พบผลลัพธ์ทั้งหมด 206 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 60/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รถยนต์โอนเมื่อทำสัญญาซื้อขาย ไม่ต้องโอนทะเบียน
รถยนต์ไม่ใช่ทรัพย์ที่อยู่ในบังคับตามมาตรา 456 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ย่อมโอนไปยังผู้ซื้อแต่ขณะทำสัญญาซื้อขายกันโดยมิต้องไปโอนทะเบียน ส่วนการโอนทะเบียนรถยนต์ตามกฎหมาย เกี่ยวกับทะเบียนรถยนต์นั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่จะควบคุมยานพาหนะและภาษีรถยนต์ มิใช่แบบของนิติกรรมแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 60/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รถยนต์โอนเมื่อทำสัญญาซื้อขาย ไม่ต้องโอนทะเบียน
รถยนต์ไม่ใช่ทรัพย์ที่อยู่ในบังคับตามมาตรา 456 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ยอมโอนไปยังผู้ซื้อแต่ขณะทำสัญญาซื้อขายกันโดยมิต้องไปโอนทะเบียนส่วนการโอนทะเบียนรถยนต์ตามกฎหมาย เกี่ยวกับทะเบียนรถยนต์นั้น เป็นเรื่องเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่จะควบคุมยานพาหนะและภาษีรถยนต์ มิใช่แบบของนิติกรรมแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 48/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างหลังคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตโรงงานจากความผิดของหุ้นส่วน ความรับผิดตามประกาศคณะปฏิวัติ
เหตุที่ใบอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้ด้วยเครื่องจักรของห้างจำเลยถูกสั่งพักใช้และถูกสั่งให้เพิกถอนก็เนื่องมาจากหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ มิใช่เป็นความผิดของทางราชการ ดังนั้น การที่คนงานทั้งหมดต้องออกจากงานจึงเป็นการกระทำของจำเลยและถือได้ว่าจำเลยเลิกจ้างคนงานทั้งหมดตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองไม้หวงห้ามหลังใบอนุญาตหมดอายุ ไม่ถือเป็นความผิดหากไม่มีเจตนาค้า
จำเลยมีใบอนุญาตค้าหรือมีไว้ในครอบครอง เพื่อค้าสิ่งประดิษฐ์ที่ทำด้วยไม้หวงห้าม ใบอนุญาตหมดอายุแล้วแต่จำเลยมีสิ่งเหล่านั้นไว้ต่อมาโดยไม่ได้ทำการค้าจำเลยไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3118/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดีคนเข้าเมือง: ห้ามอุทธรณ์จนกว่ามีคำพิพากษาถึงที่สุด
ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลว่า ล. ภรรยาของผู้ร้องถูกผู้คัดค้านควบคุมตัวไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้มีคำสั่งปล่อยตัวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 90ศาลสั่งรับคำร้อง นัดไต่สวนและหมายเรียก ล. และผู้คัดค้านมาศาล ผู้คัดค้านแถลงว่า ล. เป็นคนญวนอพยพต้องห้ามเข้าเมืองจึงควบคุมตัวไว้เพื่อส่งกลับประเทศเวียตนามหรือประเทศที่สามโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไปจึงให้นัดสืบพยานของคู่ความ และได้มีคำสั่งให้ปล่อยตัว ล.ชั่วคราวโดยมีประกันและหลักประกัน คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ปล่อยชั่วคราวนี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาเพราะจะต้องมีการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องอีก คำสั่งดังกล่าวจะเป็นการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ก็ตาม กรณีก็ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3118/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดีอาญา: การห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196
ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลว่า ล.ภรรยาของผู้ร้องถูกผู้คัดค้านควบคุมตัวไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้มีคำสั่งปล่อยตัวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 90 ศาลสั่งรับคำร้อง นัดไต่สวนและหมายเรียก ล. และผู้คัดค้านมาศาล ผู้คัดค้านแถลงว่า ล.เป็นคนญวนอพยพต้องห้ามเข้าเมืองจึงควบคุมตัวไว้เพื่อส่งกลับประเทศเวียดนามหรือประเทศที่สามโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไปจึงให้นัดสืบพยานของคู่ความ และได้มีคำสั่งให้ปล่อยตัว ล.ชั่วคราวโดยมีประกันและหลักประกัน คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ปล่อยชั่วคราวนี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาเพราะจะต้องมีการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องอีก คำสั่งดังกล่าวจะเป็นการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ก็ตาม กรณีก็ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3068/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ผู้ครอบครองมีสิทธิดีกว่า แม้มีโฉนด โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่
