พบผลลัพธ์ทั้งหมด 669 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 684/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์และฎีกาในคดีทายาท – ประเด็นสิทธิในครอบครัวและการพิพากษาข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดโดยอ้างว่าจำเลยเป็นทายาทของผู้ตายจำเลยให้การปฏิเสธว่าตนมิได้เป็นทายาทของผู้ตายศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยเป็นทายาทของผู้ตายหรือไม่ และพิพากษาให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์เพราะจำเลยเป็นทายาทของผู้ตาย ดังนี้ ประเด็นโดยตรงแห่งคดีจึงเกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัว จำเลยจึงมีสิทธิอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 572/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกสัญญาซื้อขาย และการคืนเงินค่ามัดจำ/ค่าก่อสร้าง เมื่อมีฝ่ายผิดสัญญา จำเลยต้องคืนเงินให้โจทก์
โจทก์ทำสัญญาจองห้องแถวกับจำเลย 6 ห้อง ชำระค่าก่อสร้างเป็นเงินสดและเช็ค เช็คบางฉบับขึ้นเงินไม่ได้ แม้โจทก์จะเป็นฝ่ายผิดสัญญาเมื่อจำเลยใช้สิทธิเลิกสัญญาโดยมีหนังสือบอกเลิกสัญญาไปยังโจทก์ จำเลยต้องคืนเงินค่าก่อสร้างที่ได้ชำระไว้แล้วให้โจทก์ เพื่อให้โจทก์ได้กลับคืนสู่ ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม หากจำเลยได้รับความเสียหายก็มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้ แต่จำเลยก็มิได้ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหาย จึงไม่มีสิทธิริบเงินที่โจทก์ได้ชำระไว้แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 526/2525 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หมิ่นประมาททางหนังสือพิมพ์: ความรับผิดของบรรณาธิการและผู้พิมพ์
ข้อความที่ลงหนังสือพิมพ์ในคอลัมน์ "มองมุมนอก" ของหนังสือพิมพ์รายวัน "มติชน" นอกจากระบุถึงชื่อและนามสกุลของโจทก์แล้ว ยังลงรูปโจทก์ด้วย ทั้งข้อความก็หมายถึงโจทก์เป็นส่วนใหญ่ และข้อความดังกล่าวมีความหมายว่าโจทก์ประพฤติปฏิบัติตนอย่างคนไร้ศีลธรรม การที่โจทก์ผ่านการสัมมนาหลักสูตรพัฒนานักบริหารไม่ได้ช่วยดัดสันดานและนิสัยของโจทก์ให้กลับตัวกลับใจมีคุณธรรม โจทก์มีส่วนพัวพันเป็นผู้จ้างวานฆ่านายพิชิตผู้สื่อข่าวไทยรัฐ เพราะโจทก์มีนิสัยขอบวางอำนาจมาตรใหญ่ มีอารมณ์อ่อนไหวง่าย และใช้อำนาจในทางที่ผิด อำนาจฝ่ายต่ำจึงเข้าครอบงำ ถ้าประเทศมีข้าราชการระดับนักบริหารอย่างโจทก์ บ้านเมืองจะไปไม่รอด ข้อความดังกล่าวเป็นการใส่ความโจทก์ต่อผู้อ่านหนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง และถือไม่ได้ว่าเป็นการเสนอข้อความโดยสุจริตติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของหนังสือพิมพ์ที่พึงกระทำ หรือเป็นการลงข่าวตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จึงเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์
บรรณาธิการ หมายความว่า บุคคลซึ่งรับผิดชอบในการจัดทำ ตรวจแก้ คัดลอก หรือควบคุมบทประพันธ์หรือสิ่งอื่นในหนังสือพิมพ์ ดังนั้น ในกรณีแห่งนังสือพิมพ์ บรรณาธิการที่จะต้องรับผิดเป็นตัวการ ต้องเป็นบรรณาธิการซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับบทประพันธ์หรือสิ่งอื่นในหนังสือพิมพ์เท่านั้น เมื่อโจทก์ไม่ได้นำสืบว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบรรณาธิการอำนวยการมีส่วนรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอย่างไร ประกอบกับจำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ และจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบรรณาธิการ เจ้าของผู้พิมพ์ผู้โฆษณาของหนังสือพิมพ์รายวัน "มติชน" รับว่าเป็นผู้รับผิดชอบในข้อความที่ลงโฆษณาทั้งหมดแต่ผู้เดียว จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดด้วย
