คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อัมพล สุวรรณภักดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 395 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความและการรับสภาพหนี้ด้วยวาจาไม่ผูกพันทางกฎหมาย
การที่จำเลยขอผัดชำระหนี้ด้วยวาจาหรือยอมรับด้วยวาจาต่อหน้าผู้อื่นว่าเป็นหนี้โจทก์และจะชำระหนี้ให้แก่โจทก์ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้รับสภาพหนี้ต่อเจ้าหนี้ด้วยกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่าจำเลยยอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์อันจะเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172
โจทก์ผู้เป็นพ่อค้าใช้สิทธิเรียกร้องราคาสินค้าจากจำเลยเกินกว่าสองปีนับแต่วันส่งมอบคดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 998/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถ ชนกันกลางคืน ผู้ขับขี่ไม่เปิดไฟท้าย/ผาลไถ มีส่วนรับผิดชอบค่าเสียหาย
ลูกจ้างขับรถแทรกเตอร์ของจำเลยในเวลากลางคืนโดยไม่จุดโคมไฟแสงแดงที่ท้ายรถและที่ปลายสุดของผาลไถซึ่งยื่นล้ำข้างท้ายของรถ เป็นเหตุโดยตรงที่ทำให้รถชนกันแต่บุตรโจทก์ก็มีส่วนประมาทอยู่ด้วยคือขับรถตามหลังมาด้วยความเร็วสูง มิได้ใช้ความระมัดระวังพร้อมที่จะหยุดรถได้ทันท่วงทีหากมีสิ่งกีดขวางอยู่ข้างหน้าแต่ลูกจ้างจำเลยประมาทมากกว่าจึงให้จำเลยรับผิด 2 ใน 3 ส่วน
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าลูกจ้างจำเลยไม่ได้ทำละเมิดต่อโจทก์จำเลยไม่ต้องรับผิด พิพากษายกฟ้อง เมื่อศาลฎีกาฟังว่าจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ก็วินิจฉัยในประเด็นเรื่องค่าเสียหายได้ โดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยในประเด็นดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดชื่อเสียง: การแสดงละครบิดเบือนชีวประวัติ ทำให้เสียชื่อเสียง
จำเลยทั้งหกร่วมกันนำเรื่องราวชีวิตจริงของโจทก์ที่ 1 มาแสดงละครจีนหรืองิ้ว โดยบิดเบือนให้เห็นว่าโจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นภริยาน้อยมีนิสัยไม่ดี ชอบอิจฉาริษยาและก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นในครอบครัวจนเป็นเหตุให้สามีถูกบุตรสาวใช้ปืนยิงถึงแก่ความตาย ทำให้โจทก์ที่ 1 เสียชื่อเสียงอาจถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังได้ การกระทำของจำเลยทั้งหกจึงเป็นการร่วมกันทำละเมิดต่อโจทก์ที่ 1
เมื่อโจทก์ฟ้องและนำสืบพยานยืนยันข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งถ้าจำเลยไม่นำสืบพยานให้เห็นเป็นอย่างอื่น ศาลย่อมรับฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติตามที่โจทก์นำสืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 665/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ถูกต้องตามรูปแบบ & ปัญหาข้อเท็จจริง ศาลฎีกายก
คำฟ้องฎีกาของโจทก์ไม่มีลายมือชื่อผู้ฎีกา ผู้เรียงและผู้พิมพ์คำฟ้องฎีกา เป็นคำฟ้องฎีกาที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามฎีกา คดีไม่มีเหตุสมควรที่จะส่งสำนวนคืนศาลชั้นต้นเพื่อจัดการให้มีการลงชื่อผู้ฎีกา ผู้เรียงและผู้พิมพ์ให้ถูกต้อง ศาลฎีกาจึงพิพากษายกฎีกาโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 665/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่เป็นไปตามรูปแบบ และเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริง ศาลฎีกายก
