พบผลลัพธ์ทั้งหมด 430 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3867/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องทางจำเป็น/ภารจำยอม: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยนอกประเด็นที่กำหนด และถือว่าคำพิพากษาศาลชั้นต้นเกี่ยวกับทางภารจำยอมถึงที่สุดแล้ว
คำฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายว่าที่ดินของโจทก์ตกอยู่ในที่ล้อมของที่ดินแปลงอื่น ทั้งยังบรรยายว่าที่ดินที่มีทางภารจำยอมนั้นเป็นที่ดินมรดกซึ่งยังมิได้แบ่งปันกันถือได้ว่าคำฟ้องของโจทก์มิได้ตั้งประเด็นว่าที่ดินของโจทก์ตกอยู่ในที่ล้อมของที่ดินแปลงอื่นจนไม่มีทางออกถึงทางสาธารณะได้ ทั้งในชั้นชี้สองสถานก็ได้กำหนดประเด็นไว้ว่ามีทางภารจำยอมหรือไม่ ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าเป็นทางจำเป็นและให้เปิดทางจำเป็น จึงเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดนอกฟ้องนอกประเด็น
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เปิดทางจำเป็น และยกฟ้องในคำขอข้ออื่น ถือได้ว่าศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเกี่ยวกับทางภารจำยอมแล้ว เมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น และมิได้โต้แย้งไว้ในคำแก้อุทธรณ์ คำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ยกฟ้องโจทก์เกี่ยวกับทางภารจำยอมจึงถึงที่สุด โจทก์จะรื้อฟื้นฎีกาขอให้เปิดทางภารจำยอมอีกหาได้ไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เปิดทางจำเป็น และยกฟ้องในคำขอข้ออื่น ถือได้ว่าศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเกี่ยวกับทางภารจำยอมแล้ว เมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น และมิได้โต้แย้งไว้ในคำแก้อุทธรณ์ คำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ยกฟ้องโจทก์เกี่ยวกับทางภารจำยอมจึงถึงที่สุด โจทก์จะรื้อฟื้นฎีกาขอให้เปิดทางภารจำยอมอีกหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3859/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างต้องรับผิดต่อการละเมิดของลูกจ้าง แม้จะมอบหมายให้ลูกจ้างอื่นขับรถ และลูกจ้างนั้นไม่มีใบอนุญาต
ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของจำเลยที่ 2ศ. ซึ่งเป็นพนักงานขับรถเปลี่ยนให้จำเลยที่ 1 ซึ่งไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ขับรถไปชนโจทก์ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนายจ้าง ศ. จึงต้องร่วมรับผิดในการละเมิดที่เกิดขึ้นโดยถือว่าการที่จำเลยที่ 1 ขับรถไปชนโจทก์เป็นการกระทำในทางการที่จ้างด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3822/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องหย่าหมดอายุเมื่อให้อภัย, การแยกกันอยู่โดยสมัครใจ, และหน้าที่ช่วยเหลืออุปการะภริยา
จำเลยใช้มีดจะแทงโจทก์ตั้งแต่ก่อนโจทก์จำเลยจะมีบุตรด้วยกัน ต่อมาโจทก์เห็นว่าจำเลยเป็นภริยาและมีบุตรด้วยกัน จึงไม่ร้องทุกข์กล่าวโทษจำเลย แสดงว่าโจทก์ได้ให้อภัยจำเลยแต่แรกแล้ว ถือได้ว่าสิทธิฟ้องหย่าในข้อนี้ย่อมหมดไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1518
โจทก์จำเลยต่างสมัครใจแยกกันอยู่ โจทก์จะกล่าวหาว่าจำเลยจงใจละทิ้งร้างโจทก์ไม่ได้
ความสามารถและฐานะของโจทก์ดีกว่าจำเลย โจทก์ผู้เป็นสามีจึงต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูจำเลยซึ่งเป็นภริยาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1461 ประกอบด้วยมาตรา 1598/38
โจทก์จำเลยต่างสมัครใจแยกกันอยู่ โจทก์จะกล่าวหาว่าจำเลยจงใจละทิ้งร้างโจทก์ไม่ได้
ความสามารถและฐานะของโจทก์ดีกว่าจำเลย โจทก์ผู้เป็นสามีจึงต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูจำเลยซึ่งเป็นภริยาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1461 ประกอบด้วยมาตรา 1598/38
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3822/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องหย่า ความสมัครใจแยกกันอยู่ การให้อภัย และหน้าที่ช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดู
