คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อัมพล สุวรรณภักดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 395 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1481/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุพยานเพิ่มเติมหลังวันกำหนด การพิจารณาเหตุผลความจำเป็น และสิทธิในการอุทธรณ์คำสั่งศาล
โจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อน ยื่นคำร้องขอระบุพยานในวันนัดสืบพยานโจทก์อ้างว่าตัวโจทก์ขอสำนวนไปดูแล้วเพิ่งจะส่งคืนในวันนั้น ก่อนหน้านี้ทนายโจทก์ไม่ทราบว่ามีบุคคลใดและพยานเอกสารใดพอจะอ้างเป็นพยานได้ จำเลยคัดค้านว่าไม่สมควรอนุญาตแต่มิได้คัดค้านเหตุที่โจทก์อ้าง จึงฟังได้ตามคำร้อง เมื่อไม่ปรากฏว่าตัวโจทก์ทราบว่าทนายโจทก์ต้องใช้สำนวนในการยื่นบัญชีระบุพยานจะถือว่าโจทก์จงใจไม่ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วันมิได้ คดีนี้โจทก์เป็นฝ่ายนำสืบก่อน การรับระบุพยานของโจทก์ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ จึงมีเหตุผลสมควรรับบัญชีระบุพยานของโจทก์เพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นเป็นไปโดยเที่ยงธรรมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรค 3
ศาลชั้นต้นสั่งว่า 'ไม่อนุญาตให้โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานและถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะสืบพยาน ให้นัดสืบพยานจำเลยต่อไป' คำสั่งตอนที่ว่า 'ถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะสืบพยานต่อไป' เป็นผลของข้อความตอนต้นที่สั่งไม่อนุญาตให้โจทก์ระบุพยาน เป็นคำสั่งฉบับเดียวกัน เมื่อโจทก์โต้แย้งคำสั่งที่ไม่อนุญาตให้โจทก์ระบุพยาน จึงเป็นการโต้แย้งคำสั่งทั้งฉบับ โจทก์มีสิทธิอุทธรณ์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1481/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุพยานหลังวันนัดสืบพยาน: ศาลพิจารณาเหตุผลประกอบและไม่ถือว่าจงใจล่าช้า
โจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อน ยื่นคำร้องขอระบุพยานในวันนัดสืบพยานโจทก์อ้างว่า ตัวโจทก์ขอสำนวนไปดูแล้วเพิ่งจะส่งคืนในวันนั้น ก่อนหน้านี้ทนายโจทก์ไม่ทราบว่า มีบุคคลใดและพยานเอกสารใดพอจะอ้างเป็นพยานได้ จำเลยคัดค้านว่าไม่สมควรอนุญาติแต่มิได้คัดค้านเหตุที่โจทก์อ้าง จึงฟังได้ตามคำร้องเมื่อไม่ปรากฏตัวโจทก์ทราบว่าทนายโจทก์ต้องใช้สำนวนในการยื่นบัญชีระบุพยานจะถือว่าโจทก์จงใจไม่ยื่นบัญชีระบุพยาน ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วันมิได้ คดีนี้โจทก์เป็นฝ่ายนำสืบก่อน การรับระบุพยานของโจทก์ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ จึงมีเหตุผลสมควรรับบัญชีระบุพยานของโจทก์เพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นเป็นไปโดยเที่ยงธรรมตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรค 3
