พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,151 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 141-142/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าชดเชยและวันหยุดพักผ่อน: ข้อบังคับที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายและสิทธิลูกจ้างหลังเกษียณ
เมื่อหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินสงเคราะห์กับค่าชดเชยแตกต่างกันเงินสงเคราห์จึงเป็นเงินประเภทอื่นซึ่งนายจ้างตกลงจ่ายให้แก่ลูกจ้างนอกเหนือจากค่าชดเชย และการที่มีข้อบังคับกำหนดให้การจ่ายเงินสงเคราะห์เป็นการจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายเกี่ยวกับแรงงานนั้น มีเจตนาหลีกเลี่ยงไม่จ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย จึงไม่มีผลบังคับ
ลูกจ้างมิได้ทำแผนวันลาพักผ่อนประจำปีตามคำสั่งของนายจ้างเพราะลูกจ้างมีเหตุจำเป็นไม่อาจหาคนอื่นทำหน้าที่แทนได้ และนายจ้างก็มิได้กำหนดวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้ ดังนี้ เมื่อลูกจ้างเกษียณอายุโดยมิได้หยุดพักผ่อนประจำปีงบประมาณ 2526 และ 2527 นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีงบประมาณดังกล่าวแก่ลูกจ้าง ส่วนปีงบประมาณ 2528 นั้น ลูกจ้างมิได้ทำงานให้นายจ้างแล้ว จึงไม่มีวันหยุดพักผ่อนประจำปี ลูกจ้างจะเรียกค่าจ้างโดยอ้างว่าหากไม่ถูกเลิกจ้างก็มีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีสืบเนื่องมาจากการทำงานครบ 1 ปีของปีงบประมาณ 2527 หาได้ไม่
ลูกจ้างมิได้ทำแผนวันลาพักผ่อนประจำปีตามคำสั่งของนายจ้างเพราะลูกจ้างมีเหตุจำเป็นไม่อาจหาคนอื่นทำหน้าที่แทนได้ และนายจ้างก็มิได้กำหนดวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้ ดังนี้ เมื่อลูกจ้างเกษียณอายุโดยมิได้หยุดพักผ่อนประจำปีงบประมาณ 2526 และ 2527 นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีงบประมาณดังกล่าวแก่ลูกจ้าง ส่วนปีงบประมาณ 2528 นั้น ลูกจ้างมิได้ทำงานให้นายจ้างแล้ว จึงไม่มีวันหยุดพักผ่อนประจำปี ลูกจ้างจะเรียกค่าจ้างโดยอ้างว่าหากไม่ถูกเลิกจ้างก็มีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีสืบเนื่องมาจากการทำงานครบ 1 ปีของปีงบประมาณ 2527 หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 130/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิด ม.143 ไม่ต้องบรรยายรายละเอียดการติดต่อหรือความสัมพันธ์พิเศษกับเจ้าพนักงาน
ฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 เป็นเรื่องกล่าวหาว่าจำเลยเรียกหรือรับเงินจากผู้เสียหาย โดยอ้างว่าเพื่อจะนำไปให้แก่พนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ ให้ช่วยเหลือมิให้ ร.ถูกฟ้องเป็นคดีอาญา การกระทำอันเป็นความผิดมิได้อยู่ที่จำเลยติดต่อหรือให้เงินแก่เจ้าพนักงานดังกล่าว โจทก์จึงหาต้องบรรยายฟ้องว่าจำเลยติดต่อกับใครที่ไหน ให้เงินแก่พนักงานอัยการคนใด ทั้งจำเลยมีความสัมพันธ์พิเศษกับเจ้าพนักงานอันอาจจูงใจเจ้าพนักงานนั้นได้หรือไม่ ก็มิใช่องค์ประกอบแห่งความผิดอันต้องบรรยายในฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3928/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างเนื่องจากเกษียณอายุต้องจ่ายค่าชดเชย เงินเพิ่มพิเศษสำหรับการสู้รบเป็นค่าจ้างรวมคำนวณค่าชดเชยได้
เงินเพิ่มพิเศษสำหรับการสู้รบเป็นเงินที่จำเลยจ่ายพร้อมเงินเดือนถือได้ว่าเป็นเงินที่จำเลยจ่ายตอบแทนการทำงานของโจทก์ ทั้งข้อบังคับของจำเลยว่าด้วย กองทุนบำเหน็จ กำหนดว่าเงินเพิ่มพิเศษสำหรับการสู้รบเป็นค่าจ้างอย่างหนึ่งด้วยจึงต้องนำเงินดังกล่าวมารวมเป็นฐานคำนวณค่าชดเชย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3888/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารประกาศผลการลงโทษ ไม่ถือเป็นคำเตือนตามกฎหมายแรงงาน จำเลยต้องจ่ายค่าชดเชย
เอกสารของจำเลยเป็นแต่เพียงประกาศให้ลูกจ้างทุกคนทราบผลของการที่โจทก์ฝ่าฝืนระเบียบว่าจะถูกลงโทษเช่นไร และถ้าผู้ใดกระทำก็จะถูกลงโทษ ไม่มีข้อความตักเตือนโจทก์มิให้กระทำความผิดอีกและจำเลยก็ได้ลงโทษโจทก์ในการกระทำความผิดดังกล่าวไปแล้วดังนี้ ถือไม่ได้ว่าเอกสารนี้เป็นคำเตือนตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานฯ ข้อ 47(3) (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 3601/2525)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3888/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารประกาศผลการลงโทษลูกจ้าง ไม่ถือเป็นคำเตือนตามกฎหมายแรงงาน
เอกสารของจำเลยเป็นแต่เพียงประกาศให้ลูกจ้างทุกคนทราบผลของการที่โจทก์ฝ่าฝืนระเบียบว่าจะถูกลงโทษเช่นไร และถ้าผู้ใดกระทำก็จะถูกลงโทษ ไม่มีข้อความตักเตือนโจทก์มิให้กระทำความผิดอีก และจำเลยก็ได้ลงโทษโจทก์ในการกระทำความผิดดังกล่าวไปแล้วดังนี้ ถือไม่ได้ว่าเอกสารนี้เป็นคำเตือนตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานฯ ข้อ 47(3)
