พบผลลัพธ์ทั้งหมด 669 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 618/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชี้สองสถานและทำแผนที่พิพาทเป็นดุลพินิจศาล ไม่บังคับตามกฎหมาย หากไม่ทำให้การพิจารณาคดีง่ายขึ้น ศาลไม่จำเป็นต้องทำ
การชี้สองสถานนั้นเป็นดุลพินิจของศาล ถ้าศาลชั้นต้นเห็นว่าการชี้สองสถานจะทำให้การพิจารณาคดีง่ายเข้า ก็จะกำหนดให้มีการชี้สองสถาน แต่ถึงหากจะมีการชี้สองสถานไป ก็ไม่ทำให้การพิจารณาง่ายยิ่งขึ้นไปแต่ประการใด ก็ไม่จำเป็นต้องมีการชี้สองสถานและทำแผนที่พิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 611/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์โค: การซื้อขายสัตว์พาหนะที่ยังไม่ถึงเกณฑ์จดทะเบียน ไม่ตกเป็นโมฆะ
โคของกลางผู้ร้องซื้อมาเมื่อโคยังเล็ก อายุประมาณ 2 ปี ย่อมใช้ขับขี่ลากเข็นหรือใช้งานไม่ได้ จึงยังไม่มีตั๋วรูปพรรณทั้งไม่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติ สัตว์พาหนะ พ.ศ. 2482 มาตรา 8 ที่จะต้องทำตั๋วรูปพรรณ แม้การซื้อขายจะมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 ก็ไม่เป็นโมฆะ โคของกลางตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องโดยชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 611/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในโค: การซื้อขายสัตว์พาหนะที่ยังไม่เข้าข่ายต้องทำตั๋วรูปพรรณไม่เป็นโมฆะ
โคของกลางผู้ร้องซื้อมาเมื่อโคยังเล็ก อายุประมาณ 2 ปีย่อมใช้ขับขี่ลากเข็นหรือใช้งานไม่ได้ จึงยังไม่มีตั๋วรูปพรรณทั้งไม่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติ สัตว์พาหนะ พ.ศ. 2482มาตรา 8 ที่จะต้องทำตั๋วรูปพรรณ แม้การซื้อขายจะมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 ก็ไม่เป็นโมฆะโคของกลางตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องโดยชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 606/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการอายัดเงินในคดีบังคับคดีและการขัดแย้งกับคำพิพากษาในคดีล้มละลาย
เงินที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัท ป. ในคดีล้มละลายร้องขออายัดในคดีนี้ ศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัท ป. ซึ่งเป็นจำเลยร่วมในคดีนี้ด้วยไม่มีสิทธิเรียกให้จำเลยชำระต่อ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ดังนั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของ บริษัท ป. ไม่ว่าในฐานะใดย่อมไม่มีสิทธิที่จะอายัด เงินดังกล่าวได้ และมติของที่ประชุมเจ้าหนี้ในคดีล้มละลาย ดังกล่าวก็ไม่มีผลให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจที่จะ อายัดเงินจำนวนดังกล่าวได้
กรณีที่ศาลชั้นต้นให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินให้โจทก์รับไป คือไม่อายัดให้ตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ขออายัดไว้ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี ไม่ใช่กรณีที่โจทก์จะต้องไปขอเพิกถอนคำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 146
กรณีที่ศาลชั้นต้นให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินให้โจทก์รับไป คือไม่อายัดให้ตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ขออายัดไว้ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี ไม่ใช่กรณีที่โจทก์จะต้องไปขอเพิกถอนคำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 146
