พบผลลัพธ์ทั้งหมด 343 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2826/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้ยืมเงินและหลักประกัน: การหักกลบลบหนี้และการคิดดอกเบี้ย
จำเลยเป็นลูกค้าของโจทก์ได้ซื้อหุ้นของโจทก์และทำสัญญากู้ยืมเงิน จากโจทก์มาชำระค่าหุ้นโดยจำเลยนำ ตั๋วสัญญาใช้เงินให้โจทก์ยึดไว้เป็น หลักประกันในการกู้ยืมเงิน ดังกล่าวเท่านั้น กรณีมิใช่โจทก์รับจำนำหุ้น ของตนไว้เป็นประกัน นิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์จำเลยเป็นไป โดยชอบด้วยกฎหมาย หาตกเป็นโมฆะไม่ จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ ตามสัญญากู้ยืมเงินนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2826/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้ยืมเงินและหลักประกัน: การกู้ยืมเงินโดยมีตั๋วสัญญาใช้เงินเป็นหลักประกัน ไม่ใช่การจำนำหุ้น
จำเลยเป็นลูกค้าของโจทก์ได้ซื้อหุ้นของโจทก์และทำสัญญากู้ยืมเงิน จากโจทก์มาชำระค่าหุ้น โดยจำเลยนำตั๋วสัญญาใช้เงินให้โจทก์ยึดไว้เป็น หลักประกันในการกู้ยืมเงิน ดังกล่าวเท่านั้น กรณีมิใช่โจทก์รับจำนำหุ้นของตนไว้เป็นประกัน นิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์จำเลยเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย หาตกเป็นโมฆะไม่ จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ ตามสัญญากู้ยืมเงินนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2823/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้หลังอายุความ การละเสียสิทธิแห่งอายุความ และผลของการชำระหนี้บางส่วน
ภายหลังจากหนี้ขาดอายุความแล้ว จำเลยมีหนังสือรับรองยอดหนี้สิน ที่ค้างชำระส่งไปยังผู้อำนวยการ กองตรวจเงินรัฐวิสาหกิจและเงินทุนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินระบุว่า จำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์และจำเลยได้ชำระหนี้ให้แก่โจทก์บางส่วน ถือได้ว่าจำเลยละเสียซึ่งประโยชน์แห่งอายุความจำเลยจึงไม่มีสิทธิยกอายุความ ขึ้นต่อสู้และต้องรับผิดชำระหนี้ที่ค้างให้แก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2823/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้หลังอายุความ: การละเสียซึ่งสิทธิในการยกอายุความ
ภายหลังจากหนี้ขาดอายุความแล้ว จำเลยมีหนังสือรับรองยอดหนี้สิน ที่ค้างชำระส่งไปยังผู้อำนวยการ กองตรวจเงินรัฐวิสาหกิจและเงินทุนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินระบุว่า จำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ และจำเลยได้ชำระหนี้ให้แก่โจทก์บางส่วนถือได้ว่าจำเลยละเสียซึ่งประโยชน์แห่งอายุความจำเลยจึงไม่มีสิทธิยกอายุความขึ้นต่อสู้และต้องรับผิดชำระหนี้ที่ค้างให้แก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2721/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ เป็นข้อสำคัญในคดีอาญา
การร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์นั้นการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์และระยะเวลาแห่งการครอบครองย่อมเป็นข้อสำคัญในคดีการที่จำเลยเบิกความในคดีแพ่งซึ่งจำเลยร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินมีโฉนดว่าเจ้าของที่ดินยกที่ดินให้จำเลยพร้อมกับมอบโฉนดให้และจำเลยครอบครองทำประโยชน์ติดต่อกันมาอย่างเป็นเจ้าของประมาณ15 ปีแล้ว ซึ่งเป็นความเท็จย่อมเป็นการเบิกความอันเป็นเท็จและเป็นข้อสำคัญในคดีจำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2721/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ ถือเป็นข้อสำคัญในคดีอาญา
การร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์นั้น การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์และระยะเวลาแห่งการครอบครองย่อมเป็นข้อสำคัญในคดีการที่จำเลยเบิกความในคดีแพ่ง ซึ่งจำเลยร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินมีโฉนดว่าเจ้าของที่ดินยกที่ดินให้จำเลยพร้อมกับมอบโฉนดให้และจำเลยครอบครอง ทำประโยชน์ติดต่อกันมาอย่างเป็นเจ้าของประมาณ15 ปีแล้วซึ่งเป็นความเท็จย่อมเป็นการเบิกความอันเป็นเท็จและเป็นข้อสำคัญในคดีจำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2716/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการพิพากษายกฟ้องหลังศาลอุทธรณ์ให้พิจารณาใหม่ กรณีโจทก์ไม่มาศาล
ในชั้นพิจารณา โจทก์และทนายโจทก์ไม่มาศาลในวันนัดสืบพยาน โจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยผู้พิพากษานายเดียวลงนาม ในคำพิพากษา เป็นการไม่ชอบ เพราะคดีเกินอำนาจ ผู้พิพากษานายเดียวที่จะพิพากษา การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายก คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ ย่อมหมายความว่าพิจารณาคดีต่อไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เมื่อข้อเท็จจริงที่ปรากฏในชั้นพิจารณาว่า โจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดยังคงมีอยู่ตลอดมาจนถึงวันที่ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ ดังนี้ ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยเหตุเดิมได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 181 ประกอบด้วยมาตรา 166
