พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4612/2564
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง การผิดสัญญา การคิดดอกเบี้ย และการลดเบี้ยปรับ
แม้ตามหนังสือสัญญาไม่มีข้อตกลงที่ระบุให้โจทก์มีหน้าที่ต้องส่งมอบเอกสารรับรองความปลอดภัยการใช้เครื่องกำเนิดไอน้ำพร้อมอุปกรณ์ แต่การไม่ส่งเอกสารรับรองความปลอดภัยการใช้เครื่องกำเนิดไอน้ำพร้อมอุปกรณ์แก่จำเลย ทำให้จำเลยไม่สามารถใช้งานเครื่องกำเนิดไอน้ำพร้อมอุปกรณ์ได้ตามกฎหมาย นอกจากนั้นโจทก์ได้ทำสัญญาประนีประนอมกับผู้รับจ้างช่วง โดยยอมชำระเงินค่าจ้างที่ค้างให้ เมื่อบริษัทดังกล่าวดำเนินการจัดทำเอกสารรับรองความปลอดภัยการใช้เครื่องกำเนิดไอน้ำพร้อมอุปกรณ์ต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรมแล้ว แสดงให้เห็นว่า สัญญาว่าจ้างก่อสร้างและติดตั้งเครื่องกำเนิดไอน้ำมีข้อตกลงโดยปริยายที่โจทก์มีหน้าที่ต้องส่งมอบเอกสารรับรองความปลอดภัยแก่จำเลย เมื่อจำเลยมีหนังสือแจ้งให้โจทก์ส่งเอกสารดังกล่าว แต่โจทก์เพิกเฉยไม่ส่งมอบให้ตามกำหนด โจทก์จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1202/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับมอบงานที่มีข้อชำรุด และการจ้างช่วงโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่เป็นเหตุให้งดจ่ายค่าจ้าง
โจทก์รับจ้างทำของให้แก่จำเลย เมื่อจำเลยรับมอบงานที่ทำทั้ง ๆ ที่ทราบข้อชำรุดบกพร่องอยู่ก่อนแล้ว จำเลยก็ต้องรับผิดชำระค่าจ้างแก่โจทก์ การที่จำเลยอ้างว่าโจทก์ต้องรับผิดเพื่อการนี้เพราะจำเลยได้โต้แย้งท้วงติงในความชำรุดบกพร่องดังกล่าวภายในกำหนด 1 ปีแล้วนั้น ก็เป็นเรื่องความรับผิดในข้อชำรุดบกพร่องเป็นคนละเรื่องกับการที่จำเลยรับมอบงานแล้วไม่จ่ายค่าจ้าง
การที่โจทก์เอางานบางส่วนไปให้ผู้อื่นรับจ้างช่วงโดยมิได้รับอนุญาตจากจำเลย แม้จะเป็นการผิดสัญญา แต่เมื่อจำเลยเพิกเฉยไม่เคยยกเหตุนี้ขึ้นว่ากล่าวแก่โจทก์และไม่เคยขอเลิกสัญญากับโจทก์เพราะเหตุนี้ กรณีจึงไม่มีค่าเสียหายที่โจทก์จะต้องรับผิดอันจำเลยจะอ้างอำนาจตามข้อสัญญามายึดและหักเงินค่าจ้างที่ค้างชำระไว้เพื่อเป็นค่าทดแทน
การที่โจทก์เอางานบางส่วนไปให้ผู้อื่นรับจ้างช่วงโดยมิได้รับอนุญาตจากจำเลย แม้จะเป็นการผิดสัญญา แต่เมื่อจำเลยเพิกเฉยไม่เคยยกเหตุนี้ขึ้นว่ากล่าวแก่โจทก์และไม่เคยขอเลิกสัญญากับโจทก์เพราะเหตุนี้ กรณีจึงไม่มีค่าเสียหายที่โจทก์จะต้องรับผิดอันจำเลยจะอ้างอำนาจตามข้อสัญญามายึดและหักเงินค่าจ้างที่ค้างชำระไว้เพื่อเป็นค่าทดแทน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1202/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยรับมอบงานชำรุดแล้วไม่จ่ายค่าจ้าง โจทก์ไม่ต้องรับผิดแม้จะมีการจ้างช่วง และจำเลยเพิกเฉยต่อการจ้างช่วงนั้น
โจทก์รับจ้างทำของให้แก่จำเลย เมื่อจำเลยรับมอบงานที่ทำทั้ง ๆ ที่ทราบข้อชำรุดบกพร่องอยู่ก่อนแล้ว จำเลยก็ต้องรับผิดชำระค่าจ้างแก่โจทก์ การที่จำเลยอ้างว่าโจทก์ต้องรับผิดเพื่อการนี้เพราะจำเลยได้โต้แย้งท้วงติงในความชำรุดบกพร่องดังกล่าวภายในกำหนด 1 ปีแล้วนั้น ก็เป็นเรื่องความรับผิดในข้อชำรุดบกพร่องเป็นคนละเรื่องกับการที่จำเลยรับมอบงานแล้วไม่จ่ายค่าจ้าง
การที่โจทก์เอางานบางส่วนไปให้ผู้อื่นรับจ้างช่วงโดยมิได้รับอนุญาตจากจำเลย แม้จะเป็นการผิดสัญญา แต่เมื่อจำเลยเพิกเฉยไม่เคยยกเหตุนี้ขึ้นว่ากล่าวแก่โจทก์และไม่เคยขอเลิกสัญญากับโจทก์เพราะเหตุนี้ กรณีจึงไม่มีค่าเสียหายที่โจทก์จะต้องรับผิดอันจำเลยจะอ้างอำนาจตามข้อสัญญามายึดและหักเงินค่าจ้างที่ค้างชำระไว้เพื่อเป็นค่าทดแทน
การที่โจทก์เอางานบางส่วนไปให้ผู้อื่นรับจ้างช่วงโดยมิได้รับอนุญาตจากจำเลย แม้จะเป็นการผิดสัญญา แต่เมื่อจำเลยเพิกเฉยไม่เคยยกเหตุนี้ขึ้นว่ากล่าวแก่โจทก์และไม่เคยขอเลิกสัญญากับโจทก์เพราะเหตุนี้ กรณีจึงไม่มีค่าเสียหายที่โจทก์จะต้องรับผิดอันจำเลยจะอ้างอำนาจตามข้อสัญญามายึดและหักเงินค่าจ้างที่ค้างชำระไว้เพื่อเป็นค่าทดแทน