คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ดุสิต วราโห

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,197 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2194/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงประมูลค่าเช่าที่ดินมีผลผูกพันจนคดีถึงที่สุด แม้จำเลยจะขอเลิกสัญญาระหว่างคดี
ระหว่างเป็นความกันในคดีก่อนเรื่องแย่งสิทธิครอบครองในที่พิพาทนั้นโจทก์จำเลยได้ตกลงประมูลเข้าทำสวนยางและ นาพิพาท โดยตกลงกันให้นำเงินที่ประมูลได้มาวางศาลจนกว่าคดีจะถึงที่สุดเพื่อให้ฝ่ายชนะคดีรับไป โจทก์เสนอราคาปีละ 16,000 บาท จำเลยเสนอราคาปีละ 16,500 บาทจึงเป็นฝ่ายประมูลได้ ศาลได้จดบันทึกข้อตกลงระหว่างคู่ความไว้ว่าจำเลยจะต้องนำเงินมาวางศาลภายในเดือนพฤษภาคมของทุกปีเริ่มตั้งแต่ปี 2520เป็นต้นไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุด เมื่อคดีก่อนได้ถึงที่สุดในชั้นศาลฎีกาโดยเพิ่งอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2523 และจำเลยได้ชำระค่าประมูลในปี 2520 แล้ว ก็มีหน้าที่ต้องชำระค่าประมูลสำหรับปี 2521, 2522 และ 2523 ตามข้อตกลงที่ทำไว้ต่อหน้าศาลซึ่งมีผลบังคับได้ ส่วนที่ข้อตกลงนั้นได้มีเงื่อนไขไว้ด้วยว่าหากจำเลยผิดนัดยอมให้โจทก์เข้าทำประโยชน์โดยนำเงินมาวางศาลปีละ16,000 บาทนั้น เป็นเงื่อนไขที่บังคับไว้ในกรณีที่จำเลยผิดนัดสำหรับค่าประมูลในปีเริ่มต้นคือในปี 2520 นั้นเอง แต่ปรากฏว่าจำเลยได้ชำระค่าประมูลในปี 2520 แล้ว ปัญหาที่โจทก์จะเข้าทำประโยชน์เสียเองในที่พิพาทจึงหมดไป
ที่โจทก์ฎีกาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเพิ่มขึ้นโดยรวมค่าจ้างทนายความค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตลอดจนการที่จำเลยทำให้ต้นยางของโจทก์เสียหายนั้น โจทก์มิได้กล่าวถึงข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายเกี่ยวกับค่าเสียหายเหล่านี้มาโดยชัดแจ้งในฎีกาว่า ศาลล่างพิพากษามาโดยไม่ชอบอย่างไร โดยเฉพาะโจทก์มิได้ กล่าวมาโดยชัดแจ้งตั้งแต่ในชั้นอุทธรณ์จนศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยให้มาแล้ว ฎีกาส่วนนี้จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2124/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิเรียกร้องในสัญญาเช่าซื้อและการขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย สิทธิสมบูรณ์ของผู้รับโอน
เดิม ธ. ทำสัญญาเช่าซื้อที่ดินกับจำเลยที่ 2 ต่อมา ธ. ได้โอนสิทธิตามสัญญาเช่าซื้อที่ดินดังกล่าวให้แก่ เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ได้ชำระค่าเช่าซื้อให้จำเลยที่ 2 จนครบถ้วนแล้ว แต่ยังไม่ทันได้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เช่าซื้อ จำเลยที่ 2 ก็ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ดังนี้หนี้ขอรับชำระจึงเป็นหนี้ที่มีมูลมาจากการเช่าซื้อที่ดินซึ่งเจ้าหนี้ได้รับโอนสิทธิเรียกร้องมาจาก ธ. ผู้เช่าซื้อเดิม อันเป็นหนี้ที่มูลแห่งหนี้เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จึงเป็นหนี้ที่ขอรับชำระได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 94 และเจ้าหนี้ เป็นผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องตามสัญญาเช่าซื้อนี้มาโดยชอบตามมาตรา 303 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และการโอนสิทธิเรียกร้องก็ทำโดยถูกต้องสมบูรณ์ตามมาตรา 306 โดย ธ. ผู้โอนได้บันทึกการโอนสิทธิเป็นหนังสือ และจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นลูกหนี้แห่งสิทธินั้นได้บันทึกยินยอมไว้เป็น หนังสือในสัญญาเช่าซื้อโดยแจ้งชัด เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้จึงมีสิทธิสมบูรณ์ในฐานะเป็นผู้รับโอนสิทธิตามสัญญาเช่าซื้อ โดยชอบ และกรณีไม่จำต้องมีการทำหนังสือสัญญาเช่าซื้อกัน ใหม่ระหว่างเจ้าหนี้ผู้รับโอนกับจำเลยที่ 2 ผู้ให้เช่าซื้ออีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2093/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานไม่เพียงพอฟังลงโทษคดีลักทรัพย์ ศาลฎีกายกฟ้องแม้จำเลยไม่ได้ฎีกา
เมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นคนร้ายลักทรัพย์ของผู้เสียหายไป แม้จำเลยที่ 2 จะไม่ได้ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องตลอดไปถึงจำเลยที่ 2 ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213,225 เพราะเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2078/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอยู่เวรป้องกันอัคคีภัยไม่ใช่การทำงานปกติ จึงไม่เข้าข่ายค่าล่วงเวลาหรือค่าทำงานในวันหยุด
'การทำงาน' ตามคำนิยามของค่าล่วงเวลาและค่าทำงานในวันหยุดตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน หมายถึงการทำงานตามปกติที่นายจ้างมอบหมายให้ลูกจ้างทำในกิจการของนายจ้าง เมื่อนายจ้างซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจมีคำสั่งให้ลูกจ้างอยู่เวรเพื่อป้องกันอัคคีภัยตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ อันเป็นหน้าที่พิเศษนอกเหนือจากกิจการตามปกติของนายจ้าง ลูกจ้างที่ต้องอยู่เวรเพื่อป้องกันอัคคีภัยจึงไม่มีสิทธิได้ค่าล่วงเวลาหรือค่าทำงานในวันหยุด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2078/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าล่วงเวลา/ทำงานในวันหยุด: งานเฝ้าระวังความปลอดภัยนอกเหนือจากงานปกติ ไม่เข้าข่ายต้องจ่ายค่าล่วงเวลา
'การทำงาน' ตามคำนิยามของค่าล่วงเวลาและค่าทำงานในวันหยุดตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน หมายถึงการทำงานตามปกติที่นายจ้างมอบหมายให้ลูกจ้างทำในกิจการของนายจ้าง เมื่อนายจ้างซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจมีคำสั่งให้ลูกจ้างอยู่เวรเพื่อป้องกันอัคคีภัยตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ อันเป็นหน้าที่พิเศษนอกเหนือจากกิจการตามปกติของนายจ้าง ลูกจ้างที่ต้องอยู่เวรเพื่อป้องกันอัคคีภัยจึงไม่มีสิทธิได้ค่าล่วงเวลาหรือค่าทำงานในวันหยุด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2050/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจอุทธรณ์ฎีกาในคดีผิดสัญญาประกัน: ผู้มีอำนาจต้องเป็นคู่ความโดยตรง
จำเลยขอประกันตัวเองเมื่อผิดสัญญาประกัน และศาลสั่งปรับจำเลยแล้วน้องจำเลยไม่มีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาแทน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1985/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าเกิน 3 ปี ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน มิฉะนั้นฟ้องบังคับคดีได้แค่ 3 ปี
สัญญาเช่าตึกแถวทั้งสองฉบับทำวันเดียวกัน มีกำหนดการเช่าเป็นเวลาติดต่อกันไปรวม 5 ปี 10 เดือนเป็นการเช่ามีกำหนดเวลาเกินกว่า 3 ปีขึ้นไปเมื่อมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่การเช่านั้นจะฟ้องร้องให้บังคับคดีได้เพียง 3 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538และการฟ้องร้องให้บังคับคดีดังกล่าวหมายความรวมถึงการที่ยกขึ้นกล่าวอ้างต่อสู้ให้บังคับคดีไปตามข้อกล่าวอ้างนั้นด้วย เพราะการบังคับคดีย่อมทำได้ด้วยกันทั้งสองฝ่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1924/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามเมื่อศาลอุทธรณ์แก้ไขโทษเล็กน้อย และหลักการรวมโทษจำคุกตามมาตรา 91
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์ จำคุก กระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวม 13 กระทง เป็นจำคุก 43 ปี 4 เดือน ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยเบียดบังทรัพย์ รายเดียวกัน ลงโทษตามบทเดิม เท่าเดิม แต่แก้เป็น14 กระทง รวมเป็นจำคุก 46 ปี 8 เดือนดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 คำว่า 'อัตราโทษ' ตามที่บัญญัติไว้ในอนุมาตราต่างๆ ของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ที่แก้ไขโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2526 นั้นหมายถึงอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตามที่กฎหมายกำหนดไว้หาได้หมายถึงอัตราโทษจำคุกอย่างสูงที่ศาลลงแก่จำเลยไม่ (วรรคสองวินิจฉัยโดยการประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2527)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1916/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือภาคทัณฑ์ถือเป็นการตักเตือน หากลูกจ้างกระทำผิดซ้ำ นายจ้างเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย และต้องคืนเงินประกันหากไม่มีความเสียหาย
หนังสือภาคทัณฑ์มีข้อความว่า "....ท่านได้ละทิ้งหน้าที่ดังนั้น จึงออกหนังสือนี้เพื่อเป็นการภาคทัณฑ์ท่านในความผิดดังกล่าว หากปรากฏว่าท่านฝ่าฝืนระเบียบอีก.....บริษัทจะเลิกจ้างท่านทันที" หนังสือนี้มีลักษณะเป็นการตักเตือนลูกจ้างในความผิดนั้นแล้ว เมื่อลูกจ้างกระทำผิดระเบียบข้อบังคับโดยละทิ้งหน้าที่ซ้ำอีก นายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
เงินประกันที่นายจ้างหักค่าจ้างของลูกจ้างไว้ ตามสัญญาจ้างนายจ้างจะริบได้ต่อเมื่อลูกจ้างผิดสัญญาและทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย เมื่อไม่ได้ความว่าการที่ลูกจ้างกระทำผิดระเบียบข้อบังคับเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างใดนายจ้างจึงไม่มีสิทธิริบเงินประกันตามสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1862/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาโทษจำคุกและประหารชีวิตในคดีปล้นทรัพย์และกักขังเรียกค่าไถ่ โดยมีข้อจำกัดในการเพิ่มโทษ
เมื่อจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคท้าย ประกอบด้วย มาตรา 340ตรี แต่เนื่องจากตาม มาตรา 340วรรคท้าย มีโทษถึงประหารชีวิต จึงไม่อาจวางโทษให้หนักขึ้นอีกกึ่งหนึ่งตามมาตรา 340ตรี ได้
of 120