พบผลลัพธ์ทั้งหมด 206 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดี และอำนาจฟ้องของบริษัทที่รับโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์เพื่อประกอบการขนส่ง
โจทก์ที่ 2 ได้นำรถคันเกิดเหตุเข้ามาวิ่งร่วมในสัมปทานของบริษัทโจทก์ที่ 3 โดยโจทก์ที่ 2 ได้จดทะเบียนโอนรถเป็นของบริษัทโจทก์ที่ 3 ด้วย เพื่อจะได้วิ่งในเส้นทางสัมปทานได้ โจทก์ที่ 2 ที่ 3 จึงเป็นผู้ครอบครองรถคันดังกล่าวและดำเนินการร่วมกัน โจทก์ที่ 3 จึงมีอำนาจฟ้อง
จำเลยร่วมเพียงผู้เดียวที่ยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้แต่เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 และจำเลยร่วมร่วมกันรับผิด ใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 3 แล้วจำเลยร่วมไม่อุทธรณ์ ประเด็นเรื่องอายุความสำหรับจำเลยร่วมย่อมยุติ เมื่อจำเลยที่ 3 อุทธรณ์ การที่ศาลอุทธรณ์หยิบยกขึ้นมาวินิจฉัยอีกว่า คดีสำหรับจำเลยร่วมขาดอายุความแล้ว จำเลยที่ 3 ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์นั้นเป็นการไม่ชอบ
จำเลยร่วมเพียงผู้เดียวที่ยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้แต่เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 และจำเลยร่วมร่วมกันรับผิด ใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 3 แล้วจำเลยร่วมไม่อุทธรณ์ ประเด็นเรื่องอายุความสำหรับจำเลยร่วมย่อมยุติ เมื่อจำเลยที่ 3 อุทธรณ์ การที่ศาลอุทธรณ์หยิบยกขึ้นมาวินิจฉัยอีกว่า คดีสำหรับจำเลยร่วมขาดอายุความแล้ว จำเลยที่ 3 ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์นั้นเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 443/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจตัวแทนและการรับผิดของตัวแทนและตัวการเมื่อตัวแทนกระทำนอกเหนืออำนาจ
จำเลยที่ 3 เป็นผู้จัดการคลังน้ำมันของจำเลยที่ 1 เมื่อจำเลยที่ 1 ได้รับเงินจากลูกค้าและอนุมัติให้ขายน้ำมันได้แล้ว จำเลยที่ 3 มีอำนาจออกใบเสร็จรับเงินให้ลูกค้าและควบคุมการจ่ายน้ำมันให้ลูกค้า ในชั้นสอบสวนคดีอาญาที่จำเลยที่ 3 ต้องหาว่าฉ้อโกงโจทก์ จำเลยที่ 3 รับว่ารับเงินเดือนจากจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 3 จึงเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 แต่จำเลยที่ 1 มอบอำนาจให้จำเลยที่ 3 รับคำสั่งซื้อจากผู้ซื้อได้เฉพาะแต่ผู้ที่เป็นลูกค้าที่ได้ทำสัญญาไว้กับจำเลยที่ 1 ที่สำนักงานใหญ่เท่านั้น การที่จำเลยที่ 3 เอาชื่อปั๊มซึ่งเป็นลูกค้าที่ได้ทำสัญญาไว้กับจำเลยที่ 1 ซื้อน้ำมันจากจำเลยที่ 1 มาขายให้โจทก์ จึงเป็นการกระทำโดยปราศจากอำนาจหรือทำนอกเหนืออำนาจ เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่ได้ให้สัตยาบัน จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ส่วนจำเลยที่ 3 เมื่อไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าโจทก์รู้อยู่แล้วว่าจำเลยที่ 3 ดำเนินการโดยปราศจากอำนาจ จำเลยที่3 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์โดยลำพัง
การนำสืบของโจทก์ยังไม่ได้ความชัดว่า ก่อนฟ้องโจทก์ทวงถามให้จำเลยที่ 3 ส่งมอบน้ำมันเมื่อใด หากจำเลยที่ 3 ต้องใช้ราคาน้ำมันแทนจึงให้จำเลยที่ 3 เสียดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไป
การนำสืบของโจทก์ยังไม่ได้ความชัดว่า ก่อนฟ้องโจทก์ทวงถามให้จำเลยที่ 3 ส่งมอบน้ำมันเมื่อใด หากจำเลยที่ 3 ต้องใช้ราคาน้ำมันแทนจึงให้จำเลยที่ 3 เสียดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 383/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองสาธารณสมบัติของแผ่นดิน การบุกรุกต้องกระทบสิทธิครอบครองของผู้อื่น
กรณีจะเป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา362,365 ได้ต้องเป็นเรื่องกระทำต่อสิทธิครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น
ที่พิพาทเป็นหนองน้ำสาธารณะอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1304 กรมประมงได้ประกาศให้เป็นที่จับสัตว์น้ำประเภทที่อนุญาตตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 มาตรา 7และอนุญาตให้โจทก์ทำการประมงและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้ดังนี้ โจทก์คงมีแต่เพียงสิทธิตามที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น หามีสิทธิครอบครองหนองน้ำพิพาทไม่ การที่จำเลยเข้าไปปลูกบัวในหนองดังกล่าวจึงไม่ทำให้โจทก์เป็นผู้เสียหายในความผิดฐานบุกรุกแต่อย่างใด
ที่พิพาทเป็นหนองน้ำสาธารณะอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1304 กรมประมงได้ประกาศให้เป็นที่จับสัตว์น้ำประเภทที่อนุญาตตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 มาตรา 7และอนุญาตให้โจทก์ทำการประมงและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้ดังนี้ โจทก์คงมีแต่เพียงสิทธิตามที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น หามีสิทธิครอบครองหนองน้ำพิพาทไม่ การที่จำเลยเข้าไปปลูกบัวในหนองดังกล่าวจึงไม่ทำให้โจทก์เป็นผู้เสียหายในความผิดฐานบุกรุกแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างทำของและกรรมสิทธิ์ในชิ้นส่วน: การถอดชิ้นส่วนก่อนส่งมอบไม่ถือยักยอก
โจทก์ว่าจ้างให้จำเลยที่ 1 ซ่อมเครื่องพิมพ์และเครื่องอัดเพลทจนใช้การได้ เป็นสัญญาจ้างทำของที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดหาสัมภาระ แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่า ก่อนโจทก์จะมารับเครื่องพิมพ์และเครื่องอัดเพลท จำเลยที่ 1 ได้ทดลองให้โจทก์เห็นว่า จำเลยที่ 1 ทำการซ่อมเครื่องจนเสร็จแล้ว แต่ตอนโจทก์นำรถยนต์มาขนเครื่องพิมพ์และเครื่องอัดเพลทไปจำเลยที่ 1 ได้ถอดชิ้นส่วนและอะไหล่ตามบัญชีทรัพย์ท้ายฟ้องออกไว้ โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องเสียศูนย์โดยการขนย้ายชิ้นส่วนและอะไหล่เหล่านั้นโจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าเป็นของโจทก์มีมาแต่เดิมอาจเป็นสัมภาระที่จำเลยที่ 1 จัดหามา เมื่อจำเลยที่ 1 ยังมิได้ส่งมอบให้แก่โจทก์ ชิ้นส่วนและอะไหล่จึงยังเป็นทรัพย์ของจำเลยที่ 1 อยู่ หาใช่เป็นของโจทก์ไม่ แม้จำเลยที่ 1 จะไม่นำชิ้นส่วนและอะไหล่ที่ถอดออกไปประกอบเข้ากับเครื่องในภายหลังรูปคดีก็คงฟังได้แต่เพียงจำเลยที่ 1 ผิดสัญญาในทางแพ่ง หาเป็นความผิดอาญาฐานยักยอกดังฟ้องไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าชดเชยเลิกจ้างเป็นหนี้ตามกฎหมาย แยกจากค่าเสียหายอันเกิดจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม
