คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประสาท บุณยรังษี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 430 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3243/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจครอบคลุมการแก้ฟ้องแย้ง สิทธิเช่าที่ดินเป็นไปตามการจดทะเบียน
หนังสือมอบอำนาจของโจทก์ระบุให้ ส.ผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจตั้งทนายความเพื่อดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆในศาล ย่อมมีความหมายรวมถึงให้ตั้งทนายความแก้ต่าง และให้การแก้ฟ้องแย้งด้วย โจทก์มีอำนาจฟ้องและให้การแก้ฟ้องแย้ง
โจทก์จดทะเบียนเลิกการเช่าที่ดินกับ ช. และวันเดียวกันโจทก์ได้จดทะเบียนการเช่าให้ ป. แม้ต่อมาภายหลังจำเลยจะซื้อบ้านจาก ช. และโจทก์ทำหนังสือยินยอมให้จำเลยมีสิทธิการเช่าที่ดินสืบต่อจาก ช. ดังนี้ สิทธิการเช่าของจำเลยเป็นเพียงหลักฐานการเช่าแต่ไม่ได้จดทะเบียน ป.มีสิทธิยิ่งกว่าจำเลยในการเช่าที่ดินตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 543 จำเลยไม่มีสิทธิบังคับให้โจทก์ไปจดทะเบียนการเช่าอีกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3143/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณะริมตลิ่ง: สิทธิของเจ้าของที่ดินติดเคียงและการฟ้องขับไล่
จำเลยปลูกบ้านลงในที่ริมตลิ่งอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน มิได้ปลูกรุกล้ำเข้าไปในที่ดินโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิทำเขื่อนกั้นน้ำในที่ดินที่จำเลยปลูกบ้านได้ แต่สามารถทำเขื่อนภายในแนวเขตที่ดินของโจทก์ ทั้งโจทก์ยังมีทางอื่นที่จะใช้ลงสู่คลองได้ โดยไม่จำเป็นต้องผ่านตรงที่จำเลยปลูกบ้าน โจทก์ไม่ได้เสียหายเป็นพิเศษ ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3087/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหนังสือทวงหนี้โดยการลงโฆษณาทางหนังสือพิมพ์รายวันชอบด้วยกฎหมายล้มละลาย
การส่งหนังสือทวงหนี้ไม่สามารถทำได้ด้วยวิธีธรรมดาเพราะไปไม่พบผู้ร้อง คนในบ้านว่าย้ายไปแล้ว และนายทะเบียนท้องถิ่นว่าไม่มีชื่อผู้ร้องในบ้าน ต้องส่งโดยวิธีอื่นแทน คือส่งไปประกาศโฆษณาทางหนังสือพิมพ์รายวัน ถือได้ว่าเป็นการลงโฆษณาตามความหมายของ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 79 แล้ว
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งยกคำร้องของผู้ร้องที่ขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ให้ถูกต้อง มีผลให้ผู้ร้องเสียหายเพราะไม่ได้รับการพิจารณา หรือสอบสวนใหม่ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 146 ผู้ร้องชอบที่จะยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลภายในกำหนดเวลา14 วัน นับแต่วันที่ทราบการกระทำหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3080/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต และการริบเครื่องจักรกล กรณีไม้ถูกต้องตามกฎหมาย
โรงงานแปรรูปไม้ของจำเลยเป็นโรงงานที่ใช้เครื่องจักรกลในการผลิตอุปกรณ์สำหรับประกอบเครื่องรับโทรทัศน์เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตแต่ไม้แปรรูปที่จับได้จากโรงงานเป็นไม้ที่ชอบด้วยกฎหมาย ในกรณีเช่นนี้ความผิดของจำเลยอยู่ที่การไม่ได้รับอนุญาต เครื่องจักรกลและสิ่งต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นโรงงานแปรรูปไม้ จึงมิใช่สิ่งที่ได้ใช้ในการกระทำความผิดหรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ จะริบเครื่องจักรกลไม่ได้
การตั้งโรงงานแปรรูปไม้เพื่อผลิตอุปกรณ์สำหรับประกอบเครื่องรับโทรทัศน์เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นความผิดฐานตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตและตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นกรรมเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3080/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โรงงานแปรรูปไม้ไม่ได้รับอนุญาต: การริบเครื่องจักรกลเมื่อไม้ที่แปรรูปถูกต้องตามกฎหมาย
โรงงานแปรรูปไม้ของจำเลยเป็นโรงงานที่ใช้เครื่องจักรกลในการผลิตอุปกรณ์สำหรับประกอบเครื่องรับโทรทัศน์เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตแต่ไม้แปรรูปที่จับได้จากโรงงานเป็นไม้ที่ชอบด้วยกฎหมาย ในกรณีเช่นนี้ความผิดของจำเลยอยู่ที่การไม่ได้รับอนุญาต เครื่องจักรกลและสิ่งต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นโรงงานแปรรูปไม้ จึงมิใช่สิ่งที่ได้ใช้ในการกระทำความผิดหรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ จะริบเครื่องจักรกลไม่ได้
