คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประสาท บุณยรังษี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 430 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1549/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งข้อหาและการบันทึกการจับกุมไม่จำเป็นต้องควบคู่กันไป การสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมายเฉพาะกรณีแจ้งข้อหาไม่ถูกต้องเท่านั้น
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 83 บัญญัติแต่เพียงให้ เจ้าพนักงานแจ้งแก่ผู้ที่จะถูกจับว่าเขาจะต้องถูกจับเท่านั้น มิได้กำหนดให้มีการแจ้งข้อหาหรือการบันทึกการจับกุมแต่ประการใด
การแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา134 กำหนดให้กระทำเฉพาะเมื่อผู้ต้องหามาอยู่ต่อหน้าพนักงานสอบสวนและ ไม่จำต้องแจ้งข้อหาทุกกระทง ดังนั้นการที่พนักงานสอบสวนเติมคำว่า บุกรุกลงในบันทึกการจับกุมที่ผู้จับทำขึ้น จึงหาทำให้การสอบสวนเป็นการ สอบสวนที่ไม่ ชอบด้วยกฎหมายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1535/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ในคดีขับไล่ และอำนาจฟ้องของศาลเจ้า รวมถึงการนำสืบหลักฐานการแต่งตั้งผู้จัดการ
อสังหาริมทรัพย์ที่ฟ้องขับไล่อาจให้เช่าได้เดือนละไม่เกิน 5,000 บาท หรือไม่เมื่อโจทก์มิได้กล่าวความข้อนี้มาในฟ้อง ก็ต้องพิจารณาจาก ข้อเท็จจริงในสำนวนเมื่อบ้านพิพาทปลูกสร้างมาไม่น้อยกว่า 50 ปี บนเนื้อที่ประมาณ 20 ตารางวา ดังนี้ จึงอาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละ5,000 บาท ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248วรรคสอง ผู้จัดการปกครองและผู้ตรวจตราสอดส่องศาลจ้าวมีอำนาจฟ้องแทนศาลจ้าวได้ และการนำสืบการแต่งตั้งผู้จัดการปกครองและผู้ตรวจตราศาลจ้าวตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พุทธศักราช 2457 นั้น มิได้ บัญญัติว่าจะต้องมีเอกสาร (หมายตั้ง) มาแสดง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1518/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาว่าไม้ของกลางเป็นไม้แปรรูปตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ โดยพิจารณาจากการนำไปใช้ประโยชน์
จำเลยนำไม้มะค่าโมงของกลางรองกระสอบข้าวโพด เห็นได้ว่าเป็นการพรางเพราะพื้นฉางเป็นซิเมนต์ย่อมไม่ต้องใช้ไม้หนาอย่างดีและมีราคา ส่วนไม้ที่ปูร้านสีข้าวโพด ก็ไม่ได้ตอกตะปูรื้อออกได้ง่าย ยังมิได้เปลี่ยนสภาพเป็นเครื่องใช้ ดังนี้ ไม้ของกลางเป็นไม้แปรรูป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1345/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: คดีเดิมไม่บังคับจดทะเบียนเช่าเพราะที่ดินยังไม่ได้แบ่งแยก คดีใหม่ขอให้แบ่งแยกและจดทะเบียนเช่า ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทำสัญญาเช่าและจดทะเบียนการเช่าตึกแถวให้โจทก์ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าตึกแถวปลูกอยู่ในที่ดินส่วนใดเพราะยังไม่ได้แบ่งแยกเป็นส่วนสัดไม่อาจบังคับได้ให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งสองมาฟ้องคดีนี้ขอให้บังคับจำเลยไปจัดการแบ่งที่ดินออกเป็นส่วนสัดเฉพาะที่ปลูกตึกแถว และให้ไปจดทะเบียนการเช่าให้โจทก์ที่ 2 ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1322/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขาดไร้อุปการะผู้เยาว์: ผู้ตายมีหน้าที่ตามกฎหมาย แม้ไม่ได้อุปการะเลี้ยงดูก็ตาม
มารดาของผู้เยาว์ถึงแก่ความตายเพราะการกระทำละเมิดของจำเลย ทำให้ผู้เยาว์ต้องขาดไร้อุปการะจากผู้ตายตามกฎหมาย ผู้เยาว์จึงชอบที่จะได้รับค่าขาดไร้อุปการะทั้งในปัจจุบัน และอนาคตโดยไม่จำต้องคำนึงถึงว่าผู้ตายได้เคยอุปการะเลี้ยงดูผู้เยาว์นั้นมาจริงหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1322/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขาดไร้อุปการะเด็กผู้เยาว์: ไม่ต้องพิจารณาความสามารถหารายได้หรือการอุปการะเลี้ยงดูก่อน
มารดาของผู้เยาว์ถึงแก่ความตายเพราะการกระทำละเมิดของจำเลย ทำให้ผู้เยาว์ต้องขาดไร้อุปการะจากผู้ตายตามกฎหมายผู้เยาว์จึงชอบที่จะได้รับค่าขาดไร้อุปการะทั้งในปัจจุบันและอนาคตโดยไม่จำต้องคำนึงถึงว่าผู้ตายได้เคยอุปการะเลี้ยงดูผู้เยาว์นั้นมาจริงหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1306/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดหากผู้ก่อเหตุไม่ใช่ลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้เอาประกันภัย
ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ผู้ขับรถยนต์โดยประมาทชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย เป็นลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้เอาประกันภัยที่จะต้องรับผิดชอบในความเสียหายซึ่งจำเลยที่ 1 ได้ก่อขึ้น จำเลยที่ 2 ผู้รับประกันภัยจึงไม่ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อวินาศภัยอันจำเลยที่ 1 ซึ่งมิใช่ผู้เอาประกันภัยก่อให้เกิดขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1283/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจากละเมิด vs. การใช้ราคาทรัพย์สิน: ไม่ตกอยู่ในบังคับอายุความ 1 ปี
โจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์ซึ่งจำเลยเป็นผู้ขับขี่ และนำรถยนต์คันดังกล่าวไปจอดเก็บไว้ ณ สถานที่ซึ่งมิใช่สถานที่เก็บรถยนต์ของโจทก์ เป็นเหตุให้หายไปขอให้ใช้ราคารถยนต์ดังกล่าว เป็นการบรรยายฟ้องให้จำเลยใช้ราคารถยนต์ในฐานะที่โจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์ ใช้สิทธิติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 หาใช่เป็นการ ฟ้องเรียกร้องเอาค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดไม่
การคืนทรัพย์สินอันผู้เสียหายต้องเสียไปเพราะละเมิด หรือใช้ราคาทรัพย์สินนั้น ไม่ใช่ค่าเสียหาย แต่เป็นค่าสินไหมทดแทนโจทก์ฟ้องให้จำเลยใช้ราคารถยนต์เป็นการฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทน ไม่ตกอยู่ในบังคับอายุความหนึ่งปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 448
ปัญหาว่าฟ้องโจทก์เป็นการฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนที่ไม่ตกอยู่ในอายุความหนึ่งปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 448 หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
จำเลยทำหน้าที่พนักงานขับรถยนต์ นำรถยนต์ของโจทก์ไปจอดไว้ ณ สถานที่ซึ่งมิใช่สถานที่เก็บจอด อันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของโจทก์ซึ่งจำเลยทราบแล้ว เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามระเบียบเกี่ยวกับการเก็บรักษารถยนต์ เป็นเหตุให้รถยนต์หายไปจำเลยจึงต้องใช้ราคารถยนต์นั้นแก่โจทก์
การฟ้องให้จำเลยใช้ราคาทรัพย์เนื่องจากจำเลยทำให้ทรัพย์ของโจทก์หายไป ไม่มีกฎหมายบังคับให้โจทก์ต้องบอกกล่าวให้จำเลยชำระหนี้ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1283/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจากความเสียหายต่อทรัพย์สิน: การตีความค่าสินไหมทดแทน vs. ค่าเสียหาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์ซึ่งจำเลยเป็นผู้ขับขี่ และนำรถยนต์คันดังกล่าวไปจอดเก็บไว้ ณ สถานที่ซึ่งมิใช่สถานที่เก็บรถยนต์ของโจทก์ เป็นเหตุให้หายไปขอให้ใช้ราคารถยนต์ดังกล่าว เป็นการบรรยายฟ้องให้จำเลยใช้ราคารถยนต์ในฐานะที่โจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์ ใช้สิทธิติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 หาใช่เป็นการ ฟ้องเรียกร้องเอาค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดไม่
การคืนทรัพย์สินอันผู้เสียหายต้องเสียไปเพราะละเมิด หรือใช้ราคาทรัพย์สินนั้น ไม่ใช่ค่าเสียหาย แต่เป็นค่าสินไหมทดแทนโจทก์ฟ้องให้จำเลยใช้ราคารถยนต์เป็นการฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทน ไม่ตกอยู่ในบังคับอายุความหนึ่งปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448
ปัญหาว่าฟ้องโจทก์เป็นการฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทน ที่ไม่ ตกอยู่ในอายุความหนึ่งปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
จำเลยทำหน้าที่พนักงานขับรถยนต์ นำรถยนต์ของโจทก์ไปจอดไว้ ณ สถานที่ซึ่งมิใช่สถานที่เก็บจอด อันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของโจทก์ซึ่งจำเลยทราบแล้ว เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามระเบียบเกี่ยวกับการเก็บรักษารถยนต์ เป็นเหตุให้รถยนต์หายไปจำเลยจึงต้องใช้ราคารถยนต์นั้นแก่โจทก์
การฟ้องให้จำเลยใช้ราคาทรัพย์เนื่องจากจำเลยทำให้ทรัพย์ของโจทก์หายไป ไม่มีกฎหมายบังคับให้โจทก์ต้องบอกกล่าวให้จำเลยชำระหนี้ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแยกความผิดฐานมีฝิ่นและมูลฝิ่น แม้มีครอบครองในวาระเดียวกัน ถือเป็นคนละกรรม
เดิมกฎหมายบัญญัติเกี่ยวกับการมีฝิ่นและมูลฝิ่นไว้ในมาตราเดียวกัน ต่อมาได้มีการแก้ไขโดยบัญญัติแยกไว้คนละมาตราเป็นคนละฐานความผิด จึงเป็นเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการแยกการมีฝิ่นและมูลฝิ่นไว้เป็นคนละความผิดกัน ฉะนั้น แม้จำเลยจะมีฝิ่นและมูลฝิ่นไว้ในความครอบครองในวาระเดียวกันก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
of 43