พบผลลัพธ์ทั้งหมด 265 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3472/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจการถอนฟ้องของโจทก์ที่อ้างว่าเป็นบุคคลวิกลจริต: การคุ้มครองสิทธิและการไต่สวนเพื่อพิสูจน์สภาพจิต
โจทก์ฟ้องคดีโดยผู้ร้องซึ่งร้องขอเป็นผู้แทนเฉพาะคดีของโจทก์โดยอ้างว่าโจทก์เป็นคนวิกลจริต ก่อนวันนัดไต่สวนคำร้องขอเป็นผู้แทนเฉพาะคดี โจทก์แต่งทนายความมายื่นคำร้องขอถอนฟ้อง ดังนี้โจทก์ซึ่งถูกอ้างว่าเป็นบุคคลวิกลจริตและกฎหมายจะต้องให้ความคุ้มครอง ไม่มีอำนาจยื่นคำร้องขอถอนฟ้องที่ผู้ร้องกำลังขอเป็นผู้แทนเฉพาะคดีดำเนินการอยู่ ชอบที่ศาลจะต้องทำการไต่สวนว่าโจทก์เป็นบุคคลวิกลจริตหรือไม่แล้วมีคำสั่งต่อไป และเมื่อศาลชั้นต้นยังไม่ได้รับคำฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา จึงยังไม่มีคำฟ้องที่จะอนุญาตให้โจทก์ถอนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3426/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจไม่สมบูรณ์เนื่องจากขาดอากรแสตมป์ ทำให้ใช้เป็นหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้
ใบมอบอำนาจของโจทก์เป็นตราสารที่มีบุคคล 31 คน รวมทั้งโจทก์ 27 คนมอบอำนาจให้ ป. กระทำการแทนหลายอย่างคือ ร้องทุกข์แจ้งความดำเนินคดีอาญา ฟ้องหรือต่อสู้คดีอาญาฟ้องหรือต่อสู้คดีแพ่ง และกิจการอื่นอีกหลายประการโดยไม่จำกัดว่าเป็นกรณีเกี่ยวกับเรื่องใดโดยเฉพาะ ปิดอากรแสตมป์ 165 บาท ตราสารดังกล่าวเป็นตราสารมอบอำนาจทั่วไป ต้องปิดอากรแสตมป์ 10 บาท และผู้มอบอำนาจทั้งหมดมิใช่ผู้มีอำนาจร่วมกันในกิจการที่มอบอำนาจ แม้มอบอำนาจในตราสารฉบับเดียวกันก็ต้องคิดตามรายบุคคลตราสารฉบับนี้จึงต้องปิดอากรแสตมป์ 310 บาท เมื่อปิดมาเพียง 165 บาท จึงไม่บริบูรณ์ ต้องห้ามมิให้ใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3426/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ใบมอบอำนาจไม่สมบูรณ์เนื่องจากปิดอากรแสตมป์ไม่เพียงพอ ทำให้ใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้
ใบมอบอำนาจของโจทก์เป็นตราสารที่มีบุคคล 31 คน รวมทั้งโจทก์ 27 คนมอบอำนาจให้ ป. กระทำการแทนหลายอย่างคือ ร้องทุกข์แจ้งความดำเนินคดีอาญา ฟ้องหรือต่อสู้คดีอาญาฟ้องหรือต่อสู้คดีแพ่ง และกิจการอื่นอีกหลายประการโดยไม่จำกัดว่าเป็นกรณีเกี่ยวกับเรื่องใดโดยเฉพาะ ปิดอากรแสตมป์ 165 บาท ตราสารดังกล่าวเป็นตราสารมอบอำนาจทั่วไปต้องปิดอากรแสตมป์ 10 บาท และผู้มอบอำนาจทั้งหมดมิใช่ผู้มีอำนาจร่วมกันในกิจการที่มอบอำนาจ แม้มอบอำนาจในตราสารฉบับเดียวกันก็ต้องคิดตามรายบุคคลตราสารฉบับนี้จึงต้องปิดอากรแสตมป์ 310 บาท เมื่อปิดมาเพียง 165 บาท จึงไม่บริบูรณ์ ต้องห้ามมิให้ใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3414/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนการสืบพยาน: ศาลฎีกาพิจารณาเหตุผลความจำเป็นของทนายจำเลยควบคู่กับการดำเนินกระบวนพิจารณาเพื่อความยุติธรรม
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างว่าต้องไปติดต่อธุระที่มีความจำเป็นและสำคัญแม้จะไม่ยิ่งไปกว่าที่ทนายจำเลยต้องมาดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลซึ่งนัดไว้ก่อนและควรมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีด้วยตนเองแต่เมื่อพิเคราะห์ถึงคำให้การและพฤติการณ์ตามฟ้องสำนวนประกอบด้วยแล้ว ควรให้เลื่อนการสืบพยานโจทก์ออกไปเพื่อให้ความยุติธรรมดำเนินไปด้วยดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3352/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งตัวนักเรียนกระทำผิดไปฝึกอบรมไม่ใช่การลงโทษ จึงห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าจำเลยมีความผิด ให้ส่งตัวจำเลยไปฝึกอบรมยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลางนั้น มิใช่เป็นการลงโทษ แต่เป็นวิธีการที่เบากว่าการลงโทษจำคุก จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3352/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งตัวผู้เยาว์เข้าสถานพินิจไม่ใช่การลงโทษ จึงไม่สามารถฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าจำเลยมีความผิด ให้ส่งตัวจำเลยไปฝึกอบรมยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลางนั้น มิใช่เป็นการลงโทษ แต่เป็นวิธีการที่เบากว่าการลงโทษจำคุก จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3324/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผูกพันตามหนังสือรับสภาพหนี้ แม้ไม่มีตราบริษัท โดยพิจารณาจากพฤติการณ์การทำสัญญาและการกระทำของกรรมการผู้จัดการ