ศาลชั้นต้นสั่งว่า ไม่อนุญาตให้โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยาน และถือว่า โจทก์ไม่ประสงค์จะสืบพยาน ให้นัดสืบพยานจำเลยต่อไป คำสั่งตอนที่ว่า ถือว่า โจทก์ไม่ประสงค์จะสืบพยานต่อไป เป็นผลของข้อความตอนต้นที่สั่งไม่อนุญาตให้โจทก์ระบุพยาน เป็นคำสั่งฉบับเดียวกัน เมื่อโจทก์โต้แย้งคำสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์ดระบุพยาน จึงเป็นการโต้แย้งคำสั่งทั้งฉบับ โจทก์มีสิทธิ์อุทธรณ์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1403/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องขับไล่: การบรรยายตามข้อเท็จจริงที่แสดงเจตนาครอบครอง ย่อมไม่ถือเป็นคำฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องขับไล่ บรรยายฟ้องตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่ามีคนบุกเบิกป่าเสม็ดทำเป็นนา โจทก์ก็เข้าแผ้วถางทำประโยชน์มา 9 ปี เท่ากับกล่าวว่าโจทก์เป็นเจ้าของหรือมีสิทธิครอบครอง ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1343/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนแร่เกินใบอนุญาต: บริษัทต้องรับผิดชอบแม้ไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ
ลูกจ้างบริษัทจำกัดขนแร่ตามใบอนุญาตของบริษัทแต่ขนเกินใบอนุญาต จนต้องถือว่าแร่ทั้งหมดเป็นแร่ที่ขนโดยไม่ได้รับอนุญาตศาลพิพากษายกฟ้องแต่ให้ริบแร่บริษัทเป็นตัวการในการกระทำความผิดมิใช่ผู้อื่นที่ไม่รู้เห็นเป็นใจตามความหมายของ มาตรา 154 พระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 2)2516 มาตรา39 บริษัทขอคืนแร่ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความมรดกและการยกอายุความโดยผู้รับพินัยกรรม
บิดาโจทก์ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกของมารดาโจทก์ซึ่งตกได้แก่โจทก์ให้แก่จำเลยทั้งสี่อันเป็นบุตรเกิดแต่ภริยาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยทั้งสี่ในฐานะผู้รับพินัยกรรมชอบที่จะใช้สิทธิของบิดาโจทก์ยกอายุความมรดกขึ้นต่อสู้โจทก์ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1755

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความมรดกและการยกอายุความโดยผู้รับพินัยกรรม
บิดาโจทก์ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกของมารดาโจทก์ซึ่งตกได้แก่โจทก์ให้แก่จำเลยทั้งสี่อัน เป็นบุตรเกิดแต่ภริยาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยทั้งสี่ในฐานะผู้รับพินัยกรรม ชอบที่จะใช้สิทธิของบิดาโจทก์ยกอายุความมรดกขึ้นต่อสู้โจทก์ได้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1755

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1201/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินเพื่อหากำไรและการเสียภาษีเงินได้ กรณีผู้ประกอบการค้า
โจทก์ซื้อที่ดินมาและในวันเดียวกันนั้นได้ยื่นคำขอแบ่งแยกที่ดินส่วนหนึ่งออกเป็นแปลงเล็ก ๆ ต่อมาในเวลาใกล้เคียงกันได้ยื่นคำขอแบ่งแยกเพิ่มเติมอีกรวมเป็นจำนวนหนึ่งร้อยแปลงเศษแล้วเริ่มขายที่ดินที่แบ่งแยกเป็นแปลง ๆ นั้นตั้งแต่ปีแรกที่ซื้อมา ส่วนที่ดินอีกส่วนหนึ่งที่มิได้แบ่งแยกโจทก์ย้ายโรงเรียนราษฎร์ของโจทก์เข้าไปอยู่หลังจากซื้อที่ดินมาราว 10 ปีดังนี้ แสดงว่าโจทก์ซื้อที่ดินส่วนที่ได้แบ่งแยกและขายไปนั้นมาโดยมุ่งในทางการค้าหรือหากำไรโจทก์จึงเป็นผู้ประกอบการค้าในประเภทการค้า 11 บัญชีอัตราภาษีการค้า ต้องเสียภาษีการค้าและเงินที่โจทก์ได้รับมาจากการขายที่ดินนั้นไม่เข้าข่ายที่จะได้รับยกเว้น ไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 42(9) โจทก์จึงต้องเสียภาษีเงินได้ด้วย
