พบผลลัพธ์ทั้งหมด 59 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5104/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ต้องระบุเหตุคัดค้านคำพิพากษา มิใช่แค่อ้างเหตุขาดนัด
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่โดยอ้างเหตุแต่เพียงว่าจำเลยไม่ทราบถึงการนัดสืบพยานโจทก์ของศาลเลยเนื่องจากจำเลยต้องออกไปทำธุรกิจนอกบ้านเป็นประจำ มาทราบว่าศาลมีคำพิพากษาเมื่อได้รับคำบังคับของศาลแล้วเท่านั้น ดังนี้ เป็นการกล่าวแต่เพียงเหตุที่ตนได้ขาดนัด ไม่มีข้อความตอนใดที่กล่าวถึงข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้น จึงเป็นคำร้องขอที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำขอพิจารณาใหม่ต้องระบุเหตุขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดชัดเจน
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่1 กล่าวแต่เพียงว่าจำเลยทั้งสองไปประกอบอาชีพอยู่ที่อื่น จึงไม่ทราบฟ้องของโจทก์ซึ่งเป็นเพียงเหตุที่ทำให้จำเลยที่ 1 ขาดนัดเท่านั้นส่วนที่กล่าวว่าการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีของศาลเป็นการกระทำไปแต่เฉพาะโจทก์เพียงฝ่ายเดียวเป็นการกระทำลับหลังจำเลยจำเลยไม่มีโอกาสต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ คำพิพากษาจึงไม่ผูกพันจำเลยและบริวารนั้น ไม่ใช่ข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล เมื่อคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่ 1 ไม่ได้กล่าวถึงข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสองที่ศาลจะสั่งให้มีการพิจารณาใหม่ได้
เมื่อคำขอให้พิจารณาใหม่ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของกฎหมายศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะพิพากษาให้ยกคำขอนั้นได้
เมื่อคำขอให้พิจารณาใหม่ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของกฎหมายศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะพิพากษาให้ยกคำขอนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดและคำขอพิจารณาใหม่ต้องระบุเหตุขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดอย่างชัดเจน
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่1กล่าวแต่เพียงว่าจำเลยทั้งสองไปประกอบอาชีพอยู่ที่อื่น จึงไม่ทราบฟ้องของโจทก์ซึ่งเป็นเพียงเหตุที่ทำให้จำเลยที่1ขาดนัดเท่านั้นส่วนที่กล่าวว่าการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีของศาลเป็นการกระทำไปแต่เฉพาะโจทก์เพียงฝ่ายเดียวเป็นการกระทำลับหลังจำเลยจำเลยไม่มีโอกาสต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ คำพิพากษาจึงไม่ผูกพันจำเลยและบริวารนั้น ไม่ใช่ข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล เมื่อคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่ 1 ไม่ได้กล่าวถึงข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 วรรคสอง ที่ศาลจะสั่งให้มีการพิจารณาใหม่ได้
เมื่อคำขอให้พิจารณาใหม่ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของกฎหมายศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะพิพากษาให้ยกคำขอนั้นได้
เมื่อคำขอให้พิจารณาใหม่ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของกฎหมายศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะพิพากษาให้ยกคำขอนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3290/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาใหม่: ศาลต้องพิจารณาเฉพาะเหตุขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสิน ไม่จำเป็นต้องไต่สวนประเด็นทางชนะคดี
ในการที่ศาลจะมีคำสั่งอนุญาตตามคำขอให้พิจารณาใหม่หรือไม่นั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209วรรคหนึ่ง บัญญัติให้ศาลไต่สวนพิจารณาเพียงเหตุเดียวคือมีเหตุสมควร เชื่อว่าคู่ความฝ่ายที่ขาดนัดนั้นมาศาลไม่ได้หรือไม่เท่านั้น จึงไม่ชอบที่จะต้องทำการไต่สวนว่าคดีของคู่ความฝ่ายที่ขาดนัดมีทางชนะคดีอีกฝ่ายหนึ่งหรือไม่
คำพิพากษาศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ที่ 1 ได้จดทะเบียนโอนขายที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ที่ 2 ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ คำพิพากษาดังกล่าวจึงมีผลเพียงว่าโจทก์ที่ 2 ได้ซื้อที่ดินพิพาทจากโจทก์ที่ 1 โดยเสียค่าตอบแทนและได้จดทะเบียนสิทธิต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วเท่านั้นไม่มีผลเลยไปถึงว่าโจทก์ที่ 2 ได้รับความคุ้มครองตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสอง ดังนั้นเมื่อจำเลยขอให้พิจารณาใหม่โดยอ้างว่าจำเลยได้เข้าครอบครองที่ดินพิพาทโดยปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์แล้ว เพราะไม่เคยเช่าหรืออาศัยโจทก์ ซึ่งหากฟังได้ดังข้ออ้างจำเลยย่อมมีทางชนะคดีได้ คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยจึงกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นแล้ว ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ที่ 1 ได้จดทะเบียนโอนขายที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ที่ 2 ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ คำพิพากษาดังกล่าวจึงมีผลเพียงว่าโจทก์ที่ 2 ได้ซื้อที่ดินพิพาทจากโจทก์ที่ 1 โดยเสียค่าตอบแทนและได้จดทะเบียนสิทธิต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วเท่านั้นไม่มีผลเลยไปถึงว่าโจทก์ที่ 2 ได้รับความคุ้มครองตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสอง ดังนั้นเมื่อจำเลยขอให้พิจารณาใหม่โดยอ้างว่าจำเลยได้เข้าครอบครองที่ดินพิพาทโดยปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์แล้ว เพราะไม่เคยเช่าหรืออาศัยโจทก์ ซึ่งหากฟังได้ดังข้ออ้างจำเลยย่อมมีทางชนะคดีได้ คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยจึงกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นแล้ว ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3290/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาใหม่: ศาลต้องพิจารณาเฉพาะเหตุขาดนัดเท่านั้น การอ้างเหตุมีทางชนะคดีไม่จำเป็น
ในการที่ศาลจะมีคำสั่งอนุญาตตามคำขอให้พิจารณาใหม่หรือไม่นั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209 วรรคหนึ่ง บัญญัติให้ศาลไต่สวนพิจารณาเพียงเหตุเดียวคือ มีเหตุสมควรเชื่อว่าคู่ความฝ่ายที่ขาดนัดนั้นมาศาลไม่ได้หรือไม่เท่านั้น จึงไม่ชอบที่จะต้องทำการไต่สวนว่าคดีของคู่ความฝ่ายที่ขาดนัดมีทางชนะคดีอีกฝ่ายหนึ่งหรือไม่
คำพิพากษาศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ที่ 1 ได้จดทะเบียนโอนขายที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ที่ 2 ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ คำพิพากษาดังกล่าวจึงมีผลเพียงว่าโจทก์ที่ 2 ได้ซื้อที่ดินพิพาทจากโจทก์ที่ 1 โดยเสียค่าตอบแทนและได้จดทะเบียนสิทธิต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วเท่านั้นไม่มีผลเลยไปถึงว่าโจทก์ที่ 2 ได้รับความคุ้มครองตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสอง ดังนั้นเมื่อจำเลยขอให้พิจารณาใหม่โดยอ้างว่าจำเลยได้เข้าครอบครองที่ดินพิพาทโดยปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์แล้ว เพราะไม่เคยเช่าหรืออาศัยโจทก์ ซึ่งหากฟังได้ดังข้ออ้างจำเลยย่อมมีทางชนะคดีได้ คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยจึงกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นแล้ว ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ที่ 1 ได้จดทะเบียนโอนขายที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ที่ 2 ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ คำพิพากษาดังกล่าวจึงมีผลเพียงว่าโจทก์ที่ 2 ได้ซื้อที่ดินพิพาทจากโจทก์ที่ 1 โดยเสียค่าตอบแทนและได้จดทะเบียนสิทธิต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วเท่านั้นไม่มีผลเลยไปถึงว่าโจทก์ที่ 2 ได้รับความคุ้มครองตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสอง ดังนั้นเมื่อจำเลยขอให้พิจารณาใหม่โดยอ้างว่าจำเลยได้เข้าครอบครองที่ดินพิพาทโดยปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์แล้ว เพราะไม่เคยเช่าหรืออาศัยโจทก์ ซึ่งหากฟังได้ดังข้ออ้างจำเลยย่อมมีทางชนะคดีได้ คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยจึงกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นแล้ว ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอพิจารณาคดีใหม่ในคดีแพ่ง: เหตุผลความผิดพลาดในการส่งหมายเรียกและนิติกรรมเป็นโมฆะ
คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยสรุปใจความได้ว่า จำเลยไม่เคยร่วมออกเงินปลูกสร้างตึกลงในที่ดินที่เช่า ความจริงจำเลยว่าจ้างโจทก์สร้างบ้านให้จำเลยและจำเลยไม่เคยตกลงให้โจทก์เช่าบ้านสัญญาเช่าท้ายฟ้องเกิดจากจำเลยถูกโจทก์ใช้อุบายหลอกลวงว่าโจทก์จะนำไปใช้แสดงต่อบุคคลภายนอกเพื่อให้เชื่อถือ โดยจำเลยมิได้รับเงิน 10,000 บาทตามสัญญา สัญญาเกิดจากการแสดงเจตนาลวง เป็นโมฆะ ถ้าจำเลยได้เข้ามาต่อสู้คดีก็มีทางชนะคดีได้ ข้อความดังกล่าวจึงเป็นข้อที่คัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นโดยยกเหตุผลขึ้นประกอบโดยละเอียดและชัดแจ้งซึ่งถ้าจำเลยนำสืบฟังได้เช่นนั้น จำเลยย่อมชนะคดีคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยจึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำขอพิจารณาคดีใหม่ชอบด้วยกฎหมายเมื่อจำเลยอ้างได้ว่าสัญญาเช่าเกิดจากการถูกหลอกลวงและมีเหตุชนะคดี
คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยสรุปใจความได้ว่า จำเลยไม่เคยร่วมออกเงินปลูกสร้างตึกลงในที่ดินที่เช่า ความจริงจำเลยว่าจ้างโจทก์สร้างบ้านให้จำเลย และจำเลยไม่เคยตกลงให้โจทก์เช่าบ้าน สัญญาเช่าท้ายฟ้อง เกิดจากจำเลยถูกโจทก์ใช้อุบายหลอกลวงว่าโจทก์จะนำไปใช้แสดงต่อบุคคลภายนอกเพื่อให้เชื่อถือ โดยจำเลยมิได้รับเงิน 10,000 บาทตามสัญญา สัญญาเกิดจากการแสดงเจตนาลวง เป็นโมฆะ ถ้าจำเลยได้เข้ามาต่อสู้คดีก็มีทางชนะคดีได้ ข้อความดังกล่าวจึงเป็นข้อที่คัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้น โดยยกเหตุผลขึ้นประกอบโดยละเอียดและชัดแจ้ง ซึ่งถ้าจำเลยนำสืบฟังได้เช่นนั้น จำเลยย่อมชนะคดีคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยจึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1672/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องขอพิจารณาใหม่ต้องแสดงการคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดอย่างชัดเจน แม้เป็นการโต้แย้งข้อเท็จจริงและเหตุผล
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยซึ่งมีข้อความว่า ที่โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยค้างชำระค่าจ้างรับเหมาก่อสร้าง 2 งวด กับค่าก่อสร้างเพิ่มเติมนั้น ไม่เป็นความจริง หากจำเลยได้เข้ามาสู้คดีกับโจทก์ จำเลยมีทางชนะคดีโจทก์ได้แน่นอน แล้ว ต่อจากนั้นจำเลยก็ได้บรรยายมาในคำขอโดยละเอียดถึงสาเหตุที่จำเลยไม่จ่ายเงินค่าจ้างรับเหมาและค่าก่อสร้างเพิ่มเติมดังกล่าวเช่นนี้ ถือได้ว่า จำเลยได้คัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลโดยชัดแจ้งแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1672/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดในคำร้องขอพิจารณาใหม่ ต้องแสดงเหตุแห่งการคัดค้านที่ชัดเจนและมีรายละเอียด
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยซึ่งมีข้อความว่า ที่โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยค้างชำระค่าจ้างรับเหมาก่อสร้าง 2 งวด กับค่าก่อสร้างเพิ่มเติมนั้น. ไม่เป็นความจริง. หากจำเลยได้เข้ามาสู้คดีกับโจทก์. จำเลยมีทางชนะคดีโจทก์ได้แน่นอน. แล้ว. ต่อจากนั้นจำเลยก็ได้บรรยายมาในคำขอโดยละเอียดถึงสาเหตุที่จำเลยไม่จ่ายเงินค่าจ้างรับเหมาและค่าก่อสร้างเพิ่มเติมดังกล่าวเช่นนี้. ถือได้ว่า จำเลยได้คัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลโดยชัดแจ้งแล้ว.