คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สมบูรณ์ บุญภินนท์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,151 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3739/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องสัญญาต่างตอบแทนหลังเจ้ามรดกเสียชีวิต: ไม่ใช่การฟ้องเจ้ามรดกโดยตรง
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 ซึ่งเป็นทายาทผู้รับมรดกให้ปฏิบัติตามสัญญาต่างตอบแทนที่โจทก์ทำไว้กับเจ้ามรดก มิใช่ฟ้องอ้างว่าเจ้ามรดกผิดสัญญาอันเป็นการใช้สิทธิเรียกร้องที่มีต่อเจ้ามรดกจึงนำอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 วรรคสามมาใช้บังคับไม่ได้ โจทก์ไม่ต้องใช้สิทธิฟ้องร้องภายใน 1 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3739/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องผิดสัญญา: สิทธิเรียกร้องต่อทายาทไม่ใช่สิทธิเรียกร้องต่อเจ้ามรดก
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 ซึ่งเป็นทายาทผู้รับมรดกให้ปฏิบัติตามสัญญาต่างตอบแทนที่โจทก์ทำไว้กับเจ้ามรดก มิใช่ฟ้องอ้างว่าเจ้ามรดกผิดสัญญาอันเป็นการใช้สิทธิเรียกร้องที่มีต่อเจ้ามรดกจึงนำอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 วรรคสามมาใช้บังคับไม่ได้ โจทก์ไม่ต้องใช้สิทธิฟ้องร้องภายใน 1 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3734/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีสัญญาต่างตอบแทนหลังเจ้ามรดกเสียชีวิต: ไม่ใช่อายุความเรียกร้องต่อเจ้ามรดก
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 ซึ่งเป็นทายาทผู้รับมรดกให้ปฏิบัติตามสัญญาต่างตอบแทนที่โจทก์ทำไว้กับเจ้ามรดก มิใช่ฟ้องอ้างว่าเจ้ามรดกผิดสัญญาอันเป็นการใช้สิทธิเรียกร้องที่มีต่อเจ้ามรดกจึงนำอายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา 1754 วรรคสาม มาใช้บังคับไม่ได้ โจทก์ไม่ต้องใช้สิทธิฟ้องร้องภายใน 1 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4187/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำที่ดินต่อเนื่องและอายุความละเมิด การประเมินค่าเสียหายที่ดินที่เหลือใช้ประโยชน์ได้
จำเลยบุกรุกก่อสร้างถนนล้ำเข้าไปในที่ดินของมารดาโจทก์ขุดคูและปักป้ายชื่อถนนในที่ดินพิพาท ต่อมาโจทก์ได้ที่ดินพิพาทมาจากการสืบสิทธิของมารดา และขณะที่ดินพิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์แล้วจำเลยก็ยังรุกล้ำที่ดินพิพาทอยู่อีก จึงถือว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ด้วย และจำเลยกระทำละเมิดต่อเนื่องกันตลอดมา ฟ้องของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
แม้ที่ดินพิพาทส่วนที่เหลือจากการรุกล้ำของจำเลยไม่พอปลูกสร้างอาคารตึกแถวตามปกติได้เพราะมีเนื้อที่เหลือเพียงประมาณ 11 ตารางวา แต่โจทก์ก็พอจะใช้ประโยชน์ในที่ดินพิพาทในทางอื่นได้ใช่ว่าที่ดินของโจทก์จะหมดค่าไปโดยสิ้นเชิง โจทก์จะคิดเป็นค่าเสียหายเท่ากับราคาที่ดินทั้งแปลงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4187/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำที่ดินต่อเนื่อง ละเมิดกรรมสิทธิ์ และการประเมินค่าเสียหายเหมาะสม
จำเลยบุกรุกก่อสร้างถนนล้ำ เข้าไปในที่ดินของมารดาโจทก์ขุดคูและปักป้ายชื่อถนนในที่ดินพิพาท ต่อมาโจทก์ได้ที่ดินพิพาทมาจากการสืบสิทธิของมารดา และขณะที่ดินพิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์แล้วจำเลยก็ยังรุกล้ำที่ดินพิพาทอยู่อีก จึงถือว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ด้วย และจำเลยกระทำละเมิดต่อเนื่องกันตลอดมา ฟ้องของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ แม้ที่ดินพิพาทส่วนที่เหลือจากการรุกล้ำของจำเลยไม่พอปลูกสร้างอาคารตึกแถวตามปกติได้เพราะมีเนื้อที่เหลือเพียงประมาณ11 ตารางวา แต่โจทก์ก็พอจะใช้ประโยชน์ในที่ดินพิพาทในทางอื่นได้ใช่ว่าที่ดินของโจทก์จะหมดค่าไปโดยสิ้นเชิง โจทก์จะคิดเป็นค่าเสียหายเท่ากับราคาที่ดินทั้งแปลงไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4187/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำที่ดินต่อเนื่อง อายุความ และการประเมินค่าเสียหายที่ดินที่เหลือใช้ประโยชน์ได้
จำเลยก่อสร้างถนน ขุดคู และปักป้ายชื่อถนนรุกล้ำเข้าไปในที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินของมารดาโจทก์ ต่อมาโจทก์ได้ที่ดินพิพาทมาจากการสืบสิทธิของมารดา และขณะที่ดินพิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์แล้วจำเลยก็ยังรุกล้ำที่ดินพิพาทอยู่อีก จึงถือว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ด้วย และจำเลยกระทำละเมิดต่อเนื่องกันตลอดมาฟ้องของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ เมื่อที่ดินพิพาทส่วนที่เหลือจากการรุกล้ำของจำเลยไม่พอปลูกสร้างอาคารตึกแถวตามปกติได้เพราะมีเนื้อที่เหลือเพียงประมาณ11 ตารางวา แต่โจทก์ก็พอจะใช้ประโยชน์ในที่ดินพิพาทในทางอื่นได้ ใช่ว่าที่ดินของโจทก์จะหมดค่าไปโดยสิ้นเชิง จึงไม่อาจคิดค่าเสียหายเท่ากับราคาที่ดินทั้งแปลง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4519/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างลูกจ้างที่กระทำผิดร้ายแรง การพิจารณาความผิดตามระเบียบข้อบังคับ และสิทธิในการได้รับค่าชดเชย
ระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของนายจ้างกำหนดความผิดและมาตรการการลงโทษไว้ ซึ่งประกอบด้วยโทษสถานเบาสถานปานกลาง สถานหนักและโทษทางวินัย ส่วนกรณีความผิดอื่นที่ไม่ระบุในข้อบังคับให้ทำการพิจารณาโดยหัวหน้างานหรือฝ่ายจัดการเพื่อเปรียบเทียบการลงโทษ ลูกจ้างชกต่อยผู้บังคับบัญชาในขณะกำลังเปลี่ยนกะพนักงานต่อหน้าพนักงานอื่นจำนวนมาก ด้วยสาเหตุเนื่องมาจากการทำงาน ถือว่าเป็นความผิดกรณีร้ายแรงเปรียบเทียบได้กับโทษทางวินัย คือ เจตนากระทำผิดอาญาต่อนายจ้าง ซึ่งมีโทษให้ออกโดยไม่จ่ายเงินชดเชย และถือว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานอันเป็นกรณีร้ายแรงนายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าและไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4519/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างลูกจ้างกรณีทำร้ายผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดร้ายแรง นายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
ระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของนายจ้างกำหนดความผิดและมาตราการลงโทษไว้ ซึ่งประกอบด้วยโทษสถานเบา สถานปานกลาง สถานหนัก และโทษทางวินัย ส่วนกรณีความผิดอื่นที่ไม่ระบุในข้อบังคับ ให้ทำการพิจารณาโดยหัวหน้างานหรือฝ่ายจัดการเพื่อเปรียบเทียบการลงโทษ ลูกจ้างชกต่อยผู้บังคับบัญชาในขณะกำลังเปลี่ยนกะพนักงาน ต่อหน้าพนักงานอื่นจำนวนมาก ด้วยสาเหตุเนื่องมาจากการทำงาน ถือว่าเป็นความผิดกรณีร้ายแรงเปรียบเทียบได้กับโทษทางวินัย คือ เจตนากระทำผิดอาญาต่อนายจ้าง ซึ่งมีโทษให้ออกโดยไม่จ่ายเงินชดเชย และถือว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานอันเป็นเป็นกรณีร้ายแรง นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าและไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4765/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องหลังชี้สองสถาน กรณีข้อเท็จจริงใหม่เกี่ยวกับตัวผู้กระทำละเมิด
โจทก์ถูกรถยนต์ของจำเลยชนแล้วหลบหนี จำเลยปกปิดชื่อและที่อยู่ของผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว โจทก์จึงได้ฟ้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายในฐานะเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถยนต์ แม้ศาลชั้นต้นชี้สองสถานกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์แล้วแต่เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏแก่โจทก์ตามสำนวนการสอบสวนของพนักงานอัยการที่ส่งศาลตามหมายเรียกว่า ผู้ขับขี่รถยนต์ชนโจทก์เป็นลูกจ้างและกระทำการในทางการที่จ้างของจำเลย ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์เพิ่งทราบความจริงภายหลังจากการชี้สองสถานและไม่อาจยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องได้ก่อนหน้านั้นโจทก์จึงมีสิทธิขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องเป็นให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ในฐานะนายจ้างของผู้ทำละเมิดต่อโจทก์หลังวันชี้สองสถานแล้วได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4765/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องหลังชี้สองสถาน: เมื่อข้อเท็จจริงใหม่ปรากฏหลังฟ้อง
โจทก์ถูกรถยนต์ของจำเลยชนแล้วหลบหนีจำเลยปกปิดชื่อและที่อยู่ของผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวโจทก์จึงได้ฟ้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายในฐานะเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถยนต์แม้ศาลชั้นต้นชี้สองสถานกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์แล้วแต่เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏแก่โจทก์ตามสำนวนการสอบสวนของพนักงานอัยการที่ส่งศาลตามหมายเรียกว่าผู้ขับขี่รถยนต์ชนโจทก์เป็นลูกจ้างและกระทำการในทางการที่จ้างของจำเลยดังนี้ถือได้ว่าโจทก์เพิ่งทราบความจริงภายหลังจากการชี้สองสถานและไม่อาจยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องได้ก่อนหน้านั้นโจทก์จึงมีสิทธิขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องเป็นให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ในฐานะนายจ้างของผู้ทำละเมิดต่อโจทก์หลังวันชี้สองสถานแล้วได้.
of 216