คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สมบูรณ์ บุญภินนท์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,151 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3831-3832/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แม้มีระเบียบหักเงินบำเหน็จเป็นค่าชดเชย แต่หากนายจ้างไม่ได้ใช้สิทธิหักจริง ก็ต้องจ่ายค่าชดเชยให้ลูกจ้าง
แม้ระเบียบข้อบังคับของนายจ้างจะกำหนดให้นายจ้างมีสิทธิที่จะหักเงินบำเหน็จลงตามจำนวนค่าชดเชยที่ต้องจ่ายแก่ลูกจ้าง แต่ไม่ปรากฏว่านายจ้างใช้สิทธิดังกล่าว คงปรากฏแต่เพียงว่านายจ้างจ่ายเงินให้ลูกจ้างในลักษณะเป็นเงินบำเหน็จ ถือไม่ได้ว่านายจ้างได้จ่ายเงินค่าชดเชยรวมไปด้วยแล้ว นายจ้างจึงต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างเมื่อเลิกจ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3726/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อกับเจตนาของผู้ให้เช่าซื้อที่ต้องการรับชำระเงินค่าเช่าซื้อ แม้ทราบว่ารถถูกใช้กระทำผิด
รถยนต์ของกลางเป็นรถยนต์ที่จำเลยเช่าซื้อจากผู้ร้องผู้ร้องมีเจตนาเพียงที่จะได้รับชำระเงินค่าเช่าซื้อตามสัญญาเท่านั้น การร้องขอคืนรถยนต์ของกลางของผู้ร้องจึงเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของจำเลยซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด เข้าลักษณะเป็นการที่ผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดของจำเลยด้วย จึงหามีสิทธิที่จะขอให้ศาลสั่งคืนรถยนต์ของกลางไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3724/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สินสมรสเดิมของจำเลย อำนาจจำหน่าย และการแจ้งความเท็จเกี่ยวกับสถานภาพ
ที่ดินและบ้านพิพาทเป็นทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียวโดยเป็นสินเดิมของจำเลยที่ 1 หาใช่สินสมรสไม่เมื่อใช้บังคับบทบัญญัติบรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ตรวจชำระใหม่แล้วย่อมเป็นสินส่วนตัวของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 มีอำนาจจำหน่ายได้เองโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากโจทก์ และมิใช่ทรัพย์สินที่โจทก์จะมีส่วนแบ่งเมื่อหย่ากัน ฉะนั้นแม้ในการที่จำเลยที่ 1ทำสัญญาขายที่ดินและบ้านพิพาทดังกล่าวจำเลยที่ 1 แจ้งแก่เจ้าพนักงานที่ดินว่า จำเลยที่ 1 เป็นหม้ายโดยการตายของสามี ยังไม่ได้ทำการสมรสใหม่ และจำเลยที่ 2 รับรองการเป็นหม้ายของจำเลยที่ 1 ให้เจ้าพนักงานที่ดินบันทึกไว้ก็ตาม หากข้อความดังกล่าวเป็นความเท็จโจทก์ก็มิใช่ผู้เสียหายอันจะฟ้องจำเลยฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 267 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3724/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินสินเดิมก่อนสมรส ไม่ถือเป็นสินสมรส โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องฐานแจ้งความเท็จ
ที่ดินและบ้านพิพาทเป็นทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียว โดยเป็นสินเดิมของจำเลยที่ 1 หาใช่สินสมรสไม่เมื่อใช้บังคับบทบัญญัติบรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ตรวจชำระใหม่แล้วย่อมเป็นสินส่วนตัวของจำเลยที่ 1จำเลยที่ 1 มีอำนาจจำหน่ายได้เองโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากโจทก์ และมิใช่ทรัพย์สินที่โจทก์จะมีส่วนแบ่งเมื่อหย่ากัน ฉะนั้นแม้ในการที่จำเลยที่ 1ทำสัญญาขายที่ดินและบ้านพิพาทดังกล่าวจำเลยที่ 1 แจ้งแก่เจ้าพนักงานที่ดินว่า จำเลยที่ 1 เป็นหม้ายโดยการตายของสามี ยังไม่ได้ทำการสมรสใหม่ และจำเลยที่ 2 รับรองการเป็นหม้ายของจำเลยที่ 1 ให้เจ้าพนักงานที่ดินบันทึกไว้ก็ตาม หากข้อความดังกล่าวเป็นความเท็จโจทก์ก็มิใช่ผู้เสียหายอันจะฟ้องจำเลยฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา267 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3691/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความการเรียกร้องค่าเสียหายจากการบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ
จำเลยเช่าซื้อรถยนต์จากโจทก์ แล้วผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อ โจทก์บอกเลิกสัญญาและเอารถคืนมาสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย ในการที่โจทก์ต้องขาดประโยชน์ไม่สามารถนำรถไปให้ผู้อื่นเช่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะเช่าซื้อมิได้บัญญัติเรื่องอายุความการใช้สิทธิเรียกร้องดังกล่าว จึงต้องนำอายุความ 10 ปีตามมาตรา 164 มาใช้บังคับจะนำอายุความ 1 ปี ในเรื่องละเมิดมาใช้บังคับไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3635/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงสภาพการจ้าง: นโยบายเลื่อนชั้นประจำปีมีผลใช้บังคับเฉพาะปีนั้น และไม่สามารถขยายผลต่อเนื่องโดยอัตโนมัติ
การเลื่อนชั้นพนักงานเป็นอำนาจของธนาคารจำเลยผู้เป็นนายจ้างที่จะพิจารณาตามที่เห็นสมควรแก่อัตราตำแหน่งที่มีอยู่ประกอบกับผลการปฏิบัติงานของลูกจ้างและข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างในเรื่องนี้
ประกาศนโยบายการเลื่อนชั้นพนักงานขณะที่เป็นเพียงหนังสือของธนาคารจำเลยถึงผู้จัดการฝ่ายการพนักงาน เพื่อให้ถือเป็นหลักปฏิบัติยังไม่เป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างแต่ต่อมาสหภาพแรงงานได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อธนาคารจำเลยและได้ตกลงยอมรับเอาประกาศนโยบายฉบับดังกล่าวให้มีผลใช้บังคับดังนั้นประกาศนโยบายฉบับดังกล่าวจึงเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
ธนาคารจำเลยประกาศนโยบายการเลื่อนชั้นพนักงานเป็นปี ๆ ไป โดยแต่ละปีมีหลักเกณฑ์และแนวทางแตกต่างกันไป ดังนี้จะนำประกาศนโยบายปีหนึ่งมาใช้บังคับในปีถัดไปหาได้ไม่
กรณีตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 12 หมายถึง ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่มีผลบังคับเป็นการทั่ว ๆ ไป มิใช่เป็นข้อตกลงที่มีเจตนาให้ใช้บังคับชั่วระยะเวลาหนึ่งที่กำหนดไว้เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3635/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนชั้นพนักงาน: ข้อตกลงสภาพการจ้างมีผลเฉพาะปี และบทบัญญัติมาตรา 12 พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ ไม่ครอบคลุมข้อตกลงชั่วคราว
การเลื่อนชั้นพนักงานเป็นอำนาจของธนาคารจำเลยผู้เป็นนายจ้างที่จะพิจารณาตามที่เห็นสมควรแก่อัตราตำแหน่งที่มีอยู่ประกอบกับผลการปฏิบัติงานของลูกจ้างและข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างในเรื่องนี้
ประกาศนโยบายการเลื่อนชั้นพนักงานขณะที่เป็นเพียงหนังสือของธนาคารจำเลยถึงผู้จัดการฝ่ายการพนักงานเพื่อให้ถือเป็นหลักปฏิบัติยังไม่เป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างแต่ต่อมาสหภาพแรงงานได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อธนาคารจำเลยและได้ตกลงยอมรับเอาประกาศนโยบายฉบับดังกล่าวให้มีผลใช้บังคับดังนั้นประกาศนโยบายฉบับดังกล่าวจึงเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
ธนาคารจำเลยประกาศนโยบายการเลื่อนชั้นพนักงานเป็นปี ๆไป โดยแต่ละปีมีหลักเกณฑ์และแนวทางแตกต่างกันไปดังนี้จะนำประกาศนโยบายปีหนึ่งมาใช้บังคับในปีถัดไปหาได้ไม่
กรณีตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 12หมายถึง ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่มีผลบังคับเป็นการทั่ว ๆ ไป มิใช่เป็นข้อตกลงที่มีเจตนาให้ใช้บังคับชั่วระยะเวลาหนึ่งที่กำหนดไว้เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3587/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชี้สองสถาน, การแก้ไขคำให้การ, และสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีขับไล่