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 548/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอบังคับห้ามบุกรุกที่ดิน: ศาลไม่เกินคำขอแม้เนื้อที่พิพาทเพิ่มขึ้นจากการทำแผนที่
โจทก์ฟ้องโดยประสงค์ขอให้ศาลบังคับมิให้จำเลยและบริวารเข้ามาทำนาหรือเกี่ยวข้องกับที่ดินของโจทก์ส่วนที่ดินดังกล่าวมีเท่าไรนั้น แม้ตามคำขอท้ายฟ้องจะระบุว่า 45 ไร่ ก็เพียงแต่ประมาณเอา ครั้นเมื่อ มีการทำแผนที่พิพาท จำเลยชี้เขตเข้าไปในที่ดินของโจทก์เป็นเนื้อที่ 57 ไร่เศษ ก็ต้องถือว่าโจทก์จำเลยพิพาทกันในเนื้อที่ 57 ไร่เศษ และเป็นที่ดินที่โจทก์ขอให้ศาลบังคับจำเลย ทั้งปรากฏว่าโจทก์ได้เสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ที่คำนวณภายหลังจากที่ได้มีการทำแผนที่พิพาทแล้ว ดังนั้น การที่ศาลวินิจฉัยว่าที่พิพาทมีเนื้อที่ 57 ไร่เศษ จึงไม่เป็นการเกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท: การหมิ่นประมาทต่อเนื่องในหนังสือพิมพ์
ฟ้องของโจทก์ทั้งสองข้อกล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดวันเวลาเดียวกัน ข้อความที่โฆษณาหมิ่นประมาทและดูหมิ่นผู้เสียหายนั้นต่างลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกัน เพียงแต่ ต่างคอลัมน์กันเท่านั้น และเป็นข้อความที่เกี่ยวเนื่องเป็นเรื่องเดียวกัน จึงเห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาเป็นอันเดียวกัน คือโฆษณาใส่ความเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียงของผู้เสียหายและเป็นการกระทำต่อเนื่องเป็นคราวเดียวกัน จึงถือได้ว่าเป็นการกระทำกรรมเดียวแม้ฟ้องในอีกข้อหนึ่งจะเป็นว่าโจทก์ฟ้องจำเลยเพียงฐานดูหมิ่นหรือมีข้อความพาดพิงถึงบุคคลอื่นด้วย ก็ไม่ทำให้เจตนาของจำเลยเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทผู้เสียหายเป็นเจตนาเพิ่มขึ้นใหม่เป็นอีกกรรมหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 489/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้เช่าซื้อทำสัญญาประกันภัย และการเปลี่ยนแปลงผู้รับประโยชน์จากสัญญาประกันภัย
โจทก์ในฐานะผู้เช่าซื้อรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้กับจำเลยแม้จะชำระค่าเช่าซื้อยังไม่หมด มิใช่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ แต่ก็เป็นผู้มีส่วนได้เสียในรถยนต์ที่เช่าซื้อมาจึงมีสิทธิทำสัญญาประกันภัยกับจำเลยได้
แม้โจทก์จำเลยจะได้ตกลงระบุให้บริษัทผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ที่เช่าซื้อเป็นผู้รับประโยชน์จากสัญญาประกันภัยอันเป็นสัญญาตกลงว่าจะชำระหนี้แก่บุคคลภายนอก แต่บริษัทดังกล่าวยังมิได้แสดงเจตนาที่จะถือเอาประโยชน์จากสัญญาประกันภัย สิทธิจึงยังไม่เกิด โจทก์ย่อมเปลี่ยนแปลงข้อตกลงโดยเข้าเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยเสียเองได้ เมื่อโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์แล้ว จำเลยไม่ชำระ โจทก์ก็มีอำนาจฟ้อง
แม้โจทก์จำเลยจะได้ตกลงระบุให้บริษัทผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ที่เช่าซื้อเป็นผู้รับประโยชน์จากสัญญาประกันภัยอันเป็นสัญญาตกลงว่าจะชำระหนี้แก่บุคคลภายนอก แต่บริษัทดังกล่าวยังมิได้แสดงเจตนาที่จะถือเอาประโยชน์จากสัญญาประกันภัย สิทธิจึงยังไม่เกิด โจทก์ย่อมเปลี่ยนแปลงข้อตกลงโดยเข้าเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยเสียเองได้ เมื่อโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์แล้ว จำเลยไม่ชำระ โจทก์ก็มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 489/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิทำประกันภัยของผู้เช่าซื้อ และการเปลี่ยนแปลงผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัย
โจทก์ในฐานะผู้เช่าซื้อรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้กับจำเลยแม้จะชำระค่าเช่าซื้อยังไม่หมด มิใช่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์แต่ก็เป็นผู้มีส่วนได้เสียในรถยนต์ที่เช่าซื้อมาจึงมีสิทธิทำสัญญาประกันภัยกับจำเลยได้
แม้โจทก์จำเลยจะได้ตกลงระบุให้บริษัทผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ที่เช่าซื้อเป็นผู้รับประโยชน์จากสัญญาประกันภัยอันเป็นสัญญาตกลงว่าจะชำระหนี้แก่บุคคลภายนอก แต่บริษัทดังกล่าวยังมิได้แสดงเจตนาที่จะถือเอาประโยชน์จากสัญญาประกันภัย สิทธิจึงยังไม่เกิด โจทก์ย่อมเปลี่ยนแปลงข้อตกลงโดยเข้าเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยเสียเองได้ เมื่อโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์แล้ว จำเลยไม่ชำระ โจทก์ก็มีอำนาจฟ้อง
แม้โจทก์จำเลยจะได้ตกลงระบุให้บริษัทผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ที่เช่าซื้อเป็นผู้รับประโยชน์จากสัญญาประกันภัยอันเป็นสัญญาตกลงว่าจะชำระหนี้แก่บุคคลภายนอก แต่บริษัทดังกล่าวยังมิได้แสดงเจตนาที่จะถือเอาประโยชน์จากสัญญาประกันภัย สิทธิจึงยังไม่เกิด โจทก์ย่อมเปลี่ยนแปลงข้อตกลงโดยเข้าเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยเสียเองได้ เมื่อโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์แล้ว จำเลยไม่ชำระ โจทก์ก็มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 461/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการจดทะเบียนโอนที่ดิน: สัญญาจะซื้อจะขาย vs. คำพิพากษาตามยอม และการฉ้อฉล
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ทำสัญญาจะแบ่งขายที่ดินพิพาทให้โจทก์ไว้แล้ว ได้นำที่พิพาทไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความขาย ให้แก่จำเลยที่3 ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 โอนขายที่พิพาทให้จำเลยที่ 3 โจทก์จึงฟ้องจำเลยทั้งสามเป็นคดีนี้ขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมดังกล่าวเพราะทำให้โจทก์ซึ่งอยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนโอนที่พิพาทได้อยู่ก่อนเสียเปรียบ แต่ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 3 เข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายที่พิพาทกับจำเลยที่1 ที่ 2 โดยรู้เท่าถึงความจริงอันเป็นทางให้โจทก์ เสียเปรียบ จึงไม่เป็นการฉ้อฉล จำเลยที่ 3 ซึ่งมีสิทธิ ตามคำพิพากษาย่อมอยู่ในฐานะที่จะจดทะเบียนสิทธิได้ก่อนโจทก์ ซึ่งมีเพียงสัญญาจะซื้อจะขายที่พิพาทกับจำเลยที่1 ที่ 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีเงินได้กรณีผู้มีเงินได้มิได้ยื่นรายการ หรือ ยื่นรายการต่ำกว่าที่ควร และการเรียกเงินเพิ่ม
แม้จะมีคำสั่งของนายกรัฐมนตรีให้ทรัพย์สินกองมรดกของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ตกเป็นของรัฐ ก็หาเป็นเหตุให้หนี้ค่าภาษีอากรที่ยังไม่ได้ชำระระงับลงไม่ กรมสรรพากรโจทก์มีอำนาจกำหนดเงินได้สุทธิของจอมพลสฤษดิ์แล้วทำการประเมินภาษีเงินได้ กองมรดกต้องรับผิดชำระแก่โจทก์ โจทก์มีอำนาจฟ้อง
การที่เจ้าพนักงานประเมินมีหนังสือแจ้งให้จำเลยชำระภาษีและเงินเพิ่มภาษีภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือแจ้งการประเมิน มิใช่เป็นการขยายเวลาชำระหนี้ให้แก่จำเลย แต่เป็นการทวงถาม หรือเตือนจำเลยให้ชำระหนี้ และกรณีไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 354,355 และ 203 วรรคสองโจทก์ฟ้องจำเลยได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 194 โดยไม่จำต้องรอให้ ครบกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่จำเลยได้รับ หนังสือแจ้งการประเมินก่อน