บรรณาธิการ หมายความว่า บุคคลซึ่งรับผิดชอบในการจัดทำ ตรวจแก้ คัดลอก หรือควบคุมบทประพันธ์หรือสิ่งอื่นในหนังสือพิมพ์ ดังนั้น ในกรณีแห่งนังสือพิมพ์ บรรณาธิการที่จะต้องรับผิดเป็นตัวการ ต้องเป็นบรรณาธิการซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับบทประพันธ์หรือสิ่งอื่นในหนังสือพิมพ์เท่านั้น เมื่อโจทก์ไม่ได้นำสืบว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบรรณาธิการอำนวยการมีส่วนรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอย่างไร ประกอบกับจำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ และจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบรรณาธิการ เจ้าของผู้พิมพ์ผู้โฆษณาของหนังสือพิมพ์รายวัน "มติชน" รับว่าเป็นผู้รับผิดชอบในข้อความที่ลงโฆษณาทั้งหมดแต่ผู้เดียว จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 526/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หมิ่นประมาททางหนังสือพิมพ์: การใส่ความทำให้เสียชื่อเสียง และขอบเขตความรับผิดของบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ระบุชื่อและนามสกุล ทั้งลงรูปโจทก์ในคอลัมน์ซึ่งมีความหมายว่า โจทก์ประพฤติตนอย่างคนไร้ศีลธรรม การที่โจทก์ผ่านการสัมมนาหลักสูตรพัฒนานักบริหารไม่ได้ช่วยดัดสันดานและนิสัยให้กลับตัวกลับใจมีคุณธรรม โจทก์มีส่วนพัวพันเป็นผู้จ้างวานฆ่าผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เพราะโจทก์มีนิสัยชอบวางอำนาจบาตรใหญ่ มีอารมณ์อ่อนไหวง่าย และใช้อำนาจในทางที่ผิด อำนาจฝ่ายต่ำจึงเข้าครอบงำ ถ้าประเทศมีข้าราชการระดับนักบริหารอย่างโจทก์ บ้านเมืองจะไปไม่รอด ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าเป็นการเสนอข้อความโดยสุจริตติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของหนังสือพิมพ์จะพึงกระทำหรือเป็นการลงข่าวตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจึงเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์
ในกรณีแห่งหนังสือพิมพ์ บรรณาธิการที่ต้องรับผิดเป็นตัวการต้องเป็นบรรณาธิการซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับบทประพันธ์หรือสิ่งอื่นในหนังสือพิมพ์เท่านั้น จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบรรณาธิการอำนวยการมีหน้าที่ทางด้านการจัดการและธุรการทั่วไป ไม่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบรรณาธิการผู้รับผิดชอบในข้อความที่ลงโฆษณา
ในกรณีแห่งหนังสือพิมพ์ บรรณาธิการที่ต้องรับผิดเป็นตัวการต้องเป็นบรรณาธิการซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับบทประพันธ์หรือสิ่งอื่นในหนังสือพิมพ์เท่านั้น จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบรรณาธิการอำนวยการมีหน้าที่ทางด้านการจัดการและธุรการทั่วไป ไม่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบรรณาธิการผู้รับผิดชอบในข้อความที่ลงโฆษณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 526/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หมิ่นประมาททางหนังสือพิมพ์: ความรับผิดของบรรณาธิการและผู้พิมพ์
ข้อความที่ลงพิมพ์ในคอลัมน์ "มองมุมนอก" ของหนังสือพิมพ์รายวัน"มติชน" นอกจากจะระบุถึงชื่อและนามสกุลของโจทก์แล้ว ยังลงรูปโจทก์ด้วยทั้งข้อความก็หมายถึงโจทก์เป็นส่วนใหญ่ และข้อความดังกล่าวมีความหมายว่าโจทก์ประพฤติปฏิบัติอย่างคนไร้ศีลธรรมการที่โจทก์ผ่านการสัมมนาหลักสูตรพัฒนานักบริหารไม่ได้ช่วยดัดสันดานและนิสัยของโจทก์ให้กลับตัวกลับใจมีคุณธรรม โจทก์มีส่วนพัวพันเป็นผู้จ้างวานฆ่านายพิชิตผู้สื่อข่าวไทยรัฐเพราะโจทก์มีนิสัยชอบวางอำนาจบาตรใหญ่ มีอารมณ์อ่อนไหวง่าย และใช้อำนาจในทางที่ผิด อำนาจฝ่ายต่ำจึงเข้าครอบงำ ถ้าประเทศมีข้าราชการระดับนักบริหารอย่างโจทก์ บ้านเมืองจะไปไม่รอด ข้อความดังกล่าวเป็นการใส่ความโจทก์ต่อผู้อ่านหนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง และถือไม่ได้ว่าเป็นการเสนอข้อความโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นนิสัยของหนังสือพิมพ์ที่พึงกระทำ หรือเป็นการลงข่าวตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จึงเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์
