พบผลลัพธ์ทั้งหมด 265 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 180-181/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินสงเคราะห์ผู้ปฏิบัติงานรถไฟ: การอนุโลมพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพและการพิจารณาตามข้อบังคับ
การจ่ายเงินสงเคราะห์จากกองทุนสำหรับจ่ายสงเคราะห์ผู้ปฏิบัติงานในการรถไฟแห่งประเทศไทยนั้นข้อบังคับคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทยฯ ให้นำพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการและระเบียบการที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายบำนาญทั้งสิ้นมาใช้โดยอนุโลม แต่พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2523เป็นกฎหมายที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 3แห่งพระราชบัญญัติการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจ่ายเงินบางประเภทตามงบประมาณรายจ่าย พ.ศ.2518 จึงไม่อาจนำพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมาอนุโลมใช้ตามข้อบังคับคณะกรรมการรถไฟได้ และการที่เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ พ.ศ.2521 ออกใช้บังคับโจทก์ก็ได้รับเงินช่วยค่าครองชีพตามพระราชกฤษฎีกานี้นั้นก็เพราะคณะกรรมการจัดการกองทุนสงเคราะห์ผู้ปฏิบัติงานในการรถไฟแห่งประเทศไทยเห็นสมควรที่จะช่วยเหลืออดีตผู้ปฏิบัติงานในการรถไฟให้ได้รับเงินช่วยค่าครองชีพเช่นเดียวกับข้าราชการบำนาญ จึงได้ให้นำพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมาถือปฏิบัติด้วยโดยอนุโลม แต่มิได้หมายเลยไปว่า เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2523 ออกใช้ โจทก์จะได้รับเงินเพิ่มช่วยค่าครองชีพเสมอไปก็หาไม่ ทั้งนี้ย่อมขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฯ ผู้มีอำนาจตามข้อบังคับจะพิจารณาเห็นควรนำพระราชกฤษฎีกาฉบับข้างต้นมาอนุโลมใช้หรือไม่เพียงใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าพาหนะจ่ายให้ลูกจ้างออกนอกสถานที่ถือเป็นค่าจ้าง แต่ค่าเช่าบ้านไม่ถือเป็นค่าจ้างหากไม่ได้จ่ายเพื่อตอบแทนการทำงาน
ค่าพาหนะเหมาจ่ายเดือนละ 1,500 บาท โดยลูกจ้างต้องออกทำงานนอกสถานที่ ถือเป็นค่าจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงาน แต่ค่าเช่าบ้านไม่ใช่จ่ายเพื่อตอบแทนการทำงาน ตามสภาพไม่ถือเป็นค่าจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 145/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะลูกจ้าง-นายจ้าง และสิทธิค่าชดเชย กรณีผู้บริหารพ้นตำแหน่งด้วยความเห็นชอบของ ครม.
โจทก์เป็นผู้อำนวยการมีอำนาจกระทำการแทนองค์การจำเลยฐานะระหว่างโจทก์จำเลย โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงาน โจทก์พ้นตำแหน่งด้วยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ถือเป็นการเลิกจ้างมีสิทธิได้ค่าชดเชย เงินที่โจทก์ได้รับจากกองทุนสงเคราะห์พนักงานตามข้อบังคับของจำเลยที่ให้ถือเป็นเงินชดเชย ก็ไม่ใช่เงินชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจำเลยยังต้องจ่ายแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายจ้างและผู้รับประกันภัยในเหตุละเมิดจากการขนส่งสินค้า
จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2 ซึ่งนำเข้าร่วมรับขนส่งกับห้างหุ้นส่วนผู้เอาประกันภัยค้ำจุนกับจำเลยร่วม จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ฐานเป็นนายจ้าง ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425 ห้างหุ้นส่วนผู้เอาประกันภัยไม่ได้เข้ามาในคดี แต่จำเลยร่วม ผู้รับประกันภัยถูกหมายเรียกเข้าเป็นจำเลยร่วมในคดีแล้ว มีผลเสมือนจำเลยร่วมถูกฟ้อง และโจทก์ฟ้องจำเลยร่วมได้โดยตรง ตาม มาตรา 887
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 74/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างโดยมิชอบ และสิทธิลูกจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย แม้ไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า
การไม่ให้ลูกจ้างทำงานโดยลูกจ้างไม่ได้ทำผิด ถือเป็นการเลิกจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน 16 เมษายน 2515 ข้อ 45 ฉบับที่ 6 31 กรกฎาคม 2521 มีผลตั้งแต่วันเลิกจ้าง จะนำ ประมวลกฎหมาายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 582 มาใช้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 60/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รถยนต์โอนเมื่อทำสัญญาซื้อขาย ไม่ต้องโอนทะเบียน
รถยนต์ไม่ใช่ทรัพย์ที่อยู่ในบังคับตามมาตรา 456 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ย่อมโอนไปยังผู้ซื้อแต่ขณะทำสัญญาซื้อขายกันโดยมิต้องไปโอนทะเบียน ส่วนการโอนทะเบียนรถยนต์ตามกฎหมาย เกี่ยวกับทะเบียนรถยนต์นั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่จะควบคุมยานพาหนะและภาษีรถยนต์ มิใช่แบบของนิติกรรมแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 60/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รถยนต์โอนเมื่อทำสัญญาซื้อขาย ไม่ต้องโอนทะเบียน
รถยนต์ไม่ใช่ทรัพย์ที่อยู่ในบังคับตามมาตรา 456 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ยอมโอนไปยังผู้ซื้อแต่ขณะทำสัญญาซื้อขายกันโดยมิต้องไปโอนทะเบียนส่วนการโอนทะเบียนรถยนต์ตามกฎหมาย เกี่ยวกับทะเบียนรถยนต์นั้น เป็นเรื่องเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่จะควบคุมยานพาหนะและภาษีรถยนต์ มิใช่แบบของนิติกรรมแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 56/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองและการฟ้องแย่งการครอบครองที่ดิน เมื่อระยะเวลาการรบกวนยังไม่ชัดเจน
เมื่อไม่ปรากฏแน่ชัดว่า โจทก์ถูกรบกวนและแย่งการครอบครองเกิน 1 ปีหรือไม่ โจทก์ฟ้องให้ปลดเปลื้องและเอาการครอบครองคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 49/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับผิดในหนี้ที่เกิดจากการเชิดตัวแทน แม้ไม่มีหลักฐานหนังสือ