จำเลยใช้มีดจะแทงโจทก์ตั้งแต่ก่อนโจทก์จำเลยจะมีบุตรด้วยกัน ต่อมาโจทก์เห็นว่าจำเลยเป็นภริยาและมีบุตรด้วยกัน จึงไม่ร้องทุกข์กล่าวโทษจำเลย แสดงว่าโจทก์ได้ให้อภัยจำเลยแต่แรกแล้ว ถือได้ว่าสิทธิฟ้องหย่าในข้อนี้ย่อมหมดไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1518
โจทก์จำเลยต่างสมัครใจแยกกันอยู่ โจทก์จะกล่าวหาว่าจำเลยจงใจละทิ้งร้างโจทก์ไม่ได้
ความสามารถและฐานะของโจทก์ดีกว่าจำเลย โจทก์ผู้เป็นสามีจึงต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูจำเลยซึ่งเป็นภริยาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1461 ประกอบด้วยมาตรา1598/38
โจทก์จำเลยต่างสมัครใจแยกกันอยู่ โจทก์จะกล่าวหาว่าจำเลยจงใจละทิ้งร้างโจทก์ไม่ได้
ความสามารถและฐานะของโจทก์ดีกว่าจำเลย โจทก์ผู้เป็นสามีจึงต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูจำเลยซึ่งเป็นภริยาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1461 ประกอบด้วยมาตรา1598/38
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3695/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับมรดกสิทธิเช่าและการมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้รุกล้ำที่ดิน
บิดาโจทก์เช่าที่ดินวัดมาปลูกบ้าน แม้ต่อมาบิดาโจทก์ถึงแก่กรรมอันมีผลให้สัญญาเช่าที่ดินระงับลงก็ตาม แต่โจทก์เป็นทายาทผู้รับมรดกของบิดาโจทก์ โจทก์จึงต้องรับโอนมาซึ่งสิทธิหน้าที่ และความรับผิดต่างๆ ที่บิดาโจทก์มีต่อวัดผู้ให้เช่า เมื่อโจทก์ได้ทำสัญญาเช่าที่ดินดังกล่าวจากวัดแล้ว ถือได้ว่าโจทก์ได้ครอบครองที่ดินที่เช่าทั้งแปลงติดต่อมาตั้งแต่บิดาโจทก์ถึงแก่กรรมโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยผู้ต่อเติมอาคารรุกล้ำเข้าไปในที่ดินที่โจทก์เช่าได้โดยวัดผู้ให้เช่าไม่จำต้องส่งมอบที่ดินที่เช่าให้โจทก์อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3695/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับโอนสิทธิและหน้าที่จากสัญญาเช่าเดิมสู่ทายาท และอำนาจฟ้องขับไล่ผู้รุกล้ำ
บิดาโจทก์เช่าที่ดินวัดมาปลูกบ้าน แม้ต่อมาบิดาโจทก์ถึงแก่กรรมอันมีผลให้สัญญาเช่าที่ดินระงับลงก็ตาม แต่โจทก์เป็นทายาทผู้รับมรดกของบิดาโจทก์ โจทก์จึงต้องรับโอนมาซึ่งสิทธิหน้าที่ และความรับผิดต่าง ๆ ที่บิดาโจทก์มีต่อวัดผู้ให้เช่าเมื่อโจทก์ได้ทำสัญญาเช่าที่ดินดังกล่าวจากวัดแล้ว ถือได้ว่าโจทก์ได้ครอบครองที่ดินที่เช่าทั้งแปลงติดต่อมาตั้งแต่บิดาโจทก์ถึงแก่กรรมโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยผู้ต่อเติมอาคารรุกล้ำเข้าไปในที่ดินที่โจทก์เช่าได้โดยวัดผู้ให้เช่าไม่จำต้องส่งมอบที่ดินที่เช่าให้โจทก์อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3674/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายความในการดำเนินกระบวนพิจารณาและการรับฟังคำพิพากษาแทนจำเลย
โจทก์แต่งตั้งให้ ว. เป็นทนายความและให้มีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ ไปในทางจำหน่ายสิทธิได้ เช่นการยอมรับตามที่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเรียกร้อง ยื่น ถอนคำฟ้อง ประนีประนอมยอมความ สละสิทธิหรือใช้สิทธิในการอุทธรณ์ฎีกา หรือขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่ตลอดจนชั้นบังคับคดีเมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ถอดถอน ว.ออกจากการเป็นทนายความ ถือได้ว่า ว. ยังคงเป็นทนายความของโจทก์อยู่ เมื่อศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ว. ทนายโจทก์ฟัง ก็ถือว่าโจทก์ได้ฟังคำพิพากษาดังกล่าวโดยชอบแล้ว แม้ร้อยตำรวจเอก ช. จะเป็นทนายความผู้ทำคำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์มายื่นและมิได้ฟังคำพิพากษาด้วยตนเอง ก็ไม่มีอำนาจร้องขอให้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ใหม่เพื่อให้โจทก์มีสิทธิฎีกาได้อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3674/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายความในการรับฟังคำพิพากษาแทนจำเลย และผลต่อสิทธิในการฎีกา
