นเพราะภรรยาผิดสัญญาจะซื้อขายในที่ดินจึงเป็นหนี้ร่วมระหว่างภรรยากับสามีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1482 (4) สามีต้องรับผิดร่วมด้วย