ค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานเป็นหนี้ตามกฎหมายที่นายจ้างจะต้องจ่ายแก่ลูกจ้างประจำเมื่อเลิกจ้าง โดยมิต้องคำนึงถึงว่าการเลิกจ้างนั้นนายจ้างได้ฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ว่าด้วยการกระทำอันไม่เป็นธรรมหรือไม่ และถ้าการเลิกจ้างนั้นคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์มีคำวินิจฉัยชี้ขาดว่าเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรม ให้นายจ้างจ่ายค่าเสียหายแก่ลูกจ้างนายจ้างก็จะต้องชำระแก่ลูกจ้างอีกส่วนหนึ่งต่างหากจากค่าชดเชย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 238/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแถลงเห็นใจจำเลยไม่ถือเป็นการยอมความ ศาลฎีกามีอำนาจลดโทษได้
โจทก์ยื่นคำแถลงต่อศาลอุทธรณ์ว่าโจทก์เห็นใจและให้อภัยจำเลยแล้ว ไม่ติดใจเอาโทษจำเลยต่อไป คำแถลงดังกล่าวเป็นการแถลงขอให้ศาลปรานีจำเลย เพื่อประกอบการใช้ดุลพินิจกำหนดโทษเท่านั้น มิใช่เป็นการยอมความ สิทธิของโจทก์ในการนำคดีอาญามาฟ้องไม่ระงับ
คดีที่จำเลยฎีกาได้เฉพาะในปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกามีอำนาจใช้ดุลพินิจลดโทษจำเลยให้เบาลงได้
คดีที่จำเลยฎีกาได้เฉพาะในปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกามีอำนาจใช้ดุลพินิจลดโทษจำเลยให้เบาลงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 234/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ที่ไม่ชัดเจนถึงเหตุผลความไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยชอบแล้ว
ศาลชั้นต้นยกคำร้องที่จำเลยขอผ่อนชำระหนี้ตามคำพิพากษาจำเลยอุทธรณ์คำสั่ง โดยบรรยายว่าเงินจำนวนมาก ขอให้ศาลเรียกโจทก์มาไกล่เกลี่ย ดังนี้ ไม่เป็นการอ้างว่าศาลชั้นต้นสั่งไม่ชอบอย่างใด ไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคแรก ศาลไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 192/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดจากเจ้าหน้าที่ศุลกากร, สิทธิของเจ้าของทรัพย์สินที่เสียภาษีถูกต้อง, และการติดตามเอาคืนจากผู้ซื้อโดยสุจริต
รถยนต์รายพิพาทผู้นำเข้าเสียอากรนำเข้าถูกต้องแล้ว โจทก์รับประกันภัยไว้ รถคันนี้ถูกคนร้ายลักไป โจทก์ใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้วรับโอนไว้จากผู้เอาประกันภัย ซึ่งชำระค่าเช่าซื้อรถครบถ้วนแล้ว เจ้าพนักงานศุลกากรของจำเลยจับรถได้ หาว่านำเข้ามาโดยไม่เสียภาษีอากรแล้วขายต่อไป จำเลยสามารถตรวจสอบได้ แต่ไม่ตรวจสอบว่าเป็นรถที่เสียอากรแล้วหรือไม่ เป็นประมาทเลินเล่อทำละเมิดต่อโจทก์พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 25 ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2497 คำว่าสิ่งใด ๆ ที่พึงต้องริบ นำมาใช้แก่รถยนต์ที่เสียอากรแล้วไม่เป็นสิ่งที่พึงริบ ไม่ได้ แม้เกิน 30 วัน โจทก์ก็เรียกคืนได้ จำเลยซื้อรถโดยสุจริต แต่มิใช่จากการขายทอดตลาด ไม่มีสิทธิดีกว่าโจทก์
เอกสารภาพถ่ายหนังสือของสำนักงานทะเบียนว่าโจทก์เป็นนิติบุคคลไม่มีเจ้าหน้าที่รับรองว่าถูกต้อง แต่มีพยานบุคคลเบิกความว่าโจทก์จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด จำเลยไม่ได้นำสืบหักล้างฟังได้ว่า โจทก์เป็นนิติบุคคล
กรมธรรม์ประกันภัยมิได้ปิดอากรแสตมป์ แต่คดีนี้มิใช่กรณีบังคับระหว่างผู้เอาประกันภัยและผู้รับประกันภัย เป็นเรื่องผู้รับประกันภัยรับช่วงสิทธิมาฟ้องคนภายนอก ไม่อยู่ในบังคับต้องมีเอกสารมาแสดงตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 867 คำพยานบุคคลของโจทก์ฟังได้โดยไม่ต้องอาศัยเอกสาร
บริษัทเป็นผู้เอาประกันภัยโดยผู้เช่าซื้อรถเป็นผู้แทน แม้ไม่มีหนังสือตั้งตัวแทนตามมาตรา 798 แต่มิใช่เป็นคดีระหว่างบริษัทกับผู้ทำการแทนว่าผู้ทำการแทนเป็นตัวแทนนำรถยนต์ มาเอาประกันภัยกับโจทก์หรือไม่โจทก์ไม่ต้องมีเอกสารตั้งตัวแทนมาแสดง
