คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ม. 65

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 921/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรังวัดที่ดิน: การแก้ไขผลรังวัดเดิมด้วยวิธีที่แม่นยำกว่าย่อมชอบธรรม แม้มีการโต้แย้ง
โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาลให้แบ่งแยกที่พิพาทออกเป็น 3 ส่วน โดยให้เส้นแบ่งแยกตั้งได้ฉากกับถนน ศาลได้พิพากษาตามยอมไปแล้ว ช่างรังวัดของสำนักงานที่ดินได้ทำการรังวัดปักหลักเขตแบ่งแยกที่ดินให้ตามสัญญายอม โจทก์จำเลยได้ลงชื่อรับรองการรังวัดนั้น ต่อมาโจทก์เห็นว่าเส้นแบ่งเขตไม่ตั้งได้ฉากกับถนนตามสัญญายอมโดยการรังวัดของเจ้าพนักงานคลาดเคลื่อนไป โจทก์มีสิทธิที่จะขอให้ศาลสั่งให้มีการรังวัดตรวจสอบใหม่ได้ ลำพังที่โจทก์จำเลยลงชื่อรับรองการรังวัดนั้น จะถือว่าโจทก์จำเลยรับรองว่าแผนที่ได้ทำขึ้นถูกต้องตามสัญญายอมต้องถือเป็นยุติแล้วหาได้ไม่
สำนักงานที่ดินมีหนังสืออธิบายต่อศาลว่า การรังวัดด้วยวิธีเจาะช่องส่องกล้องและบังธงอาจคลาดเคลื่อนได้ ถ้ารังวัดด้วยกล้องธีโอโดไลท์โดยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่กีดขวางออกให้กล้องสามารถส่องไปถึงจุดที่หมายได้แล้ววัดระยะอีกครั้งหนึ่ง จะได้ความจริงถูกต้องและแน่นอน ศาลชั้นต้นแจ้งให้คู่ความทราบ จำเลยได้ยินยอมให้รังวัดใหม่ด้วยกล้องธีโอโดไลท์ ต่อมาสำนักงานที่ดินมีหนังสือรายงานศาลว่าช่างรังวัดได้รังวัดแบ่งแยกที่ดินด้วยกล้องธีโอโดไลท์ตามสัญญายอมแล้ว ศาลชั้นต้นแจ้งให้คู่ความทราบจำเลยปฏิเสธไม่รับรองการรังวัดครั้งหลัง ศาลชั้นต้นได้สั่งในรายงานกระบวนพิจารณาว่า เจ้าหน้าที่รับรองว่าการรังวัดครั้งหลังใช้วิธีการเครื่องมือที่แน่นอนกว่า คือ ใช้กล้องส่องแทนที่ใช้โซ่ลากอย่างคราวแรก ถือได้ว่าการรังวัดครั้งหลังถูกต้องยิ่งกว่าคราวแรกให้โจทก์จำเลยจดทะเบียนแบ่งแยกตามที่ได้รังวัดครั้งหลังนี้ นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าศาลชั้นต้นได้รับฟังหนังสือรายงานของสำนักงานที่ดินเป็นหลักฐาน พิเคราะห์ในการสั่งเป็นการไต่สวนอยู่แล้ว เห็นว่าศาลชั้นต้นไม่จำต้องทำการไต่สวนอย่างใดต่อไปอีกตามนัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคสองและสาม