พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,197 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3600/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท ยาแผนโบราณ: ศาลลงโทษฐานผลิตและขายโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ฟ้องแยกกรรม
การผลิตและการขายยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาต กับการผลิตและการขายยาแผนโบราณที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยานั้น จำเลยกระทำโดยมีเจตนาเดียวกันและยาแผนโบราณเป็นจำนวนเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวกัน แต่เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษฐานผลิตและขายยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งเป็นบทหนัก คำฟ้องของโจทก์มุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานผลิตและขายยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาตกระทงหนึ่ง กับฐานผลิตและขายยาแผนโบราณที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาอีกกระทงหนึ่ง คำฟ้องดังกล่าวมิได้แยกการกระทำเป็นการผลิตกรรมหนึ่งและเป็นการขายอีกกรรมหนึ่งดังที่โจทก์ฎีกา จึงเป็นฎีกาที่ขอให้ลงโทษจำเลยนอกเหนือไปจากคำฟ้องของโจทก์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3600/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: การผลิตและขายยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่ได้ขึ้นทะเบียน
การผลิตและการขายยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาต กับการผลิตและการขายยาแผนโบราณที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยานั้น จำเลยกระทำโดยมีเจตนาเดียวกันและยาแผนโบราณเป็นจำนวนเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวกัน แต่เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษฐานผลิตและขายยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งเป็นบทหนัก
คำฟ้องของโจทก์มุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานผลิตและขายยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาตกระทงหนึ่ง กับฐานผลิตและขายยาแผนโบราณที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาอีกกระทงหนึ่ง คำฟ้องดังกล่าวมิได้แยกการกระทำเป็นการผลิตกรรมหนึ่งและเป็นการขายอีกกรรมหนึ่งดังที่โจทก์ฎีกา จึงเป็นฎีกาที่ขอให้ลงโทษจำเลยนอกเหนือไปจากคำฟ้องของโจทก์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำฟ้องของโจทก์มุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานผลิตและขายยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาตกระทงหนึ่ง กับฐานผลิตและขายยาแผนโบราณที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาอีกกระทงหนึ่ง คำฟ้องดังกล่าวมิได้แยกการกระทำเป็นการผลิตกรรมหนึ่งและเป็นการขายอีกกรรมหนึ่งดังที่โจทก์ฎีกา จึงเป็นฎีกาที่ขอให้ลงโทษจำเลยนอกเหนือไปจากคำฟ้องของโจทก์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3600/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: การผลิตและขายยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่ได้ขึ้นทะเบียน
การผลิตและการขายยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาตกับการผลิตและการขายยาแผนโบราณที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยานั้น จำเลยกระทำโดยมีเจตนาเดียวกันและยาแผนโบราณเป็นจำนวนเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษฐานผลิตและขายยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งเป็นบทหนัก คำฟ้องของโจทก์มุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานผลิตและขายยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาตกระทงหนึ่ง กับฐานผลิตและขายยาแผนโบราณที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาอีกกระทงหนึ่ง คำฟ้องดังกล่าวมิได้แยกการกระทำเป็นการผลิตกรรมหนึ่งและเป็นการขายอีกกรรมหนึ่งดังที่โจทก์ฎีกา จึงเป็นฎีกาที่ขอให้ลงโทษจำเลยนอกเหนือไปจากคำฟ้องของโจทก์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3576/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้ทราบฐานะลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวแล้วยังยอมให้ก่อหนี้เพิ่มเติม เป็นเหตุต้องห้ามมิให้เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ตามพ.ร.บ.ล้มละลาย
หนี้ที่ธนาคารฟ้องให้เจ้าหนี้รับผิดเป็นหนี้ที่เกิดจากการจัดทำกิจการที่ลูกหนี้ตัวการมอบหมายให้เจ้าหนี้เป็นตัวแทนทำสัญญาเลตเตอร์ออฟเครดิตกับธนาคารเพื่อสั่งซื้อฝ้ายให้ลูกหนี้ เจ้าหนี้ย่อมเรียกให้ลูกหนี้รับผิดได้โดยตรง แต่เมื่อได้ความว่าลูกหนี้และเจ้าหนี้เป็นธุรกิจในเครือญาติกัน ลูกหนี้หมดวงเงินสินเชื่อสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศไม่ได้ ก. ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการลูกหนี้และเป็นกรรมการคนหนึ่งของเจ้าหนี้ได้ขอให้เจ้าหนี้สั่งซื้อฝ้ายให้ลูกหนี้ เช่นนี้ถือได้ว่าเจ้าหนี้ได้ทราบถึงฐานะของลูกหนี้แล้วว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัวแล้วยังยอมให้ลูกหนี้ก่อหนี้ดังกล่าวอีก จึงเป็นกรณีต้องห้ามมิให้เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ได้ตามพ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 94(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3576/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้จากการมอบหมายทำสัญญาซื้อฝ้าย: เจ้าหนี้ทราบฐานะลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวแล้วยังยอมให้ก่อหนี้เพิ่มเติม จึงถูกจำกัดสิทธิในการรับชำระหนี้
หนี้ที่ธนาคารฟ้องให้เจ้าหนี้รับผิดเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นจากการจัดทำกิจการที่ลูกหนี้ตัวการมอบหมายให้เจ้าหนี้เป็นตัวแทนทำสัญญาเลตเตอร์ออฟเครดิตกับธนาคารเพื่อสั่งซื้อฝ้ายให้ลูกหนี้เจ้าหนี้ย่อมเรียกให้ลูกหนี้รับผิดได้โดยตรง แต่เมื่อลูกหนี้และเจ้าหนี้เป็นธุรกิจในเครือญาติกัน ลูกหนี้หมดวงเงินสินเชื่อสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศไม่ได้ ก. ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการลูกหนี้และเป็นกรรมการคนหนึ่งของเจ้าหนี้ได้ขอให้เจ้าหนี้สั่งซื้อฝ่ายให้ลูกหนี้เช่นนี้ ถือได้ว่าเจ้าหนี้ได้ทราบถึงฐานะของลูกหนี้แล้วว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัวแล้วยังยอมให้ลูกหนี้ก่อหนี้ดังกล่าวอีก จึงเป็นกรณีต้องห้ามมิให้เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติ ล้มละลายฯ มาตรา 94(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3576/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้ทราบฐานะลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวแล้วยังยอมให้ก่อหนี้เพิ่มเติม จึงถูกห้ามมิให้ขอรับชำระหนี้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย
หนี้ที่ธนาคาร ฟ้องให้เจ้าหนี้รับผิดเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นจากการจัดทำกิจการที่ลูกหนี้ตัวการมอบหมายให้เจ้าหนี้เป็นตัวแทนทำสัญญาเลตเตอร์ออฟเครดิตกับธนาคาร เพื่อสั่งซื้อฝ้ายให้ลูกหนี้ เจ้าหนี้ย่อมเรียกให้ลูกหนี้รับผิดได้โดยตรง แต่เมื่อได้ความว่าบริษัทลูกหนี้และเจ้าหนี้เป็นธุรกิจ ในเครือญาติกันลูกหนี้หมดวงเงินสินเชื่อสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศไม่ได้ ก. ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการลูกหนี้และเป็นกรรมการคนหนึ่งของเจ้าหนี้ได้ขอให้เจ้าหนี้สั่งซื้อฝ่ายให้ลูกหนี้ เช่นนี้ ถือได้ว่าเจ้าหนี้ได้ทราบถึงฐานะของลูกหนี้แล้วว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัวแล้วยังยอมให้ลูกหนี้ก่อหนี้ดังกล่าวอีก จึงเป็นกรณีต้องห้ามมิให้เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ได้ตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย ฯ มาตรา 94(2).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3576/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้ทราบฐานะลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ย่อมไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย
หนี้ที่ธนาคารฟ้องให้เจ้าหนี้รับผิดเป็นหนี้ที่เกิดจากการจัดทำกิจการที่ลูกหนี้ตัวการมอบหมายให้เจ้าหนี้เป็นตัวแทนทำสัญญาเลตเตอร์ออฟเครดิตกับธนาคารเพื่อสั่งซื้อฝ้ายให้ลูกหนี้ เจ้าหนี้ย่อมเรียกให้ลูกหนี้รับผิดได้โดยตรง แต่เมื่อได้ความว่าลูกหนี้และเจ้าหนี้เป็นธุรกิจในเครือญาติกัน ลูกหนี้หมดวงเงินสินเชื่อสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศไม่ได้ ก. ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการลูกหนี้และเป็นกรรมการคนหนึ่งของเจ้าหนี้ได้ขอให้เจ้าหนี้สั่งซื้อฝ้ายให้ลูกหนี้ เช่นนี้ถือได้ว่าเจ้าหนี้ได้ทราบถึงฐานะของลูกหนี้แล้วว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัวแล้วยังยอมให้ลูกหนี้ก่อหนี้ดังกล่าวอีก จึงเป็นกรณีต้องห้ามมิให้เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ได้ตามพ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 94(2).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3497-3500/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดใช้เอกสารปลอม, นำเข้าอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, และสำแดงเท็จทางศุลกากร
จำเลยสั่งอาวุธปืนซึ่งเป็นของต้องจำกัดตามพระราชบัญญัติศุลกากร เข้ามาในราชอาณาจักรโดยใช้ใบอนุญาตอันเป็นหนังสือราชการปลอมแม้จำเลยจะได้ชำระค่าภาษีศุลกากรครบถ้วนเนื่องจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้าใจผิดไปว่าอาวุธปืนนั้นได้รับอนุญาตให้นำเข้าถูกต้องตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยก็เป็นการกระทำเพื่อหลีกเลี่ยงข้อห้ามหรือข้อจำกัดอันเกี่ยวกับของนั้นครบองค์ประกอบความผิดฐานนำของต้องจำกัดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 27 แล้ว การที่จำเลยลงลายมือชื่อเป็นผู้นำเข้าในใบขนสินค้าขาเข้าโดยระบุชนิดของอาวุธปืน จำนวน ขนาด ประเทศที่ผลิตหรือสั่งซื้อผิดไปจากใบอนุญาตที่แท้จริง ถือได้ว่าเป็นการสำแดงความเท็จหรือไม่สมบูรณ์ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 99 แล้วและเป็นความผิดโดยไม่ต้องคำนึงว่าจำเลยมีเจตนาหรือกระทำโดยประมาทเลินเล่อหรือหาไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3497-3500/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำเข้าอาวุธปืนโดยใช้เอกสารปลอม และสำแดงเท็จต่อศุลกากร มีความผิดตามกฎหมายอาญาและศุลกากร
จำเลยสั่งอาวุธปืนซึ่งเป็นของต้องจำกัดตามพระราชบัญญัติศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยใช้ใบอนุญาตอันเป็นหนังสือราชการปลอมแม้จำเลยจะได้ชำระค่าภาษีศุลกากรครบถ้วนเนื่องจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้าใจผิดไปว่าอาวุธปืนนั้นได้รับอนุญาตให้นำเข้าถูกต้องตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยก็เป็นการกระทำเพื่อหลีกเลี่ยงข้อห้ามหรือข้อจำกัดอันเกี่ยวกับของนั้นครบองค์ประกอบความผิดฐานนำของต้องจำกัดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา 27 แล้ว การที่จำเลยลงลายมือชื่อเป็นผู้นำเข้าในใบขนสินค้าขาเข้าโดยระบุชนิดของอาวุธปืน จำนวน ขนาด ประเทศที่ผลิตหรือสั่งซื้อผิดไปจากใบอนุญาตที่แท้จริง ถือได้ว่าเป็นการสำแดงความเท็จหรือไม่สมบูรณ์ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 99 แล้วและเป็นความผิดโดยไม่ต้องคำนึงว่าจำเลยมีเจตนาหรือกระทำโดยประมาทเลินเล่อหรือหาไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3497-3500/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำเข้าอาวุธปืนโดยใช้เอกสารปลอมและการสำแดงเท็จ มีความผิดตามกฎหมายอาญาและศุลกากร
จำเลยสั่งอาวุธปืนซึ่งเป็นของต้องจำกัดตามพระราชบัญญัติศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยใช้ใบอนุญาตอันเป็นหนังสือราชการปลอม แม้จำเลยจะได้ชำระค่าภาษีศุลกากรครบถ้วนเนื่องจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้าใจผิดไปว่าอาวุธปืนนั้นได้รับอนุญาตให้นำเข้าถูกต้องตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยก็เป็นการกระทำเพื่อหลีกเลี่ยงข้อห้ามหรือข้อจำกัดอันเกี่ยวกับของนั้นครบองค์ประกอบความผิดฐานนำของต้องจำกัดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา 27 แล้ว
การที่จำเลยลงลายมือชื่อเป็นผู้นำเข้าในใบขนสินค้าขาเข้าโดยระบุชนิดของอาวุธปืน จำนวน ขนาด ประเทศที่ผลิตหรือสั่งซื้อผิดไปจากใบอนุญาตที่แท้จริง ถือได้ว่าเป็นการสำแดงความเท็จหรือไม่สมบูรณ์ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 99 แล้วและเป็นความผิดโดยไม่ต้องคำนึงว่าจำเลยมีเจตนาหรือกระทำโดยประมาทเลินเล่อหรือหาไม่
การที่จำเลยลงลายมือชื่อเป็นผู้นำเข้าในใบขนสินค้าขาเข้าโดยระบุชนิดของอาวุธปืน จำนวน ขนาด ประเทศที่ผลิตหรือสั่งซื้อผิดไปจากใบอนุญาตที่แท้จริง ถือได้ว่าเป็นการสำแดงความเท็จหรือไม่สมบูรณ์ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 99 แล้วและเป็นความผิดโดยไม่ต้องคำนึงว่าจำเลยมีเจตนาหรือกระทำโดยประมาทเลินเล่อหรือหาไม่