คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ไพศาล สว่างเนตร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 728 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2904/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างต่อการละเมิดของลูกจ้างขณะปฏิบัติงาน แม้ลูกจ้างจะเบี่ยงเบนจากระเบียบ
จำเลยที่ 1 นำรถออกไปขนขยะอันเป็นการกระทำในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 หน้าที่ของจำเลยที่ 1 เริ่มตั้งแต่นำรถออกจากอู่ของจำเลยที่ 2 และจะสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อนำรถเข้าจอดที่อู่ตามเดิมเมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถไปธุระส่วนตัวในระหว่างออกไปปฏิบัติงานตามหน้าที่และกระทำละเมิดต่อโจทก์ภายในเส้นทางที่ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดในทางการที่จำเลยที่ 2 จ้างจำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1
ระเบียบเกี่ยวกับการใช้รถเป็นวิธีปฏิบัติระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ไม่สามารถนำมาอ้างอิงเพื่อปฏิเสธความรับผิดซึ่งมีต่อบุคคลภายนอกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2904/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างต้องรับผิดชอบต่อการละเมิดของลูกจ้าง แม้ลูกจ้างจะฝ่าฝืนระเบียบ หากการกระทำเกิดขึ้นระหว่างปฏิบัติงานตามหน้าที่
จำเลยที่ 1 นำรถออกไปขนขยะอันเป็นการกระทำในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 หน้าที่ของจำเลยที่ 1 เริ่มตั้งแต่นำรถออกจากอู่ของจำเลยที่ 2 และจะสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อนำรถเข้าจอดที่อู่ตามเดิม เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถไปธุระส่วนตัวในระหว่างออกไปปฏิบัติงานตามหน้าที่และกระทำละเมิดต่อโจทก์ภายในเส้นทางที่ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดในทางการที่จำเลยที่ 2 จ้าง จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1
ระเบียบเกี่ยวกับการใช้รถเป็นวิธีปฏิบัติระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ไม่สามารถนำมาอ้างอิงเพื่อปฏิเสธความรับผิดซึ่งมีต่อบุคคลภายนอกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2870/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้องต้องมีเหตุผลตามกฎหมายและข้อเท็จจริงที่พิจารณา
คำสั่งศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ต้องอยู่ภายใต้บังคับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186โดยต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความ และเหตุผลในการตัดสินทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย จึงจะเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2870/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้องต้องมีเหตุผลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186 ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
คำสั่งศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องต้องอยู่ภายใต้บังคับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186 โดยต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความและเหตุผลในการตัดสินทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายจึงจะเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2810/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีแรงงานและการพิจารณาคำร้องใหม่เมื่อจำเลยไม่ทราบกำหนดนัด
บทบัญญัติมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 ที่ว่า ในกรณีที่ศาลแรงงานมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาตามมาตรา 40 วรรคสอง หากจำเลยมาแถลงให้ศาลแรงงานทราบถึงความจำเป็นที่ไม่อาจมาศาลได้ภายในกำหนด 7 วัน นับแต่วันที่ศาลแรงงานมีคำสั่ง ศาลแรงงานมีอำนาจไต่สวนถึงเหตุแห่งความจำเป็นนั้นได้และหากเห็นเป็นการสมควร ให้ศาลแรงงานมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งตามมาตรา 40 นั้นใหม่ เสมือนหนึ่งมิได้เคยมีกระบวนพิจารณาเช่นว่านั้น เป็นกรณีที่จำเลยได้รับหมายเรียกและกำหนดนัดพิจารณาแล้ว หากจำเลยอ้างว่าจำเลยไม่ทราบกำหนดนัดพิจารณาเพราะสถานที่ส่งสำเนาคำฟ้องและหมายเรียกไม่ใช่ภูมิลำเนาแท้จริงของจำเลยกรณีต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2810/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีแรงงานและการพิจารณาคำร้องใหม่เมื่อจำเลยไม่ทราบกำหนดนัด
บทบัญญัติมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 ที่ว่า ในกรณีที่ศาลแรงงานมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาตามมาตรา 40 วรรคสอง หากจำเลยมาแถลงให้ศาลแรงงานทราบถึงความจำเป็นที่ไม่อาจมาศาลได้ภายในกำหนด 7 วัน นับแต่วันที่ศาลแรงงานมีคำสั่ง ศาลแรงงานมีอำนาจไต่สวนถึงเหตุแห่งความจำเป็นนั้นได้และหากเห็นเป็นการสมควร ให้ศาลแรงงานมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งตามมาตรา 40 นั้นใหม่ เสมือนหนึ่งมิได้เคยมีกระบวนพิจารณาเช่นว่านั้น เป็นกรณีที่จำเลยได้รับหมายเรียกและกำหนดนัดพิจารณาแล้ว หากจำเลยอ้างว่าจำเลยไม่ทราบกำหนดนัดพิจารณาเพราะสถานที่ส่งสำเนาคำฟ้องและหมายเรียกไม่ใช่ภูมิลำเนาแท้จริงของจำเลยกรณีต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2809/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายค่าล่วงเวลาล่าช้าของรัฐวิสาหกิจ แม้มีเหตุผล แต่ยังต้องรับผิดดอกเบี้ย
เหตุที่จำเลยจ่ายค่าล่วงเวลาให้โจทก์ล่าช้าเป็นเพราะระเบียบการจ่ายเงินเป็นการภายในซึ่งจำเลยได้วางหลักเกณฑ์ไว้เอง จึงยกขึ้นเป็นข้ออ้างว่าเป็นพฤติการณ์ที่จำเลยมิต้องรับผิดหาได้ไม่ เมื่อจำเลยจ่ายค่าล่วงเวลาให้โจทก์หลังจากที่จำเลยได้รับเรื่องการขอเบิกค่าล่วงเวลาของโจทก์เกิน 30 วันนับแต่โจทก์ทำงานล่วงเวลาเสร็จสิ้นลงถือได้ว่าจำเลยผิดนัดนับแต่วันที่จำเลยได้รับเรื่องการขอเบิกค่าล่วงเวลาของโจทก์ต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงานฯ ข้อ 31 วรรคแรก แต่เมื่อจำเลยได้รับเรื่องการขอเบิกค่าล่วงเวลาจากโจทก์ จำเลยก็ได้พยายามดำเนินการโดยมิได้หน่วงเหนี่ยวหรือจงใจทำให้ล่าช้า จึงถือไม่ได้ว่าจำเลย จงใจผิดนัดโดยปราศจากเหตุผลอันสมควรอันเป็นผลให้ต้องจ่ายเงินเพิ่มตามประกาศดังกล่าว ข้อ 31 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2809/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายค่าล่วงเวลาล่าช้าของรัฐวิสาหกิจ แม้มีเหตุผลแต่ยังต้องจ่ายดอกเบี้ย
เหตุที่จำเลยจ่ายค่าล่วงเวลาให้โจทก์ล่าช้าเป็นเพราะระเบียบการจ่ายเงินเป็นการภายในซึ่งจำเลยได้วางหลักเกณฑ์ไว้เอง จึงยกขึ้นเป็นข้ออ้างว่าเป็นพฤติการณ์ที่จำเลยมิต้องรับผิดหาได้ไม่ เมื่อจำเลยจ่ายค่าล่วงเวลาให้โจทก์หลังจากที่จำเลยได้รับเรื่องการขอเบิกค่าล่วงเวลาของโจทก์เกิน 30 วัน นับแต่โจทก์ทำงานล่วงเวลาเสร็จสิ้นลงถือได้ว่าจำเลยผิดนัดนับแต่วันที่จำเลยได้รับเรื่องการขอเบิกค่าล่วงเวลาของโจทก์ ต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานฯ ข้อ 31วรรคแรก แต่เมื่อจำเลยได้รับเรื่องการขอเบิกค่าล่วงเวลาจากโจทก์ จำเลยก็ได้พยายามดำเนินการ โดยมิได้หน่วงเหนี่ยวหรือจงใจทำให้ล่าช้า จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยจงใจผิดนัดโดยปราศจากเหตุผลอันสมควรอันเป็นผลให้ต้องจ่ายเงินเพิ่มตามประกาศดังกล่าว ข้อ 31 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2707/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการถอนฟ้องคดี: ศาลมีอำนาจดุลพินิจ อนุญาตหรือไม่ก็ได้ ไม่ถือเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยไม่สุจริต
การที่ศาลจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้โจทก์ถอนคำฟ้องเป็นอำนาจของศาลที่จะใช้ดุลพินิจ และการที่โจทก์ขอถอนคำฟ้องเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย ถือไม่ได้ว่าโจทก์ดำเนินกระบวนพิจารณาโดยไม่สุจริตเพื่อเอาเปรียบในเชิงคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2707/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการอนุญาตถอนฟ้อง และการใช้สิทธิถอนฟ้องไม่ถือเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยไม่สุจริต
การที่ศาลจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้โจทก์ถอนคำฟ้องเป็นอำนาจของศาลที่จะใช้ดุลพินิจ และการที่โจทก์ขอถอนคำฟ้องเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย ถือไม่ได้ว่าโจทก์ดำเนินกระบวนพิจารณาโดยไม่สุจริตเพื่อเอาเปรียบในเชิงคดี
of 73