การตั้งโรงงานแปรรูปไม้เพื่อผลิตอุปกรณ์สำหรับประกอบเครื่องรับโทรทัศน์เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นความผิดฐานตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตและตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นกรรมเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3075/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมโดยอายุความ: การแบ่งแยกครอบครองที่ดินมรดกและการใช้ทางเดินเป็นทางภารจำยอม
โจทก์จำเลยและบุตรคนอื่นของ อ. ต่างได้แบ่งแยกกันครอบครองที่ดินโฉนดแปลงเดียวกัน เป็นส่วนสัดตามที่ อ. ชี้แบ่งเขตให้ แต่ละคนมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินเฉพาะส่วนที่ได้ครอบครองมา เมื่อโจทก์ได้ครอบครองที่ดินเฉพาะส่วนที่ได้รับแบ่งแยกมาตั้งแต่ก่อน อ. ถึงแก่กรรมและได้ใช้ทางเดินผ่านเข้าออกจากที่บ้านไปสู่ถนน โดยผ่านที่ดินที่จำเลยทั้งสองครอบครองอยู่มาตั้งแต่แรกเกินกว่า 10 ปีแล้ว ทางเดินดังกล่าวจึงตกเป็นภารจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์โดยอายุความ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองเปิดทางภารจำยอมโดยมิได้เรียกค่าเสียหาย เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3015/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแย้งของจำเลยในคดีที่โจทก์เป็นชาวต่างชาติและฟ้องคดีในไทย: มาตรา 4(3) และ 7 วางหลักเกณฑ์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4(3) เป็นบทบัญญัติซึ่งใช้บังคับแก่การฟ้องเริ่มคดีต่อศาลไทยด้วยการฟ้องบุคคลผู้เป็นลูกหนี้ซึ่งมิได้มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย
โจทก์ไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย ตั้งตัวแทนให้ฟ้องจำเลยต่อศาลไทยและตัวแทนโจทก์ได้ฟ้องจำเลยต่อศาลไทยแล้วจึงเป็นกรณีที่มีคดีค้างพิจารณาอยู่ในศาลไทยจำเลยให้การและฟ้องแย้งโจทก์ในขณะเดียวกันได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 7(1) ซึ่งเป็นบทบัญญัติยกเว้นมาตรา 4(3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3015/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแย้งของจำเลยในคดีที่โจทก์เป็นชาวต่างชาติและฟ้องต่อศาลไทย ศาลอนุญาตฟ้องแย้งได้ตามมาตรา 7
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4 (3) เป็นบทบัญญัติซึ่งใช้บังคับแก่การฟ้องเริ่มคดีต่อศาลไทยด้วยการฟ้องบุคคลผู้เป็นลูกหนี้ซึ่งมิได้มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย
โจทก์ไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย ตั้งตัวแทนให้ฟ้องจำเลยต่อศาลไทยและตัวแทนโจทก์ได้ฟ้องจำเลยต่อศาลไทยแล้วจึงเป็นกรณีที่มีคดีค้างพิจารณาอยู่ในศาลไทยจำเลยให้การและฟ้องแย้งโจทก์ในขณะเดียวกันได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 7(1) ซึ่งเป็นบทบัญญัติยกเว้นมาตรา 4(3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3012/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำขอรับชำระหนี้เกินกำหนดในคดีล้มละลาย: บทบัญญัติกฎหมายเป็นพิเศษและผลกระทบต่อความเป็นธรรม
เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้เมื่อพ้นกำหนดเวลา 2 เดือนอ้างว่าไม่ทราบคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในราชกิจจานุเบกษาและในหนังสือพิมพ์รายวันโดยสุจริต ดังนี้ เท่ากับเป็นการขยายเวลาตาม พระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 91 ออกไป ซึ่งเจ้าหนี้อื่นและลูกหนี้อาจไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ทำได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2942/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ไม่เป็นการให้โดยเสน่หา สิทธิเรียกคืนการให้ไม่มี
การที่โจทก์ให้ที่พิพาทแก่จำเลยซึ่งเป็นบุตรเป็นการให้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความเพื่อระงับข้อพิพาทระหว่างโจทก์กับภริยาซึ่งเป็นมารดาของจำเลยและต่อมาเมื่อโจทก์ไม่โอนที่พิพาทอีกสองแปลงตามคำพิพากษาตามยอมศาลก็พิพากษาให้โจทก์โอนใส่ชื่อจำเลยเป็นเจ้าของลักษณะการให้ของโจทก์ไม่ใช่เป็นการให้โดยเสน่หาโจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุจำเลยประพฤติเนรคุณ
of 43