คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อาจ ปัญญาดิลก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 669 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 66/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิไล่เบี้ยจากสัญญาหย่า: ไม่เกี่ยวข้องกับโจทก์ผู้รับเช็ค
โจทก์ฟ้องให้จำเลยใช้เงินตามเช็ค จำเลยมีสัญญาหย่ากับจำเลยร่วมว่า จำเลยร่วมผู้สามียอมรับผิดในหนี้สินที่เกิดขึ้นระหว่างเป็นสามีภริยากันทั้งสิ้น สิทธิระหว่างจำเลยกับจำเลยร่วมนี้ไม่เกี่ยวกับโจทก์ เป็นสิทธิตามสัญญาหย่ามิใช่เป็นการใช้สิทธิไล่เบี้ยตามกฎหมาย ดังที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 57(3) บัญญัติไว้ จำเลยไม่มีสิทธิขอให้ศาลหมายเรียก จำเลยร่วมเข้ามาในคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดกรรมเดียวฐานผลิตและมีกัญชาเพื่อจำหน่าย การนับโทษต่อเมื่อจำเลยรับสารภาพ
กัญชาที่จำเลยมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายก็คือกัญชาทั้งหมดที่จำเลยปลูกไว้ ซึ่งถือว่าเป็นการผลิตตามกฎหมาย เป็นที่เห็นไว้ว่ากัญชาที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่ายนั้น เป็นผลที่เกิดจากการที่จำเลยปลูกหรือผลิตกัญชานั่นเอง มิได้มีการกระทำอย่างใดอันมีลักษณะเป็นการกระทำให้ได้กัญชาดังกล่าวมาไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายขึ้นอีก การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียว แต่ผิดกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานผลิตและมีกัญชาเพื่อจำหน่ายเป็นกรรมเดียว แม้มีกฎหมายหลายบท
กัญชาที่จำเลยมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ก็คือกัญชาทั้งหมดที่จำเลยปลูกไว้ ซึ่งถือว่าเป็นการผลิตตามกฎหมาย เป็นที่เห็นได้ว่ากัญชาที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่ายนั้นเป็นผลที่เกิดจากการที่จำเลยปลูกหรือผลิตกัญชานั่นเอง มิได้มีการกระทำอย่างใดอันมีลักษณะเป็นการกระทำให้ได้กัญชาดังกล่าวมาไว้ในความ ครอบครอง เพื่อจำหน่ายขึ้นอีก การกระทำของจำเลยจึงเป็น ความผิดกรรมเดียว แต่ผิดกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำเอกสารประกอบคำเบิกความในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ไม่ถือเป็นการสืบพยานขัดต่อมาตรา 165 วรรคสอง
ชั้นไต่สวนมูลฟ้องทนายจำเลยถามค้านโจทก์ซึ่งอ้างตนเองเป็นพยานถึงการที่โจทก์ซื้อรถยนต์จากจำเลยที่ 1 โจทก์ลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คเอกสารหมาย ล.1 และ ล.2 โจทก์ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์คันดังกล่าวจากบริษัท ส. จำกัด และต่อมาโจทก์นำเช็คธนาคาร ท. จำกัดไปแลกเปลี่ยนกับเช็คหมาย ล.1 และ ล.2 โดยเอาเอกสารที่เกี่ยวข้องให้โจทก์ดูและโจทก์รับรองว่าถูกต้อง ดังนี้ เอกสารดังกล่าวมิใช่เป็นพยานเอกสารที่จำเลยอ้าง หากแต่เป็นเอกสารที่โจทก์เบิกความถึงและทนายจำเลยนำส่งศาลเพื่อประกอบถ้อยคำของโจทก์ให้ปรากฏรายละเอียดชัดเจนขึ้น ถือไม่ได้ว่าจำเลยนำพยานมาสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง จึงไม่เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 165 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 48/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างลูกจ้างหลังคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตโรงงานจากความผิดของหุ้นส่วน ความรับผิดตามประกาศคณะปฏิวัติ
เหตุที่ใบอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้ด้วยเครื่องจักรของห้างจำเลยถูกสั่งพักใช้และถูกสั่งให้เพิกถอนก็เนื่องมาจากหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ มิใช่เป็นความผิดของทางราชการ ดังนั้น การที่คนงานทั้งหมดต้องออกจากงานจึงเป็นการกระทำของจำเลยและถือได้ว่าจำเลยเลิกจ้างคนงานทั้งหมดตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2885/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจตรวจสอบของ สตง. และการส่งมอบเอกสาร: ไม่จำเป็นต้องทำหนังสือหรือขออนุญาต
จำเลยเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน มีอำนาจตรวจสอบการเงินและการบัญชีหน่วยรับตรวจตามหน้าที่จำเลยจึงมีอำนาจสั่งให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยรับตรวจส่งมอบเอกสารหนังสือส่งมอบงานที่หน่วยรับตรวจจัดทำขึ้น และมีไว้ในความครอบครองให้แก่จำเลยได้ ตามพระราชบัญญัติการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2522 มาตรา 8(2) โดยจำเลยไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 10และจำเลยก็ไม่จำต้องได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาของหน่วยรับตรวจเสียก่อน การกระทำของจำเลยดังกล่าวจึงไม่เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2884/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจการตรวจสอบของ สตง. และการส่งมอบเอกสาร: ไม่จำเป็นต้องมีหนังสือหรือขออนุญาต
จำเลยเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน มีอำนาจตรวจสอบการเงินและการบัญชีหน่วยรับตรวจตามหน้าที่ จำเลยจึงมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ของหน่วนรับตรวจส่งมอบเอกสารหนังสือส่งมอบงานที่หน่วยรับตรวจจัดทำขึ้น และมีไว้ในความครอบครองให้แก่จำเลยได้ ตามพระราชบัญญัติการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2522 มาตรา 8 (2) โดยจำเลยไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 10 และจำเลยก็ไม่จำต้องได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาของหน่วยรับตรวจเสียก่อน การกระทำของจำเลยดังกล่าวจึงไม่เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2857/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเซ้งสัญญาเช่าและการมีอำนาจฟ้องขับไล่ เมื่อผู้เช่าเดิมยังไม่ยินยอมเป็นหนังสือต่อผู้ให้เช่า
ตามสัญญาเช่าระบุว่า ท. ผู้เช่ามีสิทธิโอนสิทธิการเช่าให้ผู้อื่นได้เมื่อได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่าการที่ ท. ได้โอนสิทธิการเช่าให้โจทก์จึงไม่เป็นการฝ่าฝืนสัญญา เพียงแต่ยังไม่ผูกพันผู้ให้เช่าจนกว่าจะได้รับความยินยอมเป็นหนังสือ โจทก์จึงชอบที่จะโอนสิทธิการเช่าให้จำเลยต่อไปได้โดยนัยเดียวกันสัญญาเซ้งตึกแถวพิพาทระหว่างโจทก์จำเลยไม่เป็นโมฆียะโจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2850/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาห้ามเรื่องอายุความและกรรมสิทธิ์รถที่ไม่ยกขึ้นในศาลล่าง และยืนตามศาลอุทธรณ์เรื่องความรับผิดของเจ้าของรถ
ข้อที่จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ หรือต่อสู้ไว้แต่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเป็นประเด็นและจำเลยมิได้คัดค้านนั้น เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดฐานะเจ้าของและผู้ครอบครองรถยนต์โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นคนขับรถยนต์โดยประมาททำให้โจทก์เสียหาย ถึงแม้ในทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยที่ 1 เป็นคนขับก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 1 พ้นฐานะจากการเป็นผู้ครอบครองรถเพียงแต่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับรถอีกฐานะหนึ่งด้วยเท่านั้นกรณีไม่ใช่เรื่องโจทก์นำสืบไม่สมฟ้องจำเลยที่ 1ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหาย
การกล่าวในอุทธรณ์เพียงว่า ค่าเสียหายที่โจทก์นำสืบ และ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาสูงเกินไป โดยมิได้กล่าวรายละเอียดให้ชัดแจ้งว่า ค่าเสียหายรายการใดที่สูงเกินไปเพราะเหตุใด เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2850/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการฎีกาประเด็นใหม่ & ความรับผิดเจ้าของรถกรณีผู้ขับเป็นคนเดียวกัน
ข้อที่จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ หรือต่อสู้ไว้แต่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเป็นประเด็นและจำเลยมิได้คัดค้าน นั้น เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดฐานะเจ้าของและผู้ครอบครองรถยนต์โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นคนขับรถยนต์โดยประมาททำให้โจทก์เสียหาย ถึงแม้ในทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยที่ 1 เป็นคนขับก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 1 พ้นฐานะจากการเป็นผู้ครอบครองรถ เพียงแต่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับรถอีกฐานหนึ่งด้วยเท่านั้น กรณีไม่ใช่เรื่องโจทก์นำสืบไม่สมฟ้องจำเลยที่ 1 ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหาย
การกล่าวในอุทธรณ์เพียงว่า ค่าเสียหายที่โจทก์นำสืบและศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาสูงเกินไป โดยมิได้กล่าวรายละเอียดให้ชัดแจ้งว่า ค่าเสียหายรายการใดที่สูงเกินไปเพราะเหตุใด เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
of 67