ผู้เช่าซื้อชำระราคาครบถ้วนแล้ว ได้กรรมสิทธิ์รถยนต์ที่เช่าซื้อแล้วมอบสิทธิในรถยนต์แก่โจทก์ แม้กรรมการของโจทก์คนเดียวลงลายมือชื่อรับมอบรถ กรรมการไม่ครบ 2 คนตามข้อบังคับ และไม่ปิดอากรแสตมป์ในใบรับมอบรถ คำพยานบุคคลก็ฟังได้ว่าโจทก์ได้รับรถเป็นของโจทก์แล้วและไม่ใช่คดีพิพาทกันตามสัญญาเช่าซื้อ จึงไม่ต้องนำสัญญาเช่าซื้อมาแสดง
เอกสารภาพถ่ายหนังสือของสำนักงานทะเบียนว่าโจทก์เป็นนิติบุคคลไม่มีเจ้าหน้าที่รับรองว่าถูกต้อง แต่มีพยานบุคคลเบิกความว่าโจทก์จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด จำเลยไม่ได้นำสืบหักล้างฟังได้ว่า โจทก์เป็นนิติบุคคล
กรมธรรม์ประกันภัยมิได้ปิดอากรแสตมป์ แต่คดีนี้มิใช่กรณีบังคับระหว่างผู้เอาประกันภัยและผู้รับประกันภัย เป็นเรื่องผู้รับประกันภัยรับช่วงสิทธิมาฟ้องคนภายนอก ไม่อยู่ในบังคับต้องมีเอกสารมาแสดงตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 867 คำพยานบุคคลของโจทก์ฟังได้โดยไม่ต้องอาศัยเอกสาร
บริษัทเป็นผู้เอาประกันภัยโดยผู้เช่าซื้อรถเป็นผู้แทน แม้ไม่มีหนังสือตั้งตัวแทนตามมาตรา 798 แต่มิใช่เป็นคดีระหว่างบริษัทกับผู้ทำการแทนว่าผู้ทำการแทนเป็นตัวแทนนำรถยนต์ มาเอาประกันภัยกับโจทก์หรือไม่โจทก์ไม่ต้องมีเอกสารตั้งตัวแทนมาแสดง
ผู้เช่าซื้อชำระราคาครบถ้วนแล้ว ได้กรรมสิทธิ์รถยนต์ที่เช่าซื้อแล้วมอบสิทธิในรถยนต์แก่โจทก์ แม้กรรมการของโจทก์คนเดียวลงลายมือชื่อรับมอบรถ กรรมการไม่ครบ 2 คนตามข้อบังคับ และไม่ปิดอากรแสตมป์ในใบรับมอบรถ คำพยานบุคคลก็ฟังได้ว่าโจทก์ได้รับรถเป็นของโจทก์แล้วและไม่ใช่คดีพิพาทกันตามสัญญาเช่าซื้อ จึงไม่ต้องนำสัญญาเช่าซื้อมาแสดง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 182/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดนายจ้างต่อการเสียชีวิตลูกจ้างขณะเดินทางกลับจากที่ทำงาน กรณีสวัสดิการรถรับส่ง
ลูกจ้างเลิกทำงานประจำวันตามหน้าที่แล้วและออกจากโรงงานมานั่งรถยนต์เพื่อเดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุรถยนต์แล่นตกลงข้างถนนและทับลูกจ้างถึงแก่ความตาย ดังนี้ แม้รถที่ลูกจ้างนั่งจะเป็นรถยนต์บริการที่นายจ้างจัดรับส่งพนักงาน ก็เป็นเพียงสวัสดิการที่นายจ้างจัดให้เพื่อความสะดวกแก่พนักงานในการเดินทางกลับบ้านเท่านั้น ลูกจ้างมิได้นั่งรถไปหรือกลับจากการทำงานตามคำสั่งหรือภายใต้การควบคุมบังคับบัญชาของนายจ้างจึงถือไม่ได้ว่าการตายของลูกจ้างเกี่ยวข้องกับการทำงานให้แก่นายจ้าง นายจ้างไม่มีหน้าที่ต้องจ่ายค่าทดแทนและค่าทำศพแก่ลูกจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 182/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดนายจ้างต่อค่าทดแทนกรณีลูกจ้างเสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับจากทำงาน โดยใช้รถบริการของนายจ้าง
ลูกจ้างเลิกทำงานประจำวันตามหน้าที่แล้วและออกจากโรงงานมานั่งรถยนต์เพื่อเดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุรถยนต์แล่นตกลงข้างถนนและทับลูกจ้างถึงแก่ความตาย ดังนี้ แม้รถที่ลูกจ้างนั่งจะเป็นรถยนต์บริการที่นายจ้างจัดรับส่งพนักงาน ก็เป็นเพียงสวัสดิการที่นายจ้างจัดให้เพื่อความสะดวกแก่พนักงานในการเดินทางกลับบ้านเท่านั้น ลูกจ้างมิได้นั่งรถไปหรือกลับจากการทำงานตามคำสั่งหรือภายใต้การควบคุมบังคับบัญชาของนายจ้าง จึงถือไม่ได้ว่าการตายของลูกจ้างเกี่ยวข้องกับการทำงานให้แก่นายจ้าง นายจ้างไม่มีหน้าที่ต้องจ่ายค่าทดแทนและค่าทำศพแก่ลูกจ้าง