คำฟ้องฎีกาของโจทก์ไม่มีลายมือชื่อผู้ฎีกา ผู้เรียงและผู้พิมพ์คำฟ้องฎีกา เป็นคำฟ้องฎีกาที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามฎีกา คดีไม่มีเหตุสมควรที่จะส่งสำนวนคืนศาลชั้นต้นเพื่อจัดการให้มีการลงชื่อผู้ฎีกาผู้เรียงและผู้พิมพ์ให้ถูกต้อง ศาลฎีกาจึงพิพากษายกฎีกาโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 655/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดในเช็ค: ผู้ออกเช็คต้องรับผิดใช้เงินตามเช็ค เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าไม่มีมูลหนี้
จำเลยเป็นผู้ออกเช็คในเบื้องต้นก็ต้องถือว่าจำเลยต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คนั้นตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา900 เมื่อจำเลยอ้างว่าออกเช็คโดยไม่มีมูลหนี้ก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นเช่นนั้น เมื่อพิสูจน์ไม่ได้ ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 568/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขออนาถา: ศาลอนุญาตให้แสดงพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้เสมอ ไม่จำกัดเวลาที่เกิดเหตุการณ์
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาของโจทก์ โจทก์จึงยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำร้องนั้นใหม่ เพื่ออนุญาตให้ตนนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรค 4 ดังนี้ โจทก์ไม่จำต้องระบุข้อเท็จจริงอันเป็นพยานหลักฐานใหม่นั้นไว้ในคำร้องที่ขอให้พิจารณาใหม่ เพราะเป็นเรื่องที่โจทก์จะแสดงให้ปรากฏในชั้นไต่สวนคำร้องใหม่
พยานหลักฐานที่จะนำมาแสดงเพิ่มเติมในชั้นไต่สวนพิจารณาคำร้องใหม่ดังกล่าว ไม่จำเป็นจะต้องเป็นพยานหลักฐานที่มีขึ้นหลังจากศาลสั่งยกคำร้องขออนาถาเดิมพยานหลักฐานเพิ่มเติมนั้นไม่ว่าจะมีอยู่ก่อนหรือหลังจากศาลมีคำสั่งยกคำร้องขออนาถาเดิมก็มีสิทธินำมาแสดงเพิ่มเติมได้เสมอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 568/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำร้องขออนาถาใหม่ ผู้ขอมีสิทธินำพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้เสมอ ไม่จำกัดเวลาที่เกิดเหตุ
การยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ใหม่ตามป.ว.พ. ม.156 วรรค 4 ไม่จำต้องกล่าวระบุพยานหลักฐานใหม่เพิ่มเติมไว้ในคำร้อง เพราะเป็นเรื่องที่ผู้ขอจะต้องแสดงให้ ปรากฏข้อเท็จจริงในชั้นไต่สวนคำร้องใหม่ และมีสิทธินำพยานหลักฐาน มาแสดงเพิ่มเติมได้เสมอ ไม่ว่าพยานหลักฐานเพิ่มเติมนั้นจะมีอยู่ก่อน หรือหลังจากศาลมีคำสั่งยกคำร้องขออนาถาเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 412/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ น้ำโสโครกไม่เข้าข่ายกฎหมายน้ำไหลตามธรรมชาติ เจ้าของที่ดินไม่ต้องรับน้ำ
น้ำใช้แล้วหรือน้ำโสโครกไม่อยู่ในความหมายของน้ำตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1339, 1340 ซึ่งหมายความเฉพาะน้ำตามธรรมชาติ เช่นน้ำฝนเป็นต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 412/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ น้ำโสโครกกับการระบายน้ำ: เจ้าของที่ดินไม่จำต้องรับน้ำจากที่ดินสูง เว้นแต่น้ำนั้นเป็นน้ำตามธรรมชาติ
น้ำใช้แล้วหรือน้ำโสโครกไม่อยู่ในความหมายของน้ำตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1339,1340 ซึ่งหมายความเฉพาะน้ำตามธรรมชาติ เช่นน้ำฝนเป็นต้น
of 40