คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
บรรเทอง ภู่กฤษณา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 206 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1189/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานผู้เสียหายที่ไม่มาศาล ศาลใช้คำให้การชั้นสอบสวนและคำเบิกความของพนักงานสอบสวนประกอบ
ศาลสืบผู้เสียหายได้เพียงตอบคำถามของโจทก์เสร็จเป็นเวลา16 นาฬิกา ทนายจำเลยขอเลื่อนครั้นถึงวันนัดและนัดต่อ ๆ มา ผู้เสียหายไม่มาศาล จนศาลต้องออกหมายจับ และสั่งตัดพยานปากผู้เสียหายโจทก์ส่งคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายต่อศาลและสืบพนักงานสอบสวนประกอบคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายคำเบิกความของพนักงานสอบสวนประกอบคำเบิกความของผู้เสียหายตอนตอบคำถามของโจทก์ศาลรับฟังคำเบิกความของผู้เสียหายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกทายาทหลายคน แม้มีทายาทบางส่วนไม่ร้องสอด ไม่ทำให้สิทธิส่วนแบ่งของทายาทอื่นเปลี่ยนแปลง
โจทก์มีพี่น้องร่วมบิดามารดาซึ่งเป็นทายาทลำดับผู้สืบสันดานเช่นเดียวกันรวม 7 คน แม้ ฮ. ทายาทคนหนึ่งจะถึงแก่กรรมแล้ว แต่ยังมีผู้สืบสันดานรับมรดกแทนที่ ดังนั้นต้องแบ่งมรดกเป็น 7 ส่วนการที่ทายาทอีก 5 คน มิได้ร้องสอดเข้ามาในคดีนี้ไม่เป็นเหตุให้โจทก์และจำเลยมีสิทธิได้รับมรดกทั้งหมดเพียง 2 คน คนละครึ่งโจทก์คงได้รับส่วนแบ่งเพียง 1 ใน 7 ตามสิทธิของตนและกรณีเช่นนี้มิใช่เป็นการกันส่วนแบ่งทรัพย์มรดกไว้เพื่อทายาทอื่นที่มิได้ร้องสอดเข้ามาในคดีอันจะเป็นการต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1749

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 879/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนทรัพย์ตามพินัยกรรมและการเพิกถอนข้อกำหนดพินัยกรรมเมื่อมีการโอนทรัพย์สิน
ห. ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้จำเลย และได้ทำนิติกรรมโอนทรัพย์เหล่านั้นให้จำเลยด้วย ถ้านิติกรรมการโอนสมบูรณ์ข้อกำหนดพินัยกรรมย่อมเป็นอันเพิกถอน จำเลยไม่ได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์นั้นตามพินัยกรรมแต่ย่อมได้กรรมสิทธิ์ตามนิติกรรมนั้น ถ้านิติกรรมการโอนไม่สมบูรณ์ข้อกำหนดพินัยกรรมย่อมไม่ถูกเพิกถอน จำเลยไม่ได้กรรมสิทธิ์ตามนิติกรรมนั้น แต่ก็ได้กรรมสิทธิ์ตามพินัยกรรม ดังนั้นไม่ว่านิติกรรมโอนทรัพย์สินให้จำเลยจะเป็นโมฆะหรือไม่ จำเลยก็ได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์เหล่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 839/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความครอบครองปรปักษ์: ฟ้องคดีเกิน 10 ปี นับจากเจ้ามรดกถึงแก่กรรม และไม่มีการครอบครอง
โจทก์ฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนด 10 ปี นับแต่เจ้ามรดกถึงแก่กรรมโดยโจทก์ไม่เคยเข้าครอบครองที่พิพาทด้วยตนเองและไม่มีพยานหลักฐานว่าจำเลยครอบครองที่พิพาทแทนโจทก์คดีโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 วรรคสุดท้ายจึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่าโจทก์ได้รู้หรือควรรู้ถึงความตายของเจ้ามรดกเมื่อไร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายความในการขอกันส่วนทรัพย์สิน และสิทธิบุคคลภายนอกในการบังคับคดี