เมื่อไม่ได้ความว่าที่ดินที่โจทก์ขายไปนั้นโจทก์แบ่งแยกไว้เพื่อการสวัสดิการแก่ครูในโรงเรียนของโจทก์ และฟังไม่ได้ว่าโจทก์จำต้องขายที่ดินนั้นไปเพื่อปลดเปลื้องหนี้สินเกี่ยวกับกิจการโรงเรียนราษฎร์แต่โจทก์ซื้อที่ดินส่วนนั้นมาเพื่อขายตั้งแต่แรก การขายที่ดินของโจทก์จึงไม่เกี่ยวกับโรงเรียนราษฎร์ ไม่เป็นกิจการของโรงเรียนราษฎร์ อันจะไม่อยู่ในบังคับบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร หมวด 4 ว่าด้วยภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากร มาตรา 78ทวิ(3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิการเช่าทำให้โจทก์หมดอำนาจฟ้องคดีเกี่ยวกับสัญญาเช่าเดิม
โจทก์ทำสัญญาเช่าที่ดินของจำเลยที่ 1 แล้วโอนสิทธิการเช่าให้ ลช. โดยจำเลยที่ 1 เห็นชอบและอนุมัติแล้ว ต่อมาจำเลยที่ 1 เอาที่ดินรายเดียวกันให้จำเลยที่ 3 เช่า ดังนี้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาเช่าระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 3 เพราะขณะที่ฟ้องโจทก์ได้โอนสิทธิการเช่าให้ผู้อื่นไปแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิการเช่าทำให้โจทก์ขาดอำนาจฟ้องคดีเกี่ยวกับสัญญาเช่าเดิม แม้จะมีการทำสัญญาเช่าช่วง
โจทก์ทำสัญญาเช่าที่ดินของจำเลยที่ 1 แล้วโอนสิทธิการเช่าให้ ข. โดยจำเลยที่ 1 เห็นชอบและอนุมัติแล้ว ต่อมาจำเลยที่ 1 เอาที่ดินรายเดียวกันให้จำเลยที่ 3 เช่า ดังนี้ โจทก์ไม่มีอำนาจขอให้เพิกถอนสัญญาเช่าระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ เพราะขณะที่ฟ้องโจทก์ได้โอนสิทธิการเช่าให้ผู้อื่นไปแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1128/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพรางและการเปลี่ยนเจตนา ยินยอมผูกพันตามสัญญา
โจทก์ไปติดต่อกู้เงินจากจำเลยที่ 3 ที่ 4 โดยนำรถยนต์พิพาทไปเป็นหลักประกัน จำเลยที่ 3 ที่ 4 ตกลงโดยทำเป็นวิธีการให้โจทก์โอนขายรถยนต์พิพาทแก่จำเลยที่ 3 ให้จำเลยที่ 3 ขายต่อไปยังจำเลยที่ 1 แล้วโจทก์จึงทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์พิพาทนั้นจากจำเลยที่ 1ซึ่งเป็นวิธีการทางการค้าของจำเลยที่ 1 ที่ 3 ถึงแม้ว่าขณะโจทก์ลงชื่อในสัญญาเช่าซื้อนั้นยังไม่ได้มีการกรอกข้อความก็ตามแต่ก็เป็นเรื่องที่โจทก์ทราบถึงวิธีการทางการค้าของจำเลยที่ 1 ที่ 3 ดีอยู่แล้วจึงมอบหมายให้จำเลยที่ 1 กรอกข้อความในแบบพิมพ์สัญญาเช่าซื้อได้หาใช่การไม่มีข้อความกรอกไว้ขณะโจทก์ลงชื่อเป็นหลักฐานว่าสัญญาเช่าซื้อนั้นเป็นนิติกรรมอำพรางไม่แม้ความประสงค์เดิมของโจทก์เป็นเรื่องต้องการกู้เงิน ไม่ใช่ต้องการได้รถยนต์พิพาทแต่เมื่อโจทก์ยอมทำนิติกรรมตามความประสงค์ของจำเลยที่ 1 ที่ 3 เพื่อในที่สุดจะได้เงินตามที่ต้องการ ก็แสดงว่าโจทก์เปลี่ยนมายินยอมผูกพันตามนิติกรรมที่ทำขึ้น
of 40