คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประการ กาญจนศูนย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 343 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3622/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความหมายของ 'อุบัติเหตุ' ในประกันภัยรถยนต์: การชิงทรัพย์และการเสียชีวิตของผู้ขับขี่
โจทก์เอาประกันภัยรถยนต์ไว้แก่จำเลยและได้เอาประกันภัย อุบัติเหตุส่วนบุคคลผู้ขับขี่ไม่ระบุนามไว้ด้วยโดยมีเงื่อนไขว่า จะใช้บังคับเฉพาะเมื่อผู้ขับขี่ที่ได้รับอนุญาตจากผู้เอาประกันภัย ที่ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยได้รับอุบัติเหตุในขณะที่กำลังขับขี่ หรือกำลังขึ้นหรือลงจากรถยนต์ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยเท่านั้น ปรากฏว่าระหว่างอายุสัญญาพ.ผู้ขับขี่รถยนต์ของโจทก์ได้ขับรถยนต์ ดังกล่าวจะไปส่งของที่กรุงเทพมหานครระหว่างทางได้ถูกคนร้าย ชิงเอารถยนต์ไปและคนร้ายได้ฆ่าพ.ถึงแก่ความตายเนื่องจากคนร้าย มีเจตนาลักรถยนต์ของโจทก์พบศพอยู่ห่างถนนที่เกิดเหตุประมาณ 7 เส้นดังนี้ เห็นได้ว่าเหตุที่เกิดขึ้นแก่ พ. เป็นผลโดยตรงหรือ เนื่องมาจากการชิงทรัพย์นั่นเองและได้เกิดขึ้นขณะพ.กำลัง ขับขี่รถยนต์อยู่ซึ่งถือได้ว่าเป็นอุบัติเหตุตามกรมธรรม์ประกันภัย
ตามกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุมิได้ให้คำจำกัดความว่า'อุบัติเหตุ'ไว้ จึงต้องถือความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525 ซึ่งให้ความหมายไว้ว่าเหตุที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดหรือความบังเอิญเป็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3611/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานจ้างวานฆ่าและพกพาอาวุธปืน แม้พยานร่วมกระทำผิดให้การ แต่ศาลรับฟังพยานหลักฐานได้
แม้ล.กับป.พยานโจทก์จะมีพฤติการณ์เป็นผู้ร่วมกระทำผิดด้วยกัน กับจำเลยแต่เมื่อโจทก์ได้กันส.กับป.ไว้เป็นพยานคำเบิกความของ พยานทั้งสองปากดังกล่าวอาจรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้แต่มี น้ำหนักน้อยมิใช่ว่าจะรับฟังไม่ได้เสียเลยทีเดียวถ้าโจทก์มีพยานอื่น ประกอบก็รับฟังลงโทษจำเลยได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 401/2496,1769/2509 และ 2001/2514) จำเลยได้ใช้ให้ ส.ฆ่าว. ผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยได้มอบ อาวุธปืนของกลางให้ ส.นำไปหาโอกาสยิงว.ผู้ตายแม้ส.ยังมิได้กระทำผิด เพราะไม่มีโอกาสฆ่าผู้ตายการกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) ประกอบกับมาตรา 85วรรคสอง จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) ประกอบด้วยมาตรา84 วรรคสองซึ่งต้องระวางโทษเพียงหนึ่งในสาม ของโทษที่กำหนดไว้นั้นให้ลดโทษประหารชีวิตหนึ่งในสามเป็นจำคุก ตลอดชีวิตตามมาตรา 52(1) และให้เปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิต อันเป็นโทษสองในสามของโทษประหารชีวิตเป็นจำคุก 50 ปีตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 53 ซึ่งต้องลงโทษเพียงหนึ่งในสาม ของโทษประหารชีวิตคือกึ่งหนึ่งของโทษจำคุก50 ปี จึงเป็นโทษ จำคุก 25 ปี (โปรดดูคำพิพากษาฎีกาที่ 91/2510 ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3611/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้จ้างวานให้ฆ่าผู้อื่น แม้ผู้รับจ้างยังมิได้ลงมือกระทำผิด ก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