ในสำนวนอีกคดีหนึ่งซึ่งผู้ร้องคดีนี้เป็นโจทก์ฟ้อง ฮ. (ภรรยาจำเลยคดีนี้) ให้ชำระหนี้เงินเกี่ยวกับการเล่นแชร์ ปรากฏว่าผู้ร้องยื่นใบแต่งทนายแต่งตั้งให้ ส.เป็นทนายความ ส.จึงย่อมมีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ แทนคู่ความได้ตามที่เห็นสมควร เพื่อรักษาผลประโยชน์ของคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 61, 62 ดังนั้น การที่ ส.ทนายความมายื่นคำร้องเพื่อขอกันส่วนและแยกสินสมรสของ ฮ.จำเลยในอีกคดีหนึ่งดังกล่าวออกจากทรัพย์สินที่โจทก์อ้างว่าเป็นของจำเลยและโจทก์นำยึดไว้ในคดีนี้ จึงมีอำนาจทำได้โดยไม่ต้องแต่ทนายใหม่ และแม้ ส.จะยื่นคำร้องขอกันส่วนจำนวนเงินที่ขายทอดตลาดคดีนี้มาครั้งหนึ่งแล้วถอนไปก็ตาม ก็อาจร้องขอกันส่วนใหม่ได้โดยไม่ต้องมีใบแต่งทนายใหม่ เพราะกรณีนี้ทนายความในคดีเดิมมีอำนาจทำได้ดังกล่าวมาแล้ว
ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของ ฮ.ในอีกคดีหนึ่ง ย่อมมีสิทธิบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินของ ฮ.ได้ เมื่อทรัพย์ที่โจทก์ยึดเพื่อขายทอดตลาดในคดีนี้เป็นทรัพย์ที่ ฮ.มีกรรมสิทธิ์รวมอยู่ด้วย การขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวย่อมกระทบกระทั่งถึงสิทธิของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงอยู่ในฐานะบุคคลภายนอกที่จะร้องขอกันส่วนของ ฮ.เพื่อบังคับคดีได้ด้วยสิทธิของผู้ร้องเองตามบทบัญญัติในมาตรา 287 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง หาจำต้องใช้สิทธิเรียกร้องของ ฮ.ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 233, 234 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนาย, การกันส่วน, สิทธิบังคับคดี: ผู้ร้องมีสิทธิร้องขอกันส่วนโดยอาศัยมาตรา 287 ว.พ.พ.
ในสำนวนอีกคดีหนึ่งซึ่งผู้ร้องคดีนี้เป็นโจทก์ฟ้องฮ. (ภรรยาจำเลยคดีนี้) ให้ชำระหนี้เงินเกี่ยวกับการเล่นแชร์ ปรากฏว่าผู้ร้องยื่นใบแต่งทนายแต่งตั้งให้ ส.เป็นทนายความส. จึงย่อมมีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ แทนคู่ความได้ตามที่เห็นสมควรเพื่อรักษาผลประโยชน์ของคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 61,62 ดังนั้น การที่ ส. ทนายความมายื่นคำร้องเพื่อขอกันส่วน และแยกสินสมรสของ ฮ. จำเลยในอีกคดีหนึ่งดังกล่าวออกจากทรัพย์สินที่โจทก์อ้างว่าเป็นของจำเลยและโจทก์นำยึดไว้ในคดีนี้. จึงมีอำนาจทำได้โดยไม่ต้องแต่งทนายใหม่. และแม้ ส. จะยื่นคำร้องขอกันส่วนจำนวนเงินที่ขายทอดตลาดคดีนี้มาครั้งหนึ่งแล้วถอนไปก็ตาม ก็อาจร้องขอกันส่วนใหม่ได้โดยไม่ต้องมีใบแต่งทนายใหม่ เพราะกรณีนี้ทนายความในคดีเดิมมีอำนาจทำได้ดังกล่าวมาแล้ว
ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของ ฮ. ในอีกคดีหนึ่งย่อมมีสิทธิบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินของ ฮ. ได้เมื่อทรัพย์ที่โจทก์ยึดเพื่อขายทอดตลาดในคดีนี้เป็นทรัพย์ที่ ฮ. มีกรรมสิทธิ์รวมอยู่ด้วย การขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวย่อมกระทบกระทั่งถึงสิทธิของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงอยู่ในฐานะบุคคลภายนอกที่จะร้องขอกันส่วนของ ฮ. เพื่อบังคับคดีได้ด้วยสิทธิของผู้ร้องเองตามบทบัญญัติในมาตรา 287 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง หาจำต้องใช้สิทธิเรียกร้องของ ฮ. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา233,234 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีกรรมสิทธิ์ต้องชัดเจน หากยื่นคำให้การอ้างกรรมสิทธิ์เป็นของผู้อื่น ศาลถือว่าไม่ได้ต่อสู้กรรมสิทธิ์ของตนเอง
คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าซึ่งมีค่าเช่าในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละสองพันบาทจำเลยต่อสู้คดีว่าที่พิพาทเป็นของภริยาจำเลยมิได้ต่อสู้ว่าอสังหาริมทรัพย์ที่พิพาทนั้นเป็นของจำเลยจำเลยอุทธรณ์ข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นฎีกาที่ไม่เคยยกขึ้นในชั้นศาลล่าง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยให้การต่อสู้แต่เพียงว่า จำเลยไม่ได้รับหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองจากโจทก์เท่านั้น ฉะนั้นที่จำเลยฎีกาว่า ทนายโจทก์มีหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองแทนโจทก์โดยไม่ได้รับมอบอำนาจเป็นหนังสือจากโจทก์ เท่ากับไม่ได้บอกกล่าว จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้นปัญหานี้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การ ไม่ใช่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยปัญหานี้มา ก็ถือว่าเป็นปัญหาที่มิได้ว่ากันมาแล้วโดยชอบในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเหตุไม่มีอำนาจฟ้องที่มิได้ยกขึ้นต่อสู้ในชั้นศาลต้นและอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยให้การต่อสู้แต่เพียงว่า จำเลยไม่ได้รับหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองจากโจทก์เท่านั้น ฉะนั้นที่จำเลยฎีกาว่า ทนายโจทก์มีหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองแทนโจทก์โดยไม่ได้รับมอบอำนาจเป็นหนังสือจากโจทก์ เท่ากับไม่ได้บอกกล่าว จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น ปัญหานี้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การ ไม่ใช่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยปัญหานี้มา ก็ถือเป็นปัญหาที่มิได้ว่ากันมาแล้วโดยชอบในชั้นอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 310/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดทรัพย์และการจำหน่ายคดีออกจากสารบบความเมื่อโจทก์ขาดนัดยื่นคำให้การ ผู้ร้องต้องดำเนินการภายในกำหนดเวลา
ผู้ร้องขัดทรัพย์ต้องมีคำขอต่อศาลภายใน 15 วัน นับแต่ระยะเวลาที่กำหนดให้โจทก์ยื่นคำให้การได้สิ้นสุดลง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัด ถ้าผู้ร้องไม่ยื่นคำขอต่อศาลภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีนั้นออกเสียจากสารบบความผู้ร้องจะอ้างว่ามิได้มีเจตนาทิ้งคำร้อง เพราะผู้ร้องได้รับหมายนัดสืบพยานผู้ร้อง จึงเข้าใจว่าโจทก์ยื่นคำให้การแล้วนั้นไม่ได้ เพราะการที่ศาลมีคำสั่งไม่รับคำให้การและให้นัดสืบพยานผู้ร้องไป หามีผลลบล้างให้ผู้ร้องไม่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 198 ไม่
of 21