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ปัญหาว่าเงินฝากในธนาคารต่าง ๆไม่ใช่เงินฝากของจอมพลสฤษดิ์และท่านผู้หญิง วิจิตรา จำเลยที่ 2 นั้น จำเลยไม่ได้ต่อสู้ไว้ในคำให้การ จึงไม่เป็นประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในชั้นอุทธรณ์ จำเลยจะต้องฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยยกปัญหาดังกล่าวขึ้นต่อสู้ในคำให้การแล้ว ที่ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยดังกล่าวจึงไม่ชอบเสียก่อน แล้วจึงฎีกาต่อไปว่าเงินฝาก ในธนาคารดังกล่าว ไม่ใช่เงินฝากของบุคคลทั้งสอง จำเลยฎีกา เพียงว่าเงินฝากในธนาคารต่าง ๆ ไม่ใช่เงินฝากของบุคคลทั้งสอง จึงไม่ชอบ เพราะไม่ได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ศาลฎีกา ไม่วินิจฉัยให้
เงินค่าใช้จ่ายส่วนตัวและค่าใช้จ่ายในการบริจาคการกุศลเป็นส่วนหนึ่งของเงินได้ เพราะจะต้องมีเงินได้เสียก่อนแล้วจึงจะสามารถนำไปจ่ายได้ การที่เจ้าพนักงานประเมินนำยอดเงินค่าใช้จ่าย ดังกล่าวไปรวมเข้ากับยอดเงินและมูลค่าของทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น แล้วกำหนดจำนวนเงินได้สุทธิจึงเป็นการชอบ
จำเลยที่ 2 เป็นทายาทคนหนึ่งของจอมพลสฤษดิ์ มีหน้าที่แสดงรายการเงินได้ของจอมพลสฤษดิ์ โดยไม่จำต้องรอให้ศาลมีคำสั่งแต่งตั้งผู้จัดการมรดกของจอมพลสฤษดิ์เสียก่อน
การที่เจ้าพนักงานประเมินมีหนังสือแจ้งให้จำเลยชำระภาษีและเงินเพิ่มภาษีภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือแจ้งการประเมิน มิใช่เป็นการขยายเวลาชำระหนี้ให้แก่จำเลย แต่เป็นการทวงถาม หรือเตือนจำเลยให้ชำระหนี้ และกรณีไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 354,355 และ 203 วรรคสองโจทก์ฟ้องจำเลยได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 194 โดยไม่จำต้องรอให้ ครบกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่จำเลยได้รับ หนังสือแจ้งการประเมินก่อน
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ปัญหาว่าเงินฝากในธนาคารต่าง ๆไม่ใช่เงินฝากของจอมพลสฤษดิ์และท่านผู้หญิง วิจิตรา จำเลยที่ 2 นั้น จำเลยไม่ได้ต่อสู้ไว้ในคำให้การ จึงไม่เป็นประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในชั้นอุทธรณ์ จำเลยจะต้องฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยยกปัญหาดังกล่าวขึ้นต่อสู้ในคำให้การแล้ว ที่ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยดังกล่าวจึงไม่ชอบเสียก่อน แล้วจึงฎีกาต่อไปว่าเงินฝาก ในธนาคารดังกล่าว ไม่ใช่เงินฝากของบุคคลทั้งสอง จำเลยฎีกา เพียงว่าเงินฝากในธนาคารต่าง ๆ ไม่ใช่เงินฝากของบุคคลทั้งสอง จึงไม่ชอบ เพราะไม่ได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ศาลฎีกา ไม่วินิจฉัยให้
เงินค่าใช้จ่ายส่วนตัวและค่าใช้จ่ายในการบริจาคการกุศลเป็นส่วนหนึ่งของเงินได้ เพราะจะต้องมีเงินได้เสียก่อนแล้วจึงจะสามารถนำไปจ่ายได้ การที่เจ้าพนักงานประเมินนำยอดเงินค่าใช้จ่าย ดังกล่าวไปรวมเข้ากับยอดเงินและมูลค่าของทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น แล้วกำหนดจำนวนเงินได้สุทธิจึงเป็นการชอบ
จำเลยที่ 2 เป็นทายาทคนหนึ่งของจอมพลสฤษดิ์ มีหน้าที่แสดงรายการเงินได้ของจอมพลสฤษดิ์ โดยไม่จำต้องรอให้ศาลมีคำสั่งแต่งตั้งผู้จัดการมรดกของจอมพลสฤษดิ์เสียก่อน