คำฟ้องของโจทก์แม้มิได้บรรยายว่าใครเป็นตัวแทนหรือเชิดบุคคลใดเป็นตัวแทนแต่โจทก์ก็ได้บรรยายว่า จำเลยกระทำการโดยตัวแทนผู้จัดการดำเนินกิจการของจำเลย เมื่ออ่านข้อความทั้งหมดแล้วเห็นได้ว่าโจทก์ฟ้องขอให้บังคับชำระหนี้ที่ตัวแทนได้ก่อขึ้นในการก่อสร้างที่จำเลยประมูลได้ย่อมเป็นฟ้องที่ชัดแจ้งซึ่งทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว
การตั้งตัวแทนที่ต้องทำหรือมีหลักฐานเป็นหลักฐาน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 นั้น มิได้หมายรวมถึงการเป็นตัวแทนโดยการเชิดตามมาตรา 821 แม้บริษัทจำเลยจะได้จ้าง ฉ. และ ก. เป็นผู้รับเหมาช่วงทำการก่อสร้างการประปาซึ่งจำเลยเป็นผู้ประมูลได้ แต่จำเลยได้แสดงออกต่อประชาชนทั่วไปว่าบริษัทจำเลยเป็นผู้ก่อสร้างเอง โดยทำป้ายปักไว้ ณ ที่ก่อสร้างว่าบริษัทจำเลยเป็นผู้ก่อสร้าง ทั้งจำเลยได้มีหนังสือถึงผู้รับเหมาว่าได้มอบให้ ส. ช่างประจำบริษัทจำเลย และ ฉ. เป็นตัวแทนของจำเลยประจำสถานที่ก่อสร้างถือได้ว่าบริษัทจำเลยได้เชิด ฉ., ส. และ ก. เป็นตัวแทนของตน จำเลยต้องรับผิดชำระเงินค่าวัสดุก่อสร้างซึ่งบุคคลทั้งสามนั้นได้ซื้อจากโจทก์ไปใช้ในการก่อสร้างแก่โจทก์ผู้ขาย ซึ่งเชื่อโดยสุจริตว่าบุคคลทั้งสามเป็นตัวแทนของจำเลย แม้ภายหลังโจทก์จะทราบว่าบุคคลทั้งสามนั้นไม่ใช่ตัวแทนของจำเลยก็หาทำให้จำเลยพ้นความรับผิดไม่
โจทก์ฟ้องบริษัทจำเลยให้รับผิดชำระหนี้ที่ผู้จัดการดำเนินการก่อสร้างกระทำแทนบริษัทจำเลย เมื่อคดีฟังได้ว่าจำเลยได้เชิดผู้ดำเนินการก่อสร้างเป็นตัวแทนของตน ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยรับผิดได้ไม่เป็นการนอกคำฟ้องคำขอ
การตั้งตัวแทนที่ต้องทำหรือมีหลักฐานเป็นหลักฐาน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 นั้น มิได้หมายรวมถึงการเป็นตัวแทนโดยการเชิดตามมาตรา 821 แม้บริษัทจำเลยจะได้จ้าง ฉ. และ ก. เป็นผู้รับเหมาช่วงทำการก่อสร้างการประปาซึ่งจำเลยเป็นผู้ประมูลได้ แต่จำเลยได้แสดงออกต่อประชาชนทั่วไปว่าบริษัทจำเลยเป็นผู้ก่อสร้างเอง โดยทำป้ายปักไว้ ณ ที่ก่อสร้างว่าบริษัทจำเลยเป็นผู้ก่อสร้าง ทั้งจำเลยได้มีหนังสือถึงผู้รับเหมาว่าได้มอบให้ ส. ช่างประจำบริษัทจำเลย และ ฉ. เป็นตัวแทนของจำเลยประจำสถานที่ก่อสร้างถือได้ว่าบริษัทจำเลยได้เชิด ฉ., ส. และ ก. เป็นตัวแทนของตน จำเลยต้องรับผิดชำระเงินค่าวัสดุก่อสร้างซึ่งบุคคลทั้งสามนั้นได้ซื้อจากโจทก์ไปใช้ในการก่อสร้างแก่โจทก์ผู้ขาย ซึ่งเชื่อโดยสุจริตว่าบุคคลทั้งสามเป็นตัวแทนของจำเลย แม้ภายหลังโจทก์จะทราบว่าบุคคลทั้งสามนั้นไม่ใช่ตัวแทนของจำเลยก็หาทำให้จำเลยพ้นความรับผิดไม่
โจทก์ฟ้องบริษัทจำเลยให้รับผิดชำระหนี้ที่ผู้จัดการดำเนินการก่อสร้างกระทำแทนบริษัทจำเลย เมื่อคดีฟังได้ว่าจำเลยได้เชิดผู้ดำเนินการก่อสร้างเป็นตัวแทนของตน ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยรับผิดได้ไม่เป็นการนอกคำฟ้องคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 49/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับผิดในหนี้ที่เกิดจากการเชิดตัวแทน แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