ในคดีอาญาซึ่งถึงที่สุดไปแล้ว พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาบุกรุกที่พิพาทในคดีนี้ โจทก์เป็นผู้เสียหายและพยาน ถือได้ว่าคดีนี้เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาดังกล่าว ในคดีอาญาดังกล่าวศาลฟังข้อเท็จจริงว่าที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ศาลซึ่งพิพากษาคดีนี้จึงต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคดีอาญาดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 ว่าที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
จำเลยครอบครองที่พิพาทอยู่ก่อน เมื่อที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน โจทก์จำเลยหรือผู้ใดย่อมไม่มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง แต่ผู้ใดครอบครองอยู่ผู้นั้นย่อมมีสิทธิดีกว่าผู้อื่นเมื่อจำเลยครอบครองอยู่ จำเลยย่อมมีสิทธิในที่พิพาทดีกว่าโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย
จำเลยครอบครองที่พิพาทอยู่ก่อน เมื่อที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน โจทก์จำเลยหรือผู้ใดย่อมไม่มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง แต่ผู้ใดครอบครองอยู่ผู้นั้นย่อมมีสิทธิดีกว่าผู้อื่นเมื่อจำเลยครอบครองอยู่ จำเลยย่อมมีสิทธิในที่พิพาทดีกว่าโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3064/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเหมาค่าก่อสร้าง: การผิดสัญญาจากผู้รับเหมา และสิทธิเรียกร้องค่าจ้างตามผลงาน
โจทก์ทำสัญญารับเหมาก่อสร้างอาคารของจำเลย กำหนดแล้วเสร็จใน 150 วัน แบ่งการจ่ายเงินเป็น 6 งวด ทำงวดที่ 5 ได้ประมาณครึ่งเดียวโจทก์หยุดการก่อสร้างถือว่าโจทก์ผิดสัญญา จำเลยมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลย คงมีสิทธิได้แต่ค่าจ้างในผลงานที่โจทก์ทำไปแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391ค่าจ้างสำหรับงานงวดที่ 5 จำเลยยังไม่จ่าย โจทก์จึงมีสิทธิได้ค่าจ้างงวดที่ 5 คำนวณตามผลงานที่โจทก์ทำไปแล้ว
เมื่อปรากฏว่าจำเลยได้ไปจ้างคนอื่นมาทำการก่อสร้างงานส่วนที่เหลือเสียค่าใช้จ่ายพอกับที่จะจ่ายให้โจทก์ หากโจทก์ทำงานเสร็จตามสัญญา จำเลยก็ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ คงเรียกได้เฉพาะเบี้ยปรับเพียงจากวันครบกำหนด 150 วัน ถึงวันการก่อสร้างควรจะแล้วเสร็จหากโจทก์ทำการก่อสร้างติดต่อกันเรื่อยมา
เมื่อปรากฏว่าจำเลยได้ไปจ้างคนอื่นมาทำการก่อสร้างงานส่วนที่เหลือเสียค่าใช้จ่ายพอกับที่จะจ่ายให้โจทก์ หากโจทก์ทำงานเสร็จตามสัญญา จำเลยก็ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ คงเรียกได้เฉพาะเบี้ยปรับเพียงจากวันครบกำหนด 150 วัน ถึงวันการก่อสร้างควรจะแล้วเสร็จหากโจทก์ทำการก่อสร้างติดต่อกันเรื่อยมา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3064/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเหมาค่าก่อสร้าง: การผิดสัญญาจากผู้รับเหมา, สิทธิในการรับค่าจ้างตามผลงาน, และค่าปรับ
โจทก์ทำสัญญารับเหมาก่อสร้างอาคารของจำเลย กำหนดแล้วเสร็จใน 150 วัน แบ่งการจ่ายเงินเป็น 6 งวด ทำงวดที่ 5 ได้ประมาณครึ่งเดียวโจทก์หยุดการก่อสร้างถือว่าโจทก์ผิดสัญญา จำเลยมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลยคงมีสิทธิได้แต่ค่าจ้างในผลงานที่โจทก์ทำไปแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 141 ค่าจ้างสำหรับงานงวดที่ 5 จำเลยยังไม่จ่าย โจทก์จึงมีสิทธิได้ค่าจ้างงวดที่ 5 คำนวณตามผลงานที่โจทก์ทำไปแล้ว
เมื่อปรากฏว่าจำเลยได้ไปจ้างคนอื่นมาทำการก่อสร้างงานส่วนที่เหลือ เสียค่าใช้จ่ายพอกับที่จะจ่ายให้โจทก์หากโจทก์ทำงานเสร็จตามสัญญา จำเลยก็ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ คงเรียกได้เฉพาะเบี้ยปรับ เพียงจากวันครบกำหนด 150 วัน ถึงวันการก่อสร้างควรจะแล้วเสร็จหากโจทก์ทำการก่อสร้างติดต่อกันเรื่อยมา
เมื่อปรากฏว่าจำเลยได้ไปจ้างคนอื่นมาทำการก่อสร้างงานส่วนที่เหลือ เสียค่าใช้จ่ายพอกับที่จะจ่ายให้โจทก์หากโจทก์ทำงานเสร็จตามสัญญา จำเลยก็ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ คงเรียกได้เฉพาะเบี้ยปรับ เพียงจากวันครบกำหนด 150 วัน ถึงวันการก่อสร้างควรจะแล้วเสร็จหากโจทก์ทำการก่อสร้างติดต่อกันเรื่อยมา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3039/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานการมอบอำนาจฟ้องแทนได้ แม้จำเลยมิได้ยกข้อทักท้วงในชั้นต้น
หนังสือมอบอำนาจปิดอากรแสตมป์ครบจำนวนตามบัญชีอากรแสตมป์แต่ไม่ขีดฆ่าอากรแสตมป์ ถือว่ายังไม่ปิดแสตมป์บริบูรณ์ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 118 จะใช้หนังสือมอบอำนาจนี้เป็นพยานหลักฐานฟังว่าโจทก์มอบอำนาจให้ ส. ฟ้องคดีแทนโจทก์ไม่ได้
เมื่อศาลชั้นต้นรับฟังหนังสือมอบอำนาจเป็นพยานอันเป็นการรับฟังพยานหลักฐานผิดกฎหมาย ปัญหานี้เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นว่ากันมาในศาลชั้นต้น ก็ชอบที่จะยกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์ได้
เมื่อศาลชั้นต้นรับฟังหนังสือมอบอำนาจเป็นพยานอันเป็นการรับฟังพยานหลักฐานผิดกฎหมาย ปัญหานี้เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นว่ากันมาในศาลชั้นต้น ก็ชอบที่จะยกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์ได้