คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประการ กาญจนศูนย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 343 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2705/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดโดยใช้ยานพาหนะ
จำเลยทั้งสามร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดแม้จำเลยที่1คนเดียวมีอาวุธปืนการกระทำของจำเลยทั้งสามก็เป็นความผิดตามป.อ.มาตรา340ประกอบด้วยมาตรา340ตรี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2671/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดิน: การครอบครองปรปักษ์ต้องเป็นเจ้าของและแสดงเจตนาชัดเจน คำสั่งศาลถึงที่สุดไม่ผูกพันบุคคลภายนอก
แม้คดีก่อนศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยโดยการครอบครองปรปักษ์และคำสั่งดังกล่าวถึงที่สุด จึงไม่อาจเพิกถอนได้แต่เมื่อโจทก์เป็นบุคคลภายนอกคดีซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ คำสั่งดังกล่าวย่อมไม่ผูกพันโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2402/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์: การครอบครองทรัพย์สินของผู้เสียหายยังไม่สิ้นสุด แม้ทรัพย์สินตกหล่น การยักยอกทรัพย์ และการรับของโจร
ผู้เสียหายทำธนบัตรของกลางตกที่หน้าแผงลอยของพ. ขณะที่ล้วงกระเป๋าหยิบเงินมาชำระให้แก่พ. จำเลยมาพบก้มลงหยิบธนบัตรดังกล่าวไปหลังจากที่จำเลยเดินจากไปแล้วผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่าธนบัตรของกลางหายไปดังนี้การที่จำเลยเอาธนบัตรของกลางไปในขณะที่ผู้เสียหายยังยืนอยู่ในบริเวณที่ทำธนบัตรตกและในเวลาใกล้เคียงกันนั้นเองผู้เสียหายก็รู้ทันทีว่าธนบัตรของตนหายไปถือได้ว่านับแต่เวลาที่ธนบัตรของกลางหลนลงไปที่พื้นจนถึงเวลาที่จำเลยหยิบเอาไปผู้เสียหายยังคงยึดถือธนบัตรนั้นอยู่การครอบครองธนบัตรยังอยู่กับผู้เสียหายเมื่อจำเลยเอาธนบัตรของกลางไปจากความครอบครองของผู้เสียหายเพื่อจะเอาไปเป็นของตนเองจึงมีความผิดฐานลักทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2402/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักยอกทรัพย์ vs ลักทรัพย์: การครอบครองทรัพย์สินของผู้เสียหายเป็นสำคัญ
ในวันเกิดเหตุผู้เสียหายทำธนบัตรของกลางตกที่หน้าแผงลอยของนางสาว พ. ขณะที่ล้วงกระเป๋าหยิบเงินมาชำระค่าปลาหมึกให้แก่นางสาว พ. จำเลยที่ 1 มาพบก้มลงหยิบธนบัตรดังกล่าวไปหลังจากที่จำเลยที่ 1 เดินจากไปแล้ว ผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่าธนบัตรของกลางหายไป สอบถามนางสาว พ. ได้ความว่า จำเลยที่ 1 เก็บเอาไป ดังนี้ การที่จำเลยที่ 1 เอาธนบัตรของกลางไปในขณะที่ผู้เสียหายยังยืนอยู่ในบริเวณที่ทำธนบัตรตก และในเวลาใกล้เคียงกันนั้นเอง ผู้เสียหายก็รู้ทันทีว่าธนบัตรของตนหายไป ถือได้ว่านับแต่เวลาที่ธนบัตรของกลางหล่นลงไปที่พื้น จนถึงเวลาที่จำเลยที่ 1 หยิบเอาไป ผู้เสียหายยังคงยึดถือธนบัตรนั้นอยู่ การครอบครองธนบัตรยังอยู่กับผู้เสียหาย เมื่อจำเลยที่ 1 เอาธนบัตรของกลางไปจากความครอบครองของผู้เสียหายเพื่อจะเอาไปเป็นของตนเอง จึงมีความผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2402/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์ vs. ยักยอกทรัพย์: การครอบครองทรัพย์สินของผู้เสียหายมีผลต่อการพิจารณาความผิดฐานลักทรัพย์
ในวันเกิดเหตุผู้เสียหายทำธนบัตรของกลางตกที่หน้าแผงลอยของนางสาวพ.ขณะที่ล้วงกระเป๋าหยิบเงินมาชำระค่าปลาหมึกให้แก่นางสาวพ.จำเลยที่1มาพบก้มลงหยิบธนบัตรดังกล่าวไปหลังจากที่จำเลยที่1เดินจากไปแล้วผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่าธนบัตรของกลางหายไปสอบถามนางสาวพ.ได้ความว่าจำเลยที่1เก็บเอาไปดังนี้การที่จำเลยที่1เอาธนบัตรของกลางไปในขณะที่ผู้เสียหายยังยืนอยู่ในบริเวณที่ทำธนบัตรตกและในเวลาใกล้เคียงกันนั้นเองผู้เสียหายก็รู้ทันทีว่าธนบัตรของตนหายไปถือได้ว่านับแต่เวลาที่ธนบัตรของกลางหล่นลงไปที่พื้นจนถึงเวลาที่จำเลยที่1หยิบเอาไปผู้เสียหายยังคงยึดถือธนบัตรนั้นอยู่การครอบครองธนบัตรยังอยู่กับผู้เสียหายเมื่อจำเลยที่1เอาธนบัตรของกลางไปจากความครอบครองของผู้เสียหายเพื่อจะเอาไปเป็นของตนเองจึงมีความผิดฐานลักทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2325/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจอนุญาตฎีกาข้อเท็จจริง: ต้องเป็นผู้พิพากษาที่พิจารณาคดีโดยตรงเท่านั้น