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2716/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลพิพากษายกฟ้องหลังศาลอุทธรณ์ให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ กรณีโจทก์ไม่มาศาล
ในชั้นพิจารณา โจทก์และทนายโจทก์ไม่มาศาลในวันนัดสืบพยาน โจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยผู้พิพากษานายเดียวลงนาม ในคำพิพากษา เป็นการไม่ชอบเพราะคดีเกินอำนาจ ผู้พิพากษานายเดียวที่จะพิพากษา การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายก คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ ย่อมหมายความว่าพิจารณาคดีต่อไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเมื่อข้อเท็จจริงที่ปรากฏในชั้นพิจารณาว่า โจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดยังคงมีอยู่ตลอดมาจนถึงวันที่ ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ ดังนี้ ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยเหตุเดิมได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 181 ประกอบด้วยมาตรา166
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2670/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน ไม่อาจฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ เพราะเป็นการสมัครใจเสี่ยงภัย
โจทก์จำเลยต่างถูกพนักงานอัยการประจำศาลแขวงอุดรธานีฟ้องหาว่าโจทก์จำเลยทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน ศาลพิพากษาว่าโจทก์จำเลยต่างมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 คดีถึงที่สุด โจทก์จำเลยต่างมาฟ้องและฟ้องแย้งว่าอีกฝ่ายหนึ่งกระทำละเมิดให้ใช้ค่าเสียหายที่ต่างถูกทำร้ายเป็นคดีนี้ จึงเป็นการฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา
โจทก์จำเลยได้ทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน เป็นกรณีที่โจทก์จำเลยต่างสมัครใจเข้าเสี่ยงภัยยอมรับอันตรายหรือความเสียหายที่อาจจะเกิดมีขึ้นแก่ตนจากการทำร้ายกันนั้น การที่โจทก์ทำร้ายร่างกายจำเลยและจำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์จนต่างได้รับบาดเจ็บด้วยกัน จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการละเมิดต่อกันโจทก์จำเลยจึงต่างไม่จำต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพราะเหตุที่ต่างทำให้ได้รับบาดเจ็บซึ่งกันและกัน โจทก์และจำเลยจึงไม่มีอำนาจฟ้องและฟ้องแย้ง
เรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ปัญหานี้ไม่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาชอบที่จะยกขึ้นวินิจฉัยได้
โจทก์จำเลยได้ทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน เป็นกรณีที่โจทก์จำเลยต่างสมัครใจเข้าเสี่ยงภัยยอมรับอันตรายหรือความเสียหายที่อาจจะเกิดมีขึ้นแก่ตนจากการทำร้ายกันนั้น การที่โจทก์ทำร้ายร่างกายจำเลยและจำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์จนต่างได้รับบาดเจ็บด้วยกัน จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการละเมิดต่อกันโจทก์จำเลยจึงต่างไม่จำต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพราะเหตุที่ต่างทำให้ได้รับบาดเจ็บซึ่งกันและกัน โจทก์และจำเลยจึงไม่มีอำนาจฟ้องและฟ้องแย้ง
เรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ปัญหานี้ไม่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาชอบที่จะยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2645/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการรับชำระหนี้จากการล้มละลาย: เจ้าหนี้มีประกัน vs. เจ้าหนี้ไม่มีประกัน พิจารณาจากคำพิพากษาและสัญญาจำนอง
เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้โดยอ้างคำพิพากษาของศาลเป็นหลักฐานประกอบหนี้และเสียค่าธรรมเนียมยื่นคำขอรับชำระหนี้ 25 บาท เท่ากับอัตราค่ายื่นคำขอรับชำระหนี้อย่าง เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา แม้ในชั้นสอบสวนเจ้าหนี้อ้างส่ง สัญญาจำนองทรัพย์สินระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ที่ 5 ก็ตาม แต่เมื่อคำพิพากษาดังกล่าวไม่ปรากฏว่าได้มีการบังคับจำนอง เกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้รวมอยู่ด้วยเช่นนี้เจ้าหนี้ คงมีสิทธิขอรับชำระหนี้ในฐานเป็นเจ้าหนี้ไม่มีประกันตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 130 (8) เท่านั้น