แม้ ส.กับ ป.พยานโจทก์จะมีพฤติการณ์เป็นผู้ร่วมกระทำผิดด้วยกัน กับจำเลย แต่เมื่อโจทก์ได้กัน ส.กับ ป.ไว้เป็นพยาน คำเบิกความของพยานทั้งสองปากดังกล่าวอาจรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ แต่มีน้ำหนักน้อย มิใช่ว่าจะรับฟังไม่ได้เสียเลยทีเดียว ถ้าโจทก์มีพยานอื่นประกอบก็รับฟังลงโทษจำเลยได้
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 401/2496, 1769/2509 และ 2001/2514)
จำเลยได้ใช้ให้ ส. ฆ่า ว. ผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยได้มอบอาวุธปืนของกลางให้ ส. นำไปหาโอกาสยิง ว.ผู้ตาย แม้ ส.ยังมิได้กระทำผิดเพราะไม่มีโอกาสฆ่าผู้ตาย การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) ประกอบกับมาตรา 85 วรรคสอง
จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) ประกอบด้วย มาตรา84 วรรคสองซึ่งต้องระวางโทษเพียงหนึ่งในสามของโทษที่กำหนดไว้นั้นให้ลดโทษประหารชีวิตหนึ่งในสามเป็นจำคุกตลอดชีวิตตามมาตรา 52(1) และให้เปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตอันเป็นโทษสองในสามของโทษประหารชีวิตเป็นจำคุก 50 ปีตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 53 ซึ่งต้องลงโทษเพียงหนึ่งในสามของโทษประหารชีวิตคือกึ่งหนึ่งของโทษจำคุก 50 ปี จึงเป็นโทษ จำคุก 25 ปี
(โปรดดูคำพิพากษาฎีกาที่ 91/2510 ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3603/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนการทำแผนที่พิพาท: เหตุผลความจำเป็นและผลกระทบต่อการจำหน่ายคดี
การที่ศาลสั่งให้คู่ความไปจัดทำแผนที่พิพาท โดยห้ามมิให้เลื่อนและระบุว่าถ้าโจทก์ไม่ไปนำชี้จะจำหน่ายคดีเสียนั้น หากทนายโจทก์ผู้จะไปนำชี้จำเป็นต้องจัดการศพบิดาของภริยาจนไม่สามารถไปตามนัด และไม่อาจขอเลื่อนการทำแผนที่พิพาทได้ก่อนวันนัดแต่ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนในวันต่อมา ดังนี้ ถือว่าเป็นความจำเป็นและมีเหตุผลสมควรที่จะอนุญาตได้ ศาลจดรายงานกระบวนพิจารณาว่า ถึงวันนัดหากคู่ความฝ่ายใดไม่ไปนำชี้ ก็ให้อีกฝ่ายหนึ่งนำชี้ไปฝ่ายเดียว ดังนั้น แม้คู่ความฝ่ายใดไม่ไปนำชี้ก็หาเป็นอุปสรรคต่อการทำแผนที่พิพาทไม่ ด้วยเหตุนี้หากโจทก์มีความจำเป็นและมิได้ขอเลื่อนการทำแผนที่พิพาท กรณีก็ถือไม่ได้ว่าโจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลชั้นต้นกำหนดอันจะเป็นเหตุให้สั่งจำหน่ายคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3603/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุผลสมควรในการขอเลื่อนการทำแผนที่พิพาทและการจำหน่ายคดีที่ไม่เป็นธรรม