โจทก์แต่งตั้งให้ ว. เป็นทนายความและให้มีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ ไปในทางจำหน่ายสิทธิได้ เช่นการยอมรับตามที่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเรียกร้อง ยื่น ถอนคำฟ้องประนีประนอมยอมความ สละสิทธิหรือใช้สิทธิในการอุทธรณ์ฎีกาหรือขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่ตลอดจนชั้นบังคับคดีเมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ถอดถอน ว.ออกจากการเป็นทนายความ ถือได้ว่าว. ยังคงเป็นทนายความของโจทก์อยู่ เมื่อศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ ว. ทนายโจทก์ฟัง ก็ถือว่าโจทก์ได้ฟังคำพิพากษาดังกล่าวโดยชอบแล้ว แม้ร้อยตำรวจเอก ช. จะเป็นทนายความผู้ทำคำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์มายื่นและมิได้ฟังคำพิพากษาด้วยตนเอง ก็ไม่มีอำนาจร้องขอให้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ใหม่เพื่อให้โจทก์มีสิทธิฎีกาได้อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3586/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียงกระทงความผิดจากพฤติกรรมครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด แม้ไม่ได้อ้างมาตรา 91 ในคำฟ้อง
เมื่อศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและได้จำหน่ายเฮโรอีนตามฟ้องโจทก์ จำเลยมิได้อุทธรณ์โต้เถียงข้อเท็จจริงดังกล่าวคงมีแต่โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายว่าการกระทำของจำเลยดังข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยเป็นความผิดสองกรรมศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยเพียงกรรมเดียวเป็นการไม่ถูกต้อง ข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายกับจำหน่ายเฮโรอีนจึงเป็นอันยุติไปแล้วตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และมิใช่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดสองกรรมแม้โจทก์จะมิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 มาในคำขอท้ายฟ้องก็ตาม แต่โจทก์ก็ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายบทและหลายกรรมต่างกัน ศาลก็ต้องเรียงกระทงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดสองกรรมแม้โจทก์จะมิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 มาในคำขอท้ายฟ้องก็ตาม แต่โจทก์ก็ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายบทและหลายกรรมต่างกัน ศาลก็ต้องเรียงกระทงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3586/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียงกระทงความผิดในคดีจำหน่ายยาเสพติด แม้โจทก์มิได้อ้างมาตรา 91 โดยตรง
เมื่อศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและได้จำหน่ายเฮโรอีนตามฟ้องโจทก์จำเลยมิได้อุทธรณ์โต้เถียงข้อเท็จจริงดังกล่าวคงมีแต่โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายว่าการกระทำของจำเลยดังข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยเป็นความผิดสองกรรมศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยเพียงกรรมเดียวเป็นการไม่ถูกต้อง ข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายกับจำหน่ายเฮโรอีนจึงเป็นอันยุติไปแล้วตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และมิใช่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดสองกรรมแม้โจทก์จะมิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 มาในคำขอท้ายฟ้องก็ตาม แต่โจทก์ก็ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายบทและหลายกรรมต่างกัน ศาลก็ต้องเรียงกระทงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดสองกรรมแม้โจทก์จะมิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 มาในคำขอท้ายฟ้องก็ตาม แต่โจทก์ก็ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายบทและหลายกรรมต่างกัน ศาลก็ต้องเรียงกระทงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91