บรรณาธิการ หมายความว่า บุคคลซึ่งรับผิดชอบในการจัดทำ ตรวจแก้ คัดเลือก หรือควบคุมบทประพันธ์หรือสิ่งอื่นในหนังสือพิมพ์ดังนั้น ในกรณีแห่งหนังสือพิมพ์ บรรณาธิการที่จะต้องรับผิดเป็นตัวการต้องเป็นบรรณาธิการซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับบทประพันธ์หรือสิ่งอื่นในหนังสือพิมพ์เท่านั้น เมื่อโจทก์ไม่ได้นำสืบว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบรรณาธิการอำนวยการมีส่วนรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอย่างไร ประกอบกับจำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ และจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบรรณาธิการ เจ้าของผู้พิมพ์ผู้โฆษณาของหนังสือพิมพ์รายวัน "มติชน" รับว่าเป็นผู้รับผิดชอบในข้อความที่ลงโฆษณาทั้งหมดแต่ผู้เดียว จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดด้วย
บรรณาธิการ หมายความว่า บุคคลซึ่งรับผิดชอบในการจัดทำ ตรวจแก้ คัดเลือก หรือควบคุมบทประพันธ์หรือสิ่งอื่นในหนังสือพิมพ์ดังนั้น ในกรณีแห่งหนังสือพิมพ์ บรรณาธิการที่จะต้องรับผิดเป็นตัวการต้องเป็นบรรณาธิการซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับบทประพันธ์หรือสิ่งอื่นในหนังสือพิมพ์เท่านั้น เมื่อโจทก์ไม่ได้นำสืบว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบรรณาธิการอำนวยการมีส่วนรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอย่างไร ประกอบกับจำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ และจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบรรณาธิการ เจ้าของผู้พิมพ์ผู้โฆษณาของหนังสือพิมพ์รายวัน "มติชน" รับว่าเป็นผู้รับผิดชอบในข้อความที่ลงโฆษณาทั้งหมดแต่ผู้เดียว จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 510/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินชำระหนี้ การแย่งการครอบครอง และผลของการไม่ฟ้องภายใน 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
จำเลยยกที่ดินมือเปล่าให้โจทก์เป็นการชำระหนี้แต่ยังคงปลูกบ้านอยู่อาศัยในที่ดินเป็นส่วนสัด ต่อมามีกรณีพิพาทระหว่างโจทก์จำเลย จำเลยอ้างว่าที่ดินเป็นของตนดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้แย่งการครอบครองที่ดินส่วนนั้นแล้ว เมื่อโจทก์ไม่ฟ้องคดีภายใน1 ปี จึงหมดสิทธิฟ้องเรียกเอาคืนซึ่งการครอบครองตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1375 วรรคสอง
กำหนดเวลาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1375 วรรคสอง ไม่ใช่อายุความแม้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
กำหนดเวลาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1375 วรรคสอง ไม่ใช่อายุความแม้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 465/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องสัญญาประกันภัย: ตัวแทน, ตัวการ, และการโอนสิทธิ
เดิมรถยนต์คันเกิดเหตุเป็นของโจทก์ที่ 2 ต่อมาได้ขายให้โจทก์ที่ 1 แต่มิได้แจ้งการโอนให้เป็นหลักฐานทางทะเบียน หลังจากนั้นโจทก์ที่ 2 ได้ทำสัญญาประกันภัยรถยนต์คันนี้กับจำเลยแทนโจทก์ที่ 1 โดยโจทก์ที่ 1 เป็นผู้ออกเบี้ยประกันภัย และจำเลยทราบว่าโจทก์ที่ 2 ได้โอนรถยนต์ให้แก่โจทก์ที่ 1 แล้ว ดังนี้ถือได้ว่าโจทก์ที่ 1 เป็นคู่สัญญากับจำเลยตามสัญญาประกันภัยโดยโจทก์ที่ 2 เป็นเพียงตัวแทนของโจทก์ที่ 1 เท่านั้น โจทก์ที่ 1 จึงมีอำนาจฟ้องให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์ที่ 1 ตามสัญญาประกันภัย