คดีอาญาที่ต้องห้ามมิให้คู่ความาฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงนั้นประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอายามาตรา221ให้อำนาจผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาหรือทำความเห็นแย้งในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์.อนุญาตให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้เมื่อเห็นว่าเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดแต่อำนาจอนุญาตให้ฎีกาเป็นอำนาจเฉพาะตัวของผู้พิพากษามิใช่อำนาจของศาลศาลชั้นต้นโดยผู้พิพากษาคนหนึ่งซึ่งมิได้พิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาหรือทำความเห็นแย้งจึงไม่มีอำนาจอนุญาตให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2325/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจอนุญาตฎีกาข้อเท็จจริงเฉพาะผู้พิพากษาคดี – ศาลชั้นต้นมิมีอำนาจ
คดีอาญาที่ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงนั้นป.วิ.อ.มาตรา221ให้อำนาจผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาหรือทำความเห็นแย้งในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์อนุญาตให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้เมื่อเห็นว่าเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดแต่อำนาจอนุญาตให้ฎีกาเป็นอำนาจเฉพาะตัวของผู้พิพากษามิใช่อำนาจของศาลศาลชั้นต้นโดยผู้พิพากษาคนหนึ่งซึ่งมิได้พิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาหรือทำความเห็นแย้งจึงไม่มีอำนาจอนุญาตให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2314/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: การบุกรุกเพื่อดูหมิ่นผู้เสียหาย ถือเป็นกรรมเดียว ใช้บทลงโทษหนักสุด
การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายแล้วดูหมิ่นผู้เสียหายในทันทีทันใดนั้น เป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกัน โดยมีเจตนาอันแท้จริงเพื่อดูหมิ่นผู้เสียหายเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียว. เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลย
สำหรับความผิดฐานบุกรุก เมื่อศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 แล้ว ก็ไม่จำต้องยกมาตรา 362, 364 ขึ้นปรับบทลงโทษอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2314/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: บุกรุกและดูหมิ่นต่อเนื่อง ศาลใช้บทหนักลงโทษ
การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายแล้วดูหมิ่นผู้เสียหายในทันทีทันใดนั้นเป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกันโดยมีเจตนาอันแท้จริงเพื่อดูหมิ่นผู้เสียหายเท่านั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียว.เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลย. สำหรับความผิดฐานบุกรุกเมื่อศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา365แล้วก็ไม่จำต้องยกมาตรา362,364ขึ้นปรับบทลงโทษอีก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2221/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตอำนาจศาลฟ้องล้มละลาย: จำเลยมีสิทธิไต่สวนเมื่ออ้างภูมิลำเนาต่างจากที่ฟ้อง
หากโจทก์ยื่นคำฟ้องขอให้ล้มละลายต่อศาลซึ่งลูกหนี้มิได้มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตการยื่นคำฟ้องของโจทก์ และการรับฟ้องไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปของศาล ย่อมขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย พระราชบัญญัติล้มละลาย เป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนมีผลในทางตัดสิทธิเสรีภาพของจำเลย ควรให้โอกาสจำเลยต่อสู้คดีได้เต็มที่เมื่อจำเลยกล่าวอ้างสำเนาทะเบียนบ้านเป็นหลักฐานสนับสนุนขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้อง ที่ศาลล่างสั่งยกคำร้อง โดยไม่ฟังข้อเท็จจริงตามข้อกล่าวอ้างของจำเลยก่อน ย่อมไม่ชอบ
of 35