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 3601/2525)
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 3601/2525)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3802/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าจอดรถไม่ใช่ค่าจ้าง: การจ่ายเหมาเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงาน
โจทก์ต้องเสียค่าจอดรถในการออกปฏิบัติงาน แม้จำเลยจะจ่ายค่าจอดรถให้โจทก์ประจำเป็นรายเดือน ก็เพราะค่าจอดรถเป็นรายจ่ายปลีกย่อยไม่สะดวกที่จะจ่ายตามความเป็นจริง เห็นได้ว่าเป็นการจ่ายเหมาเพื่อชดเชยการที่โจทก์ต้องเสียค่าจอดรถไป ค่าจอดรถจึงไม่เป็นค่าจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3802/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าจอดรถไม่ใช่ค่าจ้าง: การจ่ายเหมาเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงาน
โจทก์ต้องเสียค่าจอดรถในการออกปฏิบัติงาน แม้จำเลยจะจ่ายค่าจอดรถให้โจทก์ประจำเป็นรายเดือน ก็เพราะค่าจอดรถเป็นรายจ่ายปลีกย่อยไม่สะดวกที่จะจ่ายตามความเป็นจริง เห็นได้ว่าเป็นการจ่ายเหมาเพื่อชดเชยการที่โจทก์ต้องเสียค่าจอดรถไป ค่าจอดรถจึงไม่เป็นค่าจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3697/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกข้อกฎหมายใหม่ในชั้นอุทธรณ์และฎีกาหลังรับสารภาพในศาลชั้นต้น ถือเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
โจทก์ฟ้องจำเลยด้วยวาจา ศาลชั้นต้นบันทึกไว้ว่าจำเลยบังอาจใช้เครื่องมืออวนรุนทำการประมงภายในเขตระยะ3,000 เมตร นับจากขอบแนวตามชายฝั่งโดยไม่รับอนุญาตอันเป็นการฝ่าฝืนประกาศกระทรวงเกษตรเรื่องกำหนดเขตห้ามใช้เครื่องมืออวนลากและอวนรุนที่ใช้กับเรือยนต์ทำการประมงลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2515จำเลยให้การรับสารภาพดังนี้ ประกาศกระทรวงเกษตรฉบับดังกล่าวออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายใด และมีข้อความว่าอย่างไรนั้นเป็นข้อเท็จจริงเมื่อจำเลยเพิ่งยกขึ้นอ้างอิงในชั้นอุทธรณ์และกล่าวอ้างว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วยประการต่าง ๆ จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225 แม้ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยให้ก็ไม่ถือว่าเป็นข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ จำเลยยกขึ้นฎีกามาอีกต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3674/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องคดีแรงงานหลังชี้สองสถาน ศาลต้องยกคำร้องหากสิทธิเรียกร้องทราบตั้งแต่แรก
โจทก์ถูกจำเลยเลิกจ้างและฟ้องเรียกค่าชดเชยที่ขาดจากจำเลยหลังจากศาลชั้นต้นชี้สองสถานแล้ว โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขฟ้องเพิ่มเติมข้อหาว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ไม่เป็นธรรม ขอให้ใช้ค่าเสียหายด้วยดังนี้ มูลกรณีที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าชดเชยที่ขาดกับค่าเสียหายเนื่องจากเลิกจ้างไม่เป็นธรรม เป็นมูลกรณีเดียวกันโจทก์ย่อมทราบถึงสิทธิเรียกร้องทั้งสองประเภทดีอยู่แล้วขณะยื่นฟ้องจึงอาจยื่นคำร้องขอแก้ไขฟ้องได้ก่อนวันชี้สองสถาน และเมื่อคดีไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน การแก้ไขฟ้องดังกล่าวจึงไม่ชอบเมื่อศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้โจทก์แก้ไขฟ้อง จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ศาลฎีกาให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3674/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องคดีแรงงานหลังชี้สองสถาน ศาลต้องยกคำร้องหากโจทก์ทราบสิทธิเรียกร้องแต่แรก
โจทก์ถูกจำเลยเลิกจ้างและฟ้องเรียกค่าชดเชยที่ขาดจากจำเลยหลังจากศาลชั้นต้นชี้สองสถานแล้ว โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขฟ้องเพิ่มเติมข้อหาว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ไม่เป็นธรรม ขอให้ใช้ค่าเสียหายด้วยดังนี้ มูลกรณีที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าชดเชยที่ขาดกับค่าเสียหายเนื่องจากเลิกจ้างไม่เป็นธรรม เป็นมูลกรณีเดียวกัน โจทก์ย่อมทราบถึงสิทธิเรียกร้องทั้งสองประเภทดีอยู่แล้วขณะยื่นฟ้องจึงอาจยื่นคำร้องขอแก้ไขฟ้องได้ก่อนวันชี้สองสถาน และเมื่อคดีไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน การแก้ไขฟ้องดังกล่าวจึงไม่ชอบเมื่อศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้โจทก์แก้ไขฟ้อง จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ศาลฎีกาให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้น