พบผลลัพธ์ทั้งหมด 430 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 84/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แก้ไขจำนวนเงินพิพากษาที่ผิดพลาด: ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขจำนวนเงินในคำพิพากษาให้ถูกต้องตามที่ฟ้องและพยานหลักฐานนำสืบ
คำพิพากษาศาลชั้นต้นพิมพ์ตัวเลขจำนวนเงินผิด โจทก์ยื่นคำร้องในชั้นฎีกา ศาลฎีกาแก้จำนวนเงินที่พิมพ์ผิดได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 45/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมรสในต่างประเทศที่มีอายุยังไม่บรรลุนิติภาวะ และการบังคับใช้กฎหมายต่างประเทศในประเทศไทย
โจทก์สมรสในประเทศจีนเมื่ออายุ 10 ปี กับหญิงอายุ 12 ปี ซึ่งถูกต้องไม่มีกฎหมายห้ามในประเทศจีนในขณะนั้น เป็นการสมรสที่ชอบด้วย พระราชบัญญัติว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมาย พ.ศ. 2481 มาตรา 20 บุตรของโจทก์เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่ขัดต่อ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีตามข้อตกลงใหม่: สิทธิในการเลือกวิธีการบังคับคดีเป็นสิทธิของคู่ความ
ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่า โจทก์ทั้งสองมีสิทธิในที่นาพิพาท 2 ใน 3 ส่วน ให้จำเลยไปยื่นขอแบ่งยกที่นาให้แก่โจทก์ทั้งสอง หากจำเลยไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย แต่โจทก์จำเลยไม่อาจตกลงแบ่งแยกที่นาพิพาทได้ จึงไปตกลงต่อหน้าศาลชั้นต้นซึ่งทำหน้าที่บังคับคดี โดยแถลงขอให้ดำเนินการยึดที่นาพิพาทมาขายทอดตลอดแล้วแบ่งเงินกันตามส่วน ข้อตกลงดังกล่าวเป็นการกำหนดการบังคับคดีด้วยวิธีใหม่ ซึ่งชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364 จนศาลชั้นต้นรับรู้และรับบังคับให้แล้ว ก็ต้องเป็นไปตามข้อตกลงนั้น เพราะการบังคับคดีเป็นเรื่องที่แล้วแต่ใจสมัครของโจทก์จำเลย การที่โจทก์ทั้งสองแถลงศาลใหม่ยอมแบ่งที่นาพิพาท โดยให้สิทธิจำเลยเลือกเอาส่วนใดก็ได้ แต่จำเลยมิได้ตกลงด้วยนั้น ไม่เป็นเหตุให้ข้อตกลงที่โจทก์จำเลยให้ดำเนินการยึดที่นาพิพาทขายทอดตลาดแล้วแบ่งเงินกันตามส่วนต้องเปลี่ยนแปลงไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีตามข้อตกลงของคู่ความ: สิทธิในการเลือกวิธีการบังคับคดีและการเปลี่ยนแปลงข้อตกลง
ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่า โจทก์ทั้งสองมีสิทธิใน ที่นาพิพาท 2 ใน 3 ส่วน ให้จำเลยไปยื่นขอแบ่งแยกที่นาให้แก่โจทก์ทั้งสอง หากจำเลยไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย แต่โจทก์จำเลย ไม่อาจตกลงแบ่งแยกที่นาพิพาทได้ จึงไปตกลงต่อหน้า ศาลชั้นต้นซึ่งทำหน้าที่บังคับคดี โดยแถลงขอให้ดำเนินการ ยึดที่นาพิพาทมาขายทอดตลาดแล้วแบ่งเงินกันตามส่วน ข้อตกลงดังกล่าวเป็นการกำหนดการบังคับคดีด้วยวิธีใหม่ ซึ่งชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364 จนศาลชั้นต้นรับรู้และรับบังคับให้แล้ว ก็ต้องเป็นไป ตามข้อตกลงนั้นเพราะการบังคับคดีเป็นเรื่องที่แล้วแต่ใจสมัคร ของโจทก์จำเลย การที่โจทก์ทั้งสองแถลงศาลใหม่ยอม แบ่งที่นาพิพาท โดยให้สิทธิจำเลยเลือกเอาส่วนใดก็ได้ แต่จำเลยมิได้ตกลงด้วยนั้น ไม่เป็นเหตุให้ข้อตกลงที่โจทก์ จำเลยให้ดำเนินการยึดที่นาพิพาทขายทอดตลาดแล้วแบ่ง เงินกันตามส่วนต้องเปลี่ยนแปลงไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจสอบสวนคดีอาญาเมื่อสถานที่เกิดเหตุไม่ชัดเจน
ที่เกิดเหตุไม่แน่ว่าอยู่ในท้องที่ใดระหว่าง 2 ท้องที่พนักงานสอบสวนท้องที่หนึ่งในสองท้องที่นั้นมีอำนาจสอบสวนได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา19(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาฐานทำให้เสียทรัพย์ต้องระบุรายละเอียดการกระทำที่ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย หากฟ้องไม่ชัดเจน ศาลยกฟ้อง