การที่ศาลสั่งให้คู่ความไปจัดทำแผนที่พิพาท โดยห้ามมิให้เลื่อน และระบุว่าถ้าโจทก์ไม่ไปนำชี้จะจำหน่ายคดีเสียนั้นหากทนายโจทก์ ผู้จะไปนำชี้จำเป็นต้องจัดการศพบิดาของภริยาจนไม่สามารถไปตามนัด และไม่อาจขอเลื่อนการทำแผนที่พิพาทได้ก่อนวันนัดแต่ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนในวันต่อมาดังนี้ ถือว่าเป็นความจำเป็นและมีเหตุผลสมควรที่จะอนุญาตได้ ศาลจดรายงานกระบวนพิจารณาว่าถึงวันนัดหากคู่ความฝ่ายใดไม่ไปนำชี้ ก็ให้อีกฝ่ายหนึ่งนำชี้ไปฝ่ายเดียวดังนั้น แม้คู่ความฝ่ายใดไม่ไปนำชี้ ก็หาเป็นอุปสรรคต่อการทำแผนที่พิพาทไม่ด้วยเหตุนี้หากโจทก์มีความจำเป็นและมิได้ขอเลื่อนการทำแผนที่พิพาทกรณีก็ถือไม่ได้ว่าโจทก์เพิกเฉย ไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลชั้นต้นกำหนดอันจะเป็นเหตุให้ สั่งจำหน่ายคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา174(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3506/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสลักหลังเช็คและสิทธิเรียกร้องของผู้รับช่วงสิทธิ: อายุความ 10 ปี
จำเลยสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ถือโจทก์ผู้ทรงได้สลักหลังเช็คนั้นโดยมิได้ ระบุข้อความใด ๆไว้แล้วนำไปขายลดให้แก่บุคคลภายนอกผู้รับซื้อเช็คไว้ ย่อมเป็นผู้ทรงการสลักหลังของโจทก์เป็นเพียงประกันหนี้ตามเช็คที่จำเลย จะต้องรับผิดต่อผู้ทรงโจทก์ย่อมอยู่ในฐานะผู้ค้ำประกันหนี้ตามเช็ค ของจำเลยเมื่อผู้ทรงรับเงินตามเช็คไม่ได้และโจทก์ได้ชำระหนี้ให้แก่ผู้ทรง แทนจำเลยไปย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้ทรงที่จะไล่เบี้ยเอาจากจำเลยสิทธิเรียกร้องของโจทก์ดังกล่าวไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้ จึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา164 กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา1002 ซึ่งบัญญัติไว้แต่เฉพาะกรณีที่ ผู้ทรงเช็คฟ้องผู้สลักหลังและผู้สั่งจ่ายและโจทก์ก็มิได้อยู่ในฐานะ ผู้สลักหลังเช็คตามมาตรา 1003

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3506/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องไล่เบี้ยเช็ค: สิทธิผู้รับช่วงจากผู้ทรงเช็คมีอายุความ 10 ปี ไม่ใช่อายุความ 1 ปี
จำเลยสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ถือ โจทก์ผู้ทรงได้สลักหลังเช็คนั้นโดยมิได้ ระบุข้อความใด ๆ ไว้แล้วนำไปขายลดให้แก่บุคคลภายนอก ผู้รับซื้อเช็คไว้ย่อมเป็นผู้ทรงการสลักหลังของโจทก์เป็นเพียงประกันหนี้ตามเช็คที่จำเลยจะต้องรับผิดต่อผู้ทรง โจทก์ย่อมอยู่ในฐานะผู้ค้ำประกันหนี้ตามเช็คของจำเลย เมื่อผู้ทรงรับเงินตามเช็คไม่ได้และโจทก์ได้ชำระหนี้ให้แก่ผู้ทรงแทนจำเลยไป ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้ทรงที่จะไล่เบี้ยเอาจากจำเลย สิทธิเรียกร้องของโจทก์ดังกล่าวไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้ จึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 กรณีไม่ต้องด้วย มาตรา1002 ซึ่งบัญญัติไว้แต่เฉพาะกรณีที่ผู้ทรงเช็คฟ้องผู้สลักหลังและผู้สั่งจ่าย และโจทก์ก็มิได้อยู่ในฐานะผู้สลักหลังเช็คตามมาตรา 1003