ในการติดต่อกับบุคคลธรรมดาอื่น ๆ บริษัทจำเลยที่ 1 มักจะไม่ประทับตราของบริษัท แต่เมื่อติดต่อกับหน่วยราชการจึงจะใช้ตราประทับ และเมื่อบริษัทจำเลยที่ 1 ทำสัญญาให้โจทก์รับเหมาช่วงขุดคลองส่งน้ำของกรมชลประทานกรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 1ได้ลงลายมือชื่อ แต่ไม่ได้ประทับตราบริษัท บริษัทจำเลยที่ 1 ก็ผูกพันตามสัญญา ดังนั้นการที่กรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 1 ทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้ไว้แก่โจทก์เนื่องจากโจทก์หาเงินมาให้บริษัทจำเลยที่ 1 ใช้จ่ายในงานก่อสร้างที่รับเหมาจากกรมชลประทานแม้จะมิได้ประทับตราบริษัทจำเลยที่ 1 ก็เป็นการทำแทนบริษัทหนังสือรับสภาพหนี้ดังกล่าวจึงผูกพันบริษัทจำเลยที่ 1
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3324/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผูกพันตามสัญญาของบริษัท เมื่อกรรมการผู้จัดการลงนามโดยไม่ประทับตราบริษัท
ในการติดต่อกับบุคคลธรรมดาอื่น ๆ บริษัทจำเลยที่ 1 มักจะไม่ประทับตราของบริษัท แต่เมื่อติดต่อกับหน่วยราชการจึงจะใช้ตราประทับ และเมื่อบริษัทจำเลยที่ 1 ทำสัญญาให้โจทก์รับเหมาช่วงขุดคลองส่งน้ำของกรมชลประทานกรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 1 ได้ลงลายมือชื่อ แต่ไม่ได้ประทับตราบริษัท บริษัทจำเลยที่ 1 ก็ผูกพันตามสัญญา ดังนั้นการที่กรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 1 ทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้ไว้แก่โจทก์เนื่องจากโจทก์หาเงินมาให้บริษัทจำเลยที่ 1 ใช้จ่ายในงานก่อสร้างที่รับเหมาจากกรมชลประทานแม้จะมิได้ประทับตราบริษัทจำเลยที่ 1 ก็เป็นการทำแทนบริษัทหนังสือรับสภาพหนี้ดังกล่าวจึงผูกพันบริษัทจำเลยที่ 1
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3279/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาต่างตอบแทนที่ดิน: สิทธิและหน้าที่ของผู้รับโอนมรดก
เจ้าของเดิมตกลงให้จำเลยที่ 1 และสามีเช่าที่พิพาทปลูกตึกแถวอยู่อาศัยกำหนด 30 ปี โดยจำเลยที่ 1 กับสามีต้องเสียค่าตอบแทนให้เจ้าของเดิมเป็นจำนวนเงิน 50,000บาท เมื่อครบกำหนด 30 ปีแล้วตึกแถวที่จำเลยที่ 1 กับสามีสร้างขึ้นตกเป็นของเจ้าของเดิม ข้อตกลงระหว่างจำเลยที่ 1 และสามีกับเจ้าของเดิมจึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดาซึ่งสัญญาดังกล่าวไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และเมื่อเจ้าของเดิมถึงแก่กรรม โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกและในฐานะภริยาผู้มีส่วนได้รับมรดกต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ซึ่งเจ้าของเดิมมีต่อจำเลยที่ 1 ตามสัญญาต่างตอบแทนที่ตกลงกันไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3279/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาต่างตอบแทนเช่าที่ดิน: สิทธิและหน้าที่ของผู้รับโอนมรดก
เจ้าของเดิมตกลงให้จำเลยที่ 1 และสามีเช่าที่พิพาทปลูกตึกแถวอยู่อาศัยกำหนด 30 ปี โดยจำเลยที่ 1 กับสามีต้องเสียค่าตอบแทนให้เจ้าของเดิมเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท เมื่อครบกำหนด 30 ปี แล้วตึกแถวที่จำเลยที่ 1 กับสามีสร้างขึ้นตกเป็นของเจ้าของเดิม ข้อตกลงระหว่างจำเลยที่ 1และสามีกับเจ้าของเดิมจึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดาซึ่งสัญญาดังกล่าวไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และเมื่อเจ้าของเดิมถึงแก่กรรม โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกและในฐานะภริยาผู้มีส่วนได้รับมรดกต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ซึ่งเจ้าของเดิมมีต่อจำเลยที่ 1 ตามสัญญาต่างตอบแทนที่ตกลงกันไว้