การชี้สองสถานคือการกะประเด็นข้อพิพาทและกำหนดหน้าที่นำสืบ การกะประเด็นข้อพิพาทย่อมกะได้จากคำฟ้องและคำให้การซึ่งเป็นคำคู่ความ คำคู่ความเท่านั้นที่จะตั้งประเด็นระหว่างคู่ความได้ การฟังคำแถลงของคู่ความ และการสอบถามคู่ความเป็นเรื่องที่กฎหมายประสงค์แต่เพียงเพื่อให้ได้ความชัดในประเด็นข้อพิพาทเท่านั้น จะฟังคำแถลงของคู่ความหรือสอบถามคู่ความแล้วตั้งประเด็นขึ้นใหม่หาได้ไม่ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องและคำให้การแล้วกำหนดประเด็นข้อพิพาทโดยไม่ได้สอบถามหรือฟังคำแถลงของคู่ความก่อน จึงเป็นการชี้สองสถานโดยชอบแล้ว
คำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยเป็นเรื่องที่จำเลยยืนยันว่าที่ดินพิพาทอยู่นอกเขตตราจองของโจทก์ โจทก์ไม่มีกรรมสิทธิ์และไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยอันเป็นข้อต่อสู้เดียวกับคำให้การซึ่งจำเลยได้สละแล้วในวันชี้สองสถาน กรณีจึงไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อจำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขคำให้การหลังจากวันชี้สองสถานจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180
ในชั้นชี้สองสถานคู่ความแถลงไม่ติดใจประเด็นข้อ 1 ที่ว่าที่ดินพิพาทอยู่ในเขตตราจองของโจทก์หรือไม่ ประเด็นข้อนี้จึงยุติ รูปคดีไม่มีเหตุที่จะต้องนำสืบในประเด็นข้อนี้ต่อไป จำเลยจึงขอให้สืบพยานในประเด็นข้อนี้อีกไม่ได้ บันทึกข้อตกลงในรายงานกระบวนพิจารณาของศาลเป็นสัญญาที่โจทก์จำเลยทำขึ้นเพื่อระงับข้อพิพาทในคดีที่โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท แม้โจทก์จำเลยจะทำต่อหน้าศาลโดยไม่ขอให้ศาลพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ บันทึกข้อตกลงดังกล่าวก็เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 850

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3587/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชี้สองสถาน, การแก้ไขคำให้การ, และสัญญาประนีประนอมยอมความ: ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาเดิม
การชี้สองสถานคือการกะประเด็นข้อพิพาทและกำหนดหน้าที่นำสืบ การกะประเด็นข้อพิพาทย่อมกะได้จากคำฟ้องและคำให้การซึ่งเป็นคำคู่ความ คำคู่ความเท่านั้นที่จะตั้งประเด็นระหว่างคู่ความได้ การฟังคำแถลงของคู่ความและการสอบถามคู่ความเป็นเรื่องที่กฎหมายประสงค์แต่เพียงเพื่อให้ได้ความชัดในประเด็นข้อพิพาทเท่านั้น จะฟังคำแถลงของคู่ความหรือสอบถามคู่ความแล้วตั้งประเด็นขึ้นใหม่หาได้ไม่ ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องและคำให้การแล้วกำหนดประเด็นข้อพิพาทโดยไม่ได้สอบถามหรือฟังคำแถลงของคู่ความก่อน จึงเป็นการชี้สองสถานโดยชอบแล้ว
คำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยเป็นเรื่องที่จำเลยยืนยันว่าที่ดินพิพาทอยู่นอกเขตตราจองของโจทก์ โจทก์ไม่มีกรรมสิทธิ์และไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยอันเป็นข้อต่อสู้เดียวกับคำให้การซึ่งจำเลยได้สละแล้วในวันชี้สองสถาน กรณีจึงไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อจำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขคำให้การหลังจากวันชี้สองสถาน จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180
ในชั้นชี้สองสถานคู่ความแถลงไม่ติดใจประเด็นข้อ 1 ที่ว่าที่ดินพิพาทอยู่ในเขตตราจองของโจทก์หรือไม่ ประเด็นข้อนี้จึงยุติ รูปคดีไม่มีเหตุที่จะต้องนำสืบในประเด็นข้อนี้ต่อไป จำเลยจึงขอให้สืบพยานในประเด็นข้อนี้อีกไม่ได้
บันทึกข้อตกลงในรายงานกระบวนพิจารณาของศาลเป็นสัญญาที่โจทก์จำเลยทำขึ้นเพื่อระงับข้อพิพาทในคดีที่โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท แม้โจทก์จำเลยจะทำต่อหน้าศาลโดยไม่ขอให้ศาลพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ บันทึกข้อตกลงดังกล่าวก็เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3586/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากละเมิดทางรถยนต์: การรับผิดของนายจ้างและผู้รับประกันภัย
การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยขับรถยนต์ด้วยความประมาทชนท้ายรถยนต์โจทก์นั้น เป็นการบรรยายฟ้องโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาแล้ว ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
of 216