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3400/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ที่ชำระหนี้แทนลูกหนี้ต่อเจ้าหนี้เดิมในคดีล้มละลาย
เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ได้ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้เดิมของลูกหนี้ไป แม้จะไม่ได้ความว่าลูกหนี้ได้ให้ความเห็นชอบแต่จำนวนเงินที่ชำระ เป็นหนี้ที่ลูกหนี้มีหน้าที่ต้องชำระให้แก่เจ้าหนี้เดิมการชำระหนี้ ของเจ้าหนี้ย่อมสมประโยชน์และตามความประสงค์อันแท้จริงของลูกหนี้ ลูกหนี้ จึงมีหน้าที่ชดใช้คืนแก่เจ้าหนี้และการชำระหนี้ดังกล่าวไม่ต้องด้วย ข้อห้ามตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 94(2) เพราะมิใช่ลูกหนี้ก่อหนี้โดยตรงกับเจ้าหนี้ หากแต่ลูกหนี้มีหนี้ที่จะต้อง ชำระให้แก่บุคคลภายนอกแล้วเจ้าหนี้ชำระหนี้นั้นแทนไปเจ้าหนี้ จึงมีสิทธิที่จะขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3400/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหนี้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ มีสิทธิขอรับชำระจากกองทรัพย์สินลูกหนี้ได้ แม้ลูกหนี้ไม่ได้ให้ความเห็นชอบ
เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ได้ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้เดิมของลูกหนี้ไป แม้จะไม่ได้ความว่าลูกหนี้ได้ให้ความเห็นชอบ แต่จำนวนเงินที่ชำระเป็นหนี้ที่ลูกหนี้มีหน้าที่ต้องชำระให้แก่เจ้าหนี้เดิม การชำระหนี้ของเจ้าหนี้ย่อมสมประโยชน์และตามความประสงค์อันแท้จริงของลูกหนี้ ลูกหนี้จึงมีหน้าที่ชดใช้คืนแก่เจ้าหนี้ และการชำระหนี้ดังกล่าวไม่ต้องด้วยข้อห้ามตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 94(2) เพราะมิใช่ลูกหนี้ก่อหนี้โดยตรงกับเจ้าหนี้ หากแต่ลูกหนี้มีหนี้ที่จะต้องชำระให้แก่บุคคลภายนอกแล้วเจ้าหนี้ชำระหนี้นั้นแทน ไปเจ้าหนี้จึงมีสิทธิที่จะขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3318/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะ จากการถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง
ผู้ตายอาละวาดไล่ทำร้ายภริยาจำเลยจนหลบหนีไปแล้วจำเลยกำลัง จะรับประทานข้าวผู้ตายได้มายืนร้องเรียกที่ข้างบ้านให้จำเลยออกมา เดี๋ยวนี้จำเลยก็เดินออกมาที่ชานบ้าน ผู้ตายเดินมาถึงหน้าบันไดบ้าน พูดว่าวันนี้กูจะลุยมึงและจัดการกับมึงวันนี้จำเลยก็ว่าจะมา จัดการอะไรกัน ไม่เคยทำอะไรผิดผู้ตายก็พูดอีกว่าวันนี้กูต้องเอามึงแน่ จำเลยยกมือไหว้พูดว่าไม่สู้พี่หรอกมีบุตรและภริยาถ้าตายไปใครจะเลี้ยง ผู้ตายก็วิ่งขึ้นบันไดตรงเข้าชกต่อยจำเลยจำเลยจึงล้วงมีดพกปลายแหลม จากกระเป๋ากางเกงแทงผู้ตาย1ทีถูกบริเวณลำคอผู้ตายเดินเซลงบันไดไป จำเลยได้วิ่งตามไปแทงผู้ตายอีก 2-3 ครั้งถือได้ว่าจำเลยได้กระทำแก่ผู้ตาย ไปเพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมเป็นการกระทำความผิด โดยบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
of 35