คำฟ้องของโจทก์แม้มิได้บรรยายว่าใครเป็นตัวแทนหรือเชิดบุคคลใดเป็นตัวแทนแต่โจทก์ก็ได้บรรยายว่า จำเลยกระทำการโดยตัวแทนผู้จัดการดำเนินกิจการของจำเลย เมื่ออ่านข้อความทั้งหมดแล้วเห็นได้ว่าโจทก์ฟ้องขอให้บังคับชำระหนี้ที่ตัวแทนได้ก่อขึ้นในการก่อสร้างที่จำเลยประมูลได้ย่อมเป็นฟ้องที่ชัดแจ้งซึ่งทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว
การตั้งตัวแทนที่ต้องทำหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 นั้น มิได้หมายรวม ถึงการเป็นตัวแทนโดยการเชิดตามมาตรา 821 แม้บริษัทจำเลยจะได้จ้าง ฉ. และ ก. เป็นผู้รับเหมาช่วงทำการก่อสร้างการประปาซึ่งจำเลยเป็นผู้ประมูลได้ แต่จำเลยได้แสดงออกต่อประชาชนทั่วไปว่าบริษัทจำเลยเป็นผู้ก่อสร้างเองโดยทำป้ายปักไว้ ณ ที่ก่อสร้างว่าบริษัทจำเลยเป็นผู้ก่อสร้าง ทั้งจำเลยได้มีหนังสือถึงผู้จ้างเหมาว่าได้มอบให้ ส.ช่างประจำบริษัทจำเลยและฉ. เป็นตัวแทนของจำเลยประจำสถานที่ก่อสร้าง ถือได้ว่าบริษัทจำเลยได้เชิด ฉ.,ส. และ ก. เป็นตัวแทนของตน จำเลยต้องรับผิดชำระเงินค่าวัสดุก่อสร้างซึ่งบุคคลทั้งสามนั้นได้ซื้อจากโจทก์ไปใช้ในการก่อสร้างแก่โจทก์ผู้ขาย. ซึ่งเชื่อโดยสุจริตว่าบุคคลทั้งสามเป็นตัวแทนของจำเลย แม้ภายหลังโจทก์จะทราบว่า บุคคลทั้งสามนั้นไม่ใช่ตัวแทนของจำเลยก็หาทำให้จำเลยพ้นความรับผิดไม่
โจทก์ฟ้องบริษัทจำเลยให้รับผิดชำระหนี้ที่ผู้จัดการดำเนินการก่อสร้างกระทำแทนบริษัทจำเลย เมื่อคดีฟังได้ว่าจำเลยได้เชิดผู้ดำเนินการก่อสร้างเป็นตัวแทนของตน ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยรับผิดได้ไม่เป็นการนอกคำฟ้องคำขอ
การตั้งตัวแทนที่ต้องทำหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 นั้น มิได้หมายรวม ถึงการเป็นตัวแทนโดยการเชิดตามมาตรา 821 แม้บริษัทจำเลยจะได้จ้าง ฉ. และ ก. เป็นผู้รับเหมาช่วงทำการก่อสร้างการประปาซึ่งจำเลยเป็นผู้ประมูลได้ แต่จำเลยได้แสดงออกต่อประชาชนทั่วไปว่าบริษัทจำเลยเป็นผู้ก่อสร้างเองโดยทำป้ายปักไว้ ณ ที่ก่อสร้างว่าบริษัทจำเลยเป็นผู้ก่อสร้าง ทั้งจำเลยได้มีหนังสือถึงผู้จ้างเหมาว่าได้มอบให้ ส.ช่างประจำบริษัทจำเลยและฉ. เป็นตัวแทนของจำเลยประจำสถานที่ก่อสร้าง ถือได้ว่าบริษัทจำเลยได้เชิด ฉ.,ส. และ ก. เป็นตัวแทนของตน จำเลยต้องรับผิดชำระเงินค่าวัสดุก่อสร้างซึ่งบุคคลทั้งสามนั้นได้ซื้อจากโจทก์ไปใช้ในการก่อสร้างแก่โจทก์ผู้ขาย. ซึ่งเชื่อโดยสุจริตว่าบุคคลทั้งสามเป็นตัวแทนของจำเลย แม้ภายหลังโจทก์จะทราบว่า บุคคลทั้งสามนั้นไม่ใช่ตัวแทนของจำเลยก็หาทำให้จำเลยพ้นความรับผิดไม่
โจทก์ฟ้องบริษัทจำเลยให้รับผิดชำระหนี้ที่ผู้จัดการดำเนินการก่อสร้างกระทำแทนบริษัทจำเลย เมื่อคดีฟังได้ว่าจำเลยได้เชิดผู้ดำเนินการก่อสร้างเป็นตัวแทนของตน ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยรับผิดได้ไม่เป็นการนอกคำฟ้องคำขอ