เมื่อโจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นตัวการแสดงตนให้ปรากฏและเข้ารับเอาสัญญาประกันภัยที่โจทก์ที่ 2 ได้ทำแทนแล้ว โจทก์ที่ 2 ก็สิ้นความผูกพันกับจำเลย โจทก์ที่ 2 จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
เมื่อโจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นตัวการแสดงตนให้ปรากฏและเข้ารับเอาสัญญาประกันภัยที่โจทก์ที่ 2 ได้ทำแทนแล้ว โจทก์ที่ 2 ก็สิ้นความผูกพันกับจำเลย โจทก์ที่ 2 จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 465/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องสัญญาประกันภัย: ตัวแทน vs. ตัวการ เมื่อตัวการรับสัญญาเอง
โจทก์ที่ 2 ทำสัญญาประกันภัยรถยนต์คันเกิดเหตุกับจำเลยภายหลังจากโจทก์ที่ 2 ขายรถยนต์คันเกิดเหตุให้โจทก์ที่ 1 ไปแล้วโดยโจทก์ที่ 1 เป็นผู้ออกเบี้ยประกันภัยเพราะใบอนุญาตทะเบียนรถยังมีชื่อโจทก์ที่ 2 เป็นเจ้าของอยู่ ระหว่างสัญญาประกันภัย รถยนต์คันเกิดเหตุเกิดชนกันเสียหาย จำเลยยอมผูกพันตามสัญญาประกันภัยดังกล่าวกับโจทก์ที่ 1โดยยอมชดใช้ค่าเสียหายแทนโจทก์ที่ 1 แสดงว่าจำเลยทราบแล้วว่าโจทก์ที่ 2 ขายรถยนต์คันพิพาทให้โจทก์ที่ 1 และจำเลยยอมผูกพันรับโจทก์ที่ 2 ทำสัญญาประกันภัยแทนโจทก์ที่ 1 ถือว่าโจทก์ที่ 1 เป็นคู่สัญญากับจำเลยโดยโจทก์ที่ 2 เป็นตัวแทน โจทก์ที่ 1ซึ่งเป็นตัวการแสดงตนให้ปรากฏและเข้ารับเอาสัญญาประกันภัยแล้ว ดังนี้ โจทก์ที่ 1 เท่านั้นมีอำนาจฟ้องโจทก์ที่ 2 ไม่มีอำนาจ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 399/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกและการฟ้องความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ที่ขาดอายุความ การครอบครองที่ดินเช่าและการรบกวนการครอบครอง
โจทก์มีสิทธิครอบครองที่พิพาทโดยเช่าจากจำเลย แม้จะผิดนัดไม่ชำระค่าเช่า จำเลยก็ชอบที่จะเสนอคดีต่อศาลขอให้ชำระค่าเช่าและขับไล่ การที่จำเลยนำรถไถเข้าไปไถในที่พิพาทโดยพลการ เป็นการรบกวนการครอบครองที่พิพาทของโจทก์โดยปกติสุข จำเลยจึงมีความผิดฐานบุกรุก
ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์มิได้รวมอยู่ในองค์ประกอบความผิดฐานบุกรุก เมื่อภรรยาโจทก์มิได้แจ้งความด้วยว่าการไถดังกล่าวเป็นเหตุให้ต้นกล้วยที่ปลูกไว้เสียหาย ถือได้ว่าโจทก์มิได้ร้องทุกข์ในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ด้วย เมื่อมาฟ้องเกิน3 เดือน นับแต่วันที่โจทก์รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด จึงขาดอายุความ
ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์มิได้รวมอยู่ในองค์ประกอบความผิดฐานบุกรุก เมื่อภรรยาโจทก์มิได้แจ้งความด้วยว่าการไถดังกล่าวเป็นเหตุให้ต้นกล้วยที่ปลูกไว้เสียหาย ถือได้ว่าโจทก์มิได้ร้องทุกข์ในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ด้วย เมื่อมาฟ้องเกิน3 เดือน นับแต่วันที่โจทก์รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด จึงขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278-279/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจับกุมและควบคุมตัวโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมายและการปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานเข้าไปค้นกุฏิของโจทก์ที่ 1 โดยไม่มีหมายค้นค้นไม่พบของผิดกฎหมาย แล้วคุมตัวโจทก์ทั้งสองไปสถานีตำรวจโดยไม่มีหมายจับไม่แจ้งข้อหา โดยโจทก์ทั้งสองไม่เต็มใจไป เมื่อไปถึงสถานีตำรวจก็กำหนดให้นั่งจนถึงเวลา 14 นาฬิกาจึงให้กลับได้ พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการจับโดยไม่มีอำนาจจะทำได้ ซึ่งอาจเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 310 ได้ แต่กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 309เพราะเป็นการที่โจทก์ทั้งสองถูกจับพาไป มิใช่ถูกจำเลยข่มขืนใจให้ไปโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง เกียรติยศ