พบผลลัพธ์ทั้งหมด 669 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 371/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขุดดูดทรายในแม่น้ำโดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นการทำลายทรัพยากรและที่ดิน
การขุดลอกหรือดูดดินและทรายในแม่น้ำลำคลองเป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดินและที่ทราย เพราะทำให้สภาพของที่ดินและที่ทรายที่เป็นอยู่ตามธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไปและการนำเอาดินและทรายที่ดูดขึ้นมาแล้วไปไว้ในที่ดินของเอกชนก็เป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน เพราะทำให้ดินและทรายที่เคยมีอยู่ลดน้อยไป เมื่อจำเลยทำการดูดทรายในแม่น้ำ ในบริเวณที่ตนมิได้มีสิทธิครอบครองและโดยมิได้รับอนุญาต จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 108 ทวิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 289/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการโอนที่ดินในภาวะล้มละลาย: อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สิ้นสุดเมื่อยกเลิกการล้มละลาย
ผู้ร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการโอนที่ดินซึ่งจำเลยโอนให้ผู้คัดค้านที่ 1 และผู้คัดค้านที่ 1 โอนให้ผู้คัดค้านที่ 2 ในระหว่างที่จำเลยยังอยู่ในภาวะล้มละลาย แม้จะได้ความว่าจำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้เพิกถอนการโอน แต่คดียังไม่ถึงที่สุดเมื่อคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้ยกเลิกการล้มละลายของจำเลยเพราะเหตุที่หนี้สินของผู้ล้มละลายได้ชำระเต็มจำนวนแล้ว จำเลยจึงพ้นภาวะการเป็นบุคคลล้มละลายแล้วเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่มีอำนาจที่จะร้องขอให้เพิกถอนการโอนที่ดินนั้นได้ ศาลฎีกาจึงยกคำร้องของผู้ร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 287/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เลิกสัญญาก่อสร้างโดยปริยาย สิทธิเรียกร้องค่าก่อสร้างขาดอายุความ 2 ปี
จำเลยจ้างเหมาช่วงให้โจทก์ทำการก่อสร้างอาคารที่จำเลยประมูลได้ ต่อมาจำเลยไม่ยอมให้โจทก์เข้าดำเนินการก่อสร้างและเข้าดำเนินการเสียเอง ถือได้ว่าโจทก์จำเลยเลิกสัญญากันโดยปริยาย คู่สัญญาจึงต่างกลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม สำหรับการงานที่โจทก์ได้กระทำไปแล้วโจทก์ย่อมมีสิทธิได้รับชดใช้เงินตามควรค่าแห่งการงานนั้นๆ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 แต่สิทธิเรียกร้องของโจทก์ดังกล่าวต้องตกอยู่ในอายุความสองปีตามมาตรา 165(7)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 248/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายในการไกล่เกลี่ยและแจ้งข้อหาความผิดทางกฎหมาย
การที่จำเลยในฐานะผู้พิพากษาผู้พิจารณาคดีได้ให้คำแนะนำแก่ทนายโจทก์ในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 156/2523 ในระหว่างไกล่เกลี่ยให้คู่ความประนีประนอมยอมความกันว่าหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีซึ่งจำเลยในคดีดังกล่าวยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ว่าปิดอากรแสตมป์ไม่ครบถ้วน จะแก้ไขโดยขอนำไปให้สรรพากรปรับก็ใช้ได้นั้น เป็นการกล่าวถึงบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากรและวิธีปฎิบัติในการเสียภาษีอากร และประสงค์ให้โจทก์เข้าใจด้วย เพื่อจะได้ลดข้อโต้เถียงในข้อนี้ การกระทำของจำเลยดังกล่าวยังถือไม่ได้ว่าเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
การที่จำเลยมีความเห็นว่า โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 156/2523 ให้ต่อสู้คดีแทน ได้ลงชื่อเป็นผู้เรียงคำให้การจำเลยโดยโจทก์มิได้จดทะเบียนทนายความ เป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติทนายความจึงให้โจทก์รออยู่ในห้องผู้พิพากษาเพื่อให้ตำรวจมาควบคุมตัวโจทก์ไปดำเนินคดี หากไม่รอจำเลยจะลงโทษโจทก์ฐานละเมิดอำนาจศาลนั้น เป็นการกล่าวอ้างตามอำนาจที่จำเลยมีอยู่ตามกฎหมาย ยังถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309,310
การที่จำเลยมีความเห็นว่า โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 156/2523 ให้ต่อสู้คดีแทน ได้ลงชื่อเป็นผู้เรียงคำให้การจำเลยโดยโจทก์มิได้จดทะเบียนทนายความ เป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติทนายความจึงให้โจทก์รออยู่ในห้องผู้พิพากษาเพื่อให้ตำรวจมาควบคุมตัวโจทก์ไปดำเนินคดี หากไม่รอจำเลยจะลงโทษโจทก์ฐานละเมิดอำนาจศาลนั้น เป็นการกล่าวอ้างตามอำนาจที่จำเลยมีอยู่ตามกฎหมาย ยังถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309,310
