คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อาจ ปัญญาดิลก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 669 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของผู้รับรองหลักทรัพย์ประกันตัว: รับรองความถูกต้องของทรัพย์สินและตัวผู้ประกันเท่านั้น ไม่ใช่ผู้ประกันร่วม
จำเลยบันทึกรับรองไว้ในบัญชีทรัพย์สินท้ายสัญญาประกันผู้ต้องหาต่อพนักงานสอบสวนโจทก์ ความว่า ข้าพเจ้าขอรับรองว่าหลักทรัพย์ตามรายการนี้มีจริง และสามารถติดตามตัวนายประกันได้ และนายประกันไม่ได้นำทรัพย์สินดังกล่าวนี้ไปทำนิติกรรมใด ๆ จริง หากมีการผิดพลาดเกิดขึ้น ข้าพเจ้าขอรับผิดร่วมกับนายประกันด้วย มีความหมายเพียงว่าจำเลยได้รับรองว่าผู้ประกันเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินซึ่งผู้ประกันนำมายื่นเป็นหลักประกัน ทั้งทรัพย์สินนั้นไม่อยู่ในการติดพันใด ๆ ตามที่ผู้ประกันกล่าวอ้างมาจริง และรับรองว่าผู้ประกันมีตัวและมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งสามารถติดตามตัวมาบังคับบัญชาตามสัญญาประกันได้ ถ้าหากการมิได้เป็นไปตามที่จำเลยรับรองไว้ เป็นเหตุให้โจทก์เอาค่าปรับเพราะเหตุผู้ประกันผิดสัญญาประกันไม่ได้หรือไม่ครบจำนวนหรือไม่สามารถเรียกตามตัวผู้ประกันมาบังคับบัญชาได้ จำเลยยินยอมร่วมรับผิดร่วมกับผู้ประกันเพื่อให้โจทก์ได้รับค่าปรับตามสัญญาประกันที่ผู้ประกันทำไว้เท่านั้นเอง หามีความหมายทำให้จำเลยกลายเป็นผู้ประกันร่วมกับผู้ประกันไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของผู้รับรองหลักทรัพย์ประกันตัว ผู้รับรองไม่ใช่ผู้ประกันร่วม
จำเลยบันทึกรับรองไว้ในบัญชีทรัพย์สินท้ายสัญญาประกันผู้ต้องหาต่อพนักงานสอบสวนโจทก์ ความว่า ข้าพเจ้าขอรับรองว่าหลักทรัพย์ตามรายการนี้มีจริง และสามารถติดตามตัวนายประกันได้ และนายประกันไม่ได้นำทรัพย์สินดังกล่าวนี้ไปทำนิติกรรมใด ๆ จริง หากมีการผิดพลาดเกิดขึ้น ข้าพเจ้าขอรับผิดร่วมกับนายประกันด้วย มีความหมายเพียงว่าจำเลยได้รับรองว่าผู้ประกันเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินซึ่งผู้ประกันนำมายื่นเป็นหลักประกัน ทั้งทรัพย์สินนั้นไม่อยู่ในภารติดพันใด ๆ ตามที่ผู้ประกันกล่าวอ้างมาจริง และรับรองว่าผู้ประกันมีตัวและมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งสามารถติดตามตัวมาบังคับบัญชาตามสัญญาประกันได้ ถ้าหากการมิได้เป็นไปตามที่จำเลยรับรองไว้ เป็นเหตุให้โจทก์เอาค่าปรับเพราะเหตุผู้ประกันผิดสัญญาประกันไม่ได้หรือไม่ครบจำนวนหรือไม่สามารถเรียกตามตัวผู้ประกันมาบังคับบัญชาได้ จำเลยยินยอมร่วมรับผิดร่วมกับผู้ประกันเพื่อให้โจทก์ได้รับค่าปรับตามสัญญาประกันที่ผู้ประกันทำไว้เท่านั้นเอง หามีความหมายทำให้จำเลยกลายเป็นผู้ประกันร่วมกับผู้ประกันไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 61/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำขอฝ่ายเดียวในการยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว และค่าธรรมเนียมการยึด/อายัดทรัพย์สินก่อนพิพากษา
คำร้องขอให้ศาลยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาในเหตุฉุกเฉินนั้นจำเลยอาจทำเป็นคำขอฝ่ายเดียวโดยได้รับอนุญาตจากศาล เมื่อจำเลยขอให้ศาลไต่สวนคำร้องทันทีและศาลก็ได้ทำการไต่สวนและมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวในวันนั้น จึงถือว่าศาลอนุญาตให้จำเลยทำเป็นคำขอฝ่ายเดียวได้ ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นไม่ส่งสำเนาคำร้องของจำเลยให้โจทก์ และไม่ให้โอกาสโจทก์คัดค้านคำร้องของจำเลยจึงเป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว
การยึดและอายัดทรัพย์สินชั่วคราวก่อนพิพากษาต้องเสียค่าธรรมเนียมเช่นเดียวกับการยึดและอายัดทรัพย์สินเพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง ดังนั้น เมื่อโจทก์เป็นผู้ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีไปทำการยึดและอายัดทรัพย์สินของจำเลยแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่าย โจทก์ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี แม้โจทก์จะไม่ได้รับประโยชน์จากการยึดและอายัดทรัพย์สินก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 53/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้อง: การมอบอำนาจดำเนินคดีต่อร้านค้า ย่อมรวมถึงเจ้าของร้าน
โจทก์มอบอำนาจให้ ป. ฟ้องคดีแทน ในหนังสือมอบอำนาจมีความว่า โจทก์มอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแก่ร้าน อ. เกี่ยวกับสินค้าที่ร้าน อ. สั่งซื้อไปจากโจทก์และโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยประกอบกิจการค้าโดยใช้สมญานาม ว่า อ. จึงเห็นได้ว่า การที่โจทก์มอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแก่ร้าน อ. ก็เท่ากับ โจทก์มอบอำนาจให้ป.ดำเนินคดีแก่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของร้าน อ. นั่นเอง โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 53/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้อง: การมอบอำนาจดำเนินคดีต่อร้านค้า ย่อมรวมถึงเจ้าของร้าน
โจทก์มอบอำนาจให้ ป. ฟ้องคดีแทน ในหนังสือมอบอำนาจมีความว่า โจทก์มอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแก่ร้าน อ. เกี่ยวกับสินค้าที่ร้าน อ. สั่งซื้อไปจากโจทก์และโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยประกอบกิจการค้าโดยใช้สมญานาม ว่า อ. จึงเห็นได้ว่า การที่โจทก์มอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแก่ร้าน อ. ก็เท่ากับ โจทก์มอบอำนาจให้ป.ดำเนินคดีแก่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของร้าน อ. นั่นเอง โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3921/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังเอกสารภาพถ่าย: การไม่คัดค้านก่อนสืบพยานทำให้จำเลยมิอาจโต้แย้งความถูกต้องของเอกสารได้
เมื่อจำเลยมิได้ปฏิเสธหรือคัดค้านก่อนวันสืบพยานว่าภาพถ่ายเอกสารไม่มีต้นฉบับ หรือต้นฉบับปลอมทั้งฉบับหรือบางส่วน หรือภาพถ่ายนั้นไม่ถูกต้องกับต้นฉบับ จำเลยจึงต้องห้ามมิให้คัดค้านการมีอยู่และความแท้จริงของเอกสาร หรือความถูกต้องแห่งภาพถ่ายนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3854/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องค่าเสียหายจากอุบัติเหตุ: ค่าเสื่อมราคาและค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ
เอกสารท้ายฟ้องและคำขอท้ายคำฟ้องของโจทก์บรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับค่าเสื่อมราคาของรถและค่าขาดประโยชน์ในการที่ไม่ได้ใช้รถไว้โดยแจ้งชัด รวมทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา ซึ่งจำเลยสามารถเข้าใจได้ดี ฟ้องของโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับค่าเสื่อมราคาของรถและค่าขาดประโยชน์ในการที่ไม่ได้ใช้รถจึงสมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง และปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ทั้งเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์จึงมีอำนาจวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3821/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงเบี้ยปรับในสัญญาซื้อขายสิทธิการเช่า ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม
จำเลยทำสัญญาจะขายสิทธิการเช่าตึกแถวแก่โจทก์โดยมีข้อตกลงว่าถ้าจำเลยผิดสัญญาไม่ไปทำหนังสือสัญญาและจดทะเบียนขายตามกำหนดจำเลยยอมให้โจทก์ฟ้องศาลบังคับให้เป็นไปตามสัญญาและยอมใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ 650,000 บาทอีกส่วนหนึ่งด้วยนั้น เป็นข้อตกลงที่โจทก์จำเลยสมัครใจตกลงกันไว้ แม้การผิดสัญญาของจำเลยนอกจากจำเลยจะถูกฟ้องศาลบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาแล้ว จำเลยยังจะต้องใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์อีก 650,000 บาทก็ตาม การบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาก็คือการเรียกใช้ชำระหนี้ตามสัญญา และค่าเสียหายที่กำหนดจำนวนไว้ล่วงหน้าก็คือเบี้ยปรับนั่นเอง โจทก์จำเลยจึงอาจตกลงกันได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 381 วรรคหนึ่ง ข้อตกลงดังกล่าวจึงไม่เป็นโมฆะ เพราะขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรม อันดีของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3821/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงเบี้ยปรับในสัญญาซื้อขายสิทธิการเช่า ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม
จำเลยทำสัญญาจะขายสิทธิการเช่าตึกแถวแก่โจทก์โดยมีข้อตกลงว่าถ้าจำเลยผิดสัญญาไม่ไปทำหนังสือสัญญาและจดทะเบียนขายตามกำหนดจำเลยยอมให้โจทก์ฟ้องศาลบังคับให้เป็นไปตามสัญญาและ ยอมใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ 650,000 บาท อีกส่วนหนึ่งด้วยนั้น เป็นข้อตกลงที่โจทก์จำเลยสมัครใจตกลงกันไว้ แม้การผิดสัญญาของจำเลยนอกจากจำเลยจะถูกฟ้องศาลบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาแล้ว จำเลยยังจะต้องใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์อีก 650,000 บาท ก็ตาม การบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาก็คือการเรียกใช้ชำระหนี้ตามสัญญา และค่าเสียหายที่กำหนดจำนวนไว้ล่วงหน้าก็คือเบี้ยปรับนั่นเอง โจทก์จำเลยจึงอาจตกลงกันได้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 381 วรรคหนึ่ง ข้อตกลงดังกล่าวจึงไม่เป็นโมฆะ เพราะขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรม อันดีของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3693/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพที่ไม่สมบูรณ์และการปฏิเสธความผิดในคดีบุกรุกและรบกวนการครอบครองทรัพย์สิน
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงโดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายโดยไม่มีเหตุอันสมควรและด่าผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหายโดยปกติสุข จำเลยให้การว่าได้เข้าไปในบ้านของผู้เสียหายเพื่อพูดขอยืมเงิน เป็นเรื่องที่จำเลยกล่าวอ้างว่าเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายโดยมีเหตุอันสมควรอันเป็นคำให้การปฏิเสธและเมื่อจำเลยให้การต่อไปว่า ไม่มีเงินต่อสู้คดีขอรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ จึงต้องถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลแขวงชอบที่จะสั่งให้โจทก์รับตัวจำเลยคืนเพื่อดำเนินการต่อไป
of 67