ฟ้องบรรยายว่าจำเลยเข้าไปและปิดกั้นตึกแถวของโจทก์ แล้วจำเลยทำให้ทรัพย์สิ่งของของโจทก์ที่อยู่ในตึกแถวเสียหาย โดยมิได้บรรยายชัดแจ้งว่าจำเลยกระทำการใดแก่ทรัพย์สิ่งของต่าง ๆ ของโจทก์ให้เสียหาย ลำพังจำเลยเข้าไปและปิดกั้นตึกแถวดังกล่าวย่อมไม่ทำให้เห็นได้ว่าได้ก่อให้เกิดความเสียหาย ทำลายหรือทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์แก่ทรัพย์สิ่งของต่าง ๆ ของโจทก์ ความเสียหายของแบตเตอรี่และอาคารบูดเน่านั้นเป็นไปตามสภาพของทรัพย์นั้นเอง หาใช่เกิดจากการกระทำของจำเลยไม่ ดังนี้ ถือได้ว่าฟ้องโจทก์ไม่ระบุถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาฐานทำให้เสียทรัพย์ต้องระบุการกระทำที่ทำให้ทรัพย์เสียหายชัดเจน มิใช่แค่การบุกรุกและปิดกั้นสถานที่
ฟ้องบรรยายว่า.จำเลยเข้าไปและปิดกั้นตึกแถวของโจทก์แล้วจำเลยทำให้ทรัพย์สิ่งของของโจทก์ที่อยู่ในตึกแถวเสียหาย โดยมิได้บรรยายชัดแจ้งว่าจำเลยกระทำการใดแก่ทรัพย์สิ่งของต่างๆ ของโจทก์ให้เสียหาย ลำพังจำเลยเข้าไปและปิดกั้นตึกแถวดังกล่าว ย่อมไม่ทำให้เห็นได้ว่าได้ก่อให้เกิดความเสียหาย ทำลายหรือทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์แก่ทรัพย์สิ่งของต่างๆของโจทก์ ความเสียหายของแบตเตอรี่และอาหารบูดเน่านั้นเป็นไปตามสภาพของทรัพย์นั้นเอง หาใช่เกิดจากการกระทำของจำเลยไม่ ดังนี้ ถือได้ว่า ฟ้องโจทก์ไม่ระบุถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลย กระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3117/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรวมพิจารณาความผิดหลายกระทง และการยกประโยชน์ให้จำเลยเมื่อข้อเท็จจริงยังไม่ชัดเจน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืนพร้อมด้วยกระสุนปืนกับลูกระเบิดไว้ในครอบครอง เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองซึ่งเป็นความผิดกระทงหนึ่งนั้น กองรวมอยู่กับลูกระเบิดอันเป็นความผิดอีกกระทงหนึ่งที่จำเลยฎีกาขึ้นมา ในเมื่อรูปคดียังเป็นที่สงสัยว่าจำเลยอาจจะมิได้มีเจตนายึดถือลูกระเบิดนั้นไว้เพื่อตน และยกประโยชน์ให้จำเลยเช่นนี้ ศาลฎีกามีอำนาจยกฟ้องข้อหาฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนซึ่งเป็นกระทงความผิดที่คู่ความมิได้ฎีกาได้ด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3117/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานมีอาวุธและวัตถุระเบิด หากข้อเท็จจริงยังไม่ชัดเจน ศาลมีอำนาจยกฟ้องได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืนพร้อมด้วยกระสุนปืนกับลูกระเบิดไว้ในครอบครอง เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองซึ่งเป็นความผิดกระทงหนึ่งนั้น กองรวมอยู่กับลูกระเบิดอันเป็นความผิดอีกกระทงหนึ่งที่จำเลยฎีกาขึ้นมาในเมื่อรูปคดียังเป็นที่สงสัยว่าจำเลยอาจจะมิได้มีเจตนายึดถือลูกระเบิดนั้นไว้เพื่อตนและยกประโยชน์ให้จำเลยเช่นนี้ ศาลฎีกามีอำนาจยกฟ้องข้อหาฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนซึ่งเป็นกระทงความผิดที่คู่ความมิได้ฎีกาได้ด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 185
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3114/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดิน: การบอกกล่าวความพร้อมชำระหนี้ของผู้ซื้อถือเป็นการขอปฏิบัติการชำระหนี้ เจ้าหนี้มีหน้าที่ต้องเสนอการชำระหนี้ตอบแทน
โจทก์จำเลยทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินโดยตกลงจะชำระราคาและจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์กันภายในกำหนด 6 เดือน การที่โจทก์ผู้จะซื้อได้นัดหมายให้จำเลยไปทำนิติกรรมโอนขายที่ดินณ สำนักงานที่ดินภายในกำหนด 6 เดือนแล้ว ถือได้ว่าโจทก์ผู้เป็นลูกหนี้ได้บอกกล่าวแก่จำเลยผู้เป็นเจ้าหนี้แล้วว่าได้เตรียมการที่จะชำระหนี้ไว้พร้อมแล้ว ให้จำเลยผู้เป็นเจ้าหนี้รับชำระหนี้นั้นคำบอกกล่าวของโจทก์จึงเสมอกับคำขอปฏิบัติการชำระหนี้แล้ว จำเลยผู้เป็นเจ้าหนี้มีหน้าที่ต้องเสนอที่จะทำการชำระหนี้ตอบแทน เมื่อจำเลยไม่กระทำ จำเลยจึงได้ชื่อว่าผิดนัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 210