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาทที่ได้มาจากการยกให้ก่อนอยู่กินเป็นสามีภรรยาไม่จดทะเบียน ไม่ถือเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการทำมาหาได้ร่วมกัน
ผู้ร้องกับจำเลยอยู่กินเป็นสามีภริยาไม่จดทะเบียน จำเลยแพ้คดีเรื่องเงินกู้ซึ่งเกิดระหว่างอยู่กินด้วยกัน บ้านในที่ดินของผู้ร้องบิดามารดายกให้ผู้ร้องก่อนอยู่กินด้วยกันกับจำเลยมิใช่ทำมาหาได้ร่วมกัน โจทก์ยึดบ้านบังคับคดีไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 184/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่การนำสืบพิสูจน์ความไม่รู้เห็นเป็นใจในคดีอาญา ผู้ร้องต้องรับผิดชอบในการนำสืบเอง
ศาลพิพากษาริบเรือและของกลางอื่นแล้ว ผู้ร้องอ้างว่ามิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิด เป็นหน้าที่ผู้ร้องต้องนำสืบให้ศาลเชื่อเช่นนั้น มิใช่หน้าที่โจทก์ต้องสืบหักล้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 163/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฎีกาแทนจำเลย: ทนายความต้องเป็นผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยโดยตรง
ฎีกาของจำเลยมี พ.ลงชื่อเป็นผู้ฎีกา.แต่พ.เป็นทนายความของนายไสวไพรวงษ์ มิใช่ทนายความของจำเลยและนายไสวไพรวงษ์ก็โต้เถียงตลอดมาว่าตนมิใช่จำเลยพ.จึงไม่มีอำนาจฎีกาแทนจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 157/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงเพศสภาพทางกฎหมาย: เพศที่ถือกำเนิดยังคงเป็นเกณฑ์หลัก แม้มีการผ่าตัดแปลงเพศ
ผู้ร้องเป็นชายโดยกำเนิด แม้จะได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนแปลงอวัยวะเพศเป็นหญิงแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีกฎหมายรับรองให้สิทธิผู้ร้องที่จะขอเปลี่ยนแปลงเพศที่ถือกำเนิดมาได้ ทั้งมิใช่เป็นกรณีที่ผู้ร้องจะต้องใช้สิทธิทางศาลตามกฎหมาย ฉะนั้น ผู้ร้องจะขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ร้องเปลี่ยนเพศมาเป็นหญิงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 72/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมขัดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 193 ทวิ และข้อเท็จจริงในชั้นศาลชั้นต้นเป็นยุติ
โจทก์ฟ้องจำเลยข้อหาหมิ่นประมาท ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา326 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ววินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า ข้อความที่จำเลยกล่าวไม่เป็นหมิ่นประมาท คดีของโจทก์ไม่มีมูลพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์โดยกล่าวอ้างข้อความที่เป็นหมิ่นประมาทเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ศาลชั้นต้นฟังมา ดังนี้ เป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงเพิ่มเติม จึงเป็นอุทธรณ์คัดค้านในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 193 ทวิ ถึงแม้ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยให้โจทก์ก็จะยกข้อเท็จจริงดังกล่าวขึ้นว่ากล่าวในชั้นฎีกาไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นฟังมานั้นเป็นยุติแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 72/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการอุทธรณ์จำกัดเฉพาะประเด็นที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัย การยกข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในชั้นอุทธรณ์และฎีกาจึงเป็นอุปสรรค
โจทก์ฟ้องจำเลยข้อหาหมิ่นประมาท ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ววินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า ข้อความที่จำเลยกล่าวไม่เป็นหมิ่นประมาทคดีของโจทก์ไม่มีมูลพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์โดยกล่าวอ้างข้อความที่เป็นหมิ่นประมาทเพิ่มเติมนอกเหนือ จากที่ศาลชั้นต้นฟังมา ดังนี้ เป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงเพิ่มเติม จึงเป็นอุทธรณ์คัดค้านในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ทวิถึงแม้ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยให้ โจทก์ก็จะยกข้อเท็จจริงดังกล่าวขึ้นว่ากล่าวในชั้นฎีกาไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นฟังมานั้นเป็นยุติแล้ว