พบผลลัพธ์ทั้งหมด 221 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2699/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลที่ไม่รับคำให้การไม่ใช่คำสั่งที่อุทธรณ์ได้ระหว่างพิจารณา
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งยกคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การไม่ใช่คำสั่งที่ไม่รับ หรือคืนคำคู่ความตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 หากแต่เป็นคำสั่งในระหว่างพิจารณาก่อนที่ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดี จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งนั้นในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2546/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าปรับกับการคิดดอกเบี้ยกรณีผิดสัญญา ค่าปรับครอบคลุมค่าเสียหายแล้ว
โจทก์ได้รับชดใช้ค่าปรับในการที่จำเลยไม่ชำระค่าจ้างงวดสองตามสัญญาเป็นเงินวันละ 100 บาทแล้ว โจทก์ก็ไม่ควรได้ดอกเบี้ยในการที่จำเลยไม่ชำระค่าจ้างนั้นอีก เพราะถือเป็นค่าเสียหายที่รวมอยู่ในค่าปรับนั้นอยู่แล้วโดยสภาพ โดยเฉพาะโจทก์มิได้พิสูจน์ค่าเสียหายของตนว่ามีจำนวนมากยิ่งกว่าค่าปรับประการใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2315/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตติชมด้วยความเป็นธรรม ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท แม้จะวิพากษ์วิจารณ์บุคคลสาธารณะ
จำเลยกล่าวถ้อยคำว่า หลวงพ่อวัดบึงและหลวงพ่อวัดธาตุใช้ประชาชนบังหน้าต่อต้านพระที่สุสาน เนื่องจากจำเลยไม่เห็นด้วยกับการกระทำของผู้เสียหายที่ต้องการขับไล่พระภิกษุ ย. ออกไปจากป่าช้าแห่งหนึ่ง จึงได้พูดวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นตามความรู้สึกนึกคิดของตน ถ้อยคำที่พูดก็มิได้รุนแรงนักทั้งเป็นเรื่องของส่วนรวมซึ่งเกี่ยวข้องกับประชาชนทั่วไปอันประชาชนย่อมมีสิทธิแสดงความคิดเห็นได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2315/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของผู้อื่นในประเด็นสาธารณะ โดยไม่มีเจตนาทำให้เสียชื่อเสียง ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
จำเลยกล่าวถ้อยคำว่า หลวงพ่อวัดบึงและหลวงพ่อวัดธาตุใช้ประชาชนบังหน้าต่อต้านพระที่สุสาน เนื่องจากจำเลยไม่เห็นด้วยกับการกระทำของผู้เสียหายที่ต้องการขับไล่พระภิกษุ ย. ออกไปจากป่าช้าแห่งหนึ่ง จึงได้พูดวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นตามความรู้สึกนึกคิดของตน ถ้อยคำที่พูดก็มิได้รุนแรงนักทั้งเป็นเรื่องของส่วนรวมซึ่งเกี่ยวข้องกับประชาชนทั่วไปอันประชาชนย่อมมีสิทธิแสดงความคิดเห็นได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการติชมด้วยความเป็นธรรม อันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2276-2277/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งรื้อถอนอาคารแทนจำเลยและให้จำเลยรับผิดชอบค่าใช้จ่าย เป็นการบังคับตามคำพิพากษา
คำพิพากษาที่ว่าหากจำเลยไม่รื้อถอนอาคารไป ก็ให้โจทก์รื้อถอนแทน โดยให้จำเลยเสียค่าใช้จ่าย เป็นวิธีการบังคับจำเลยให้ปฏิบัติตามคำพิพากษา ที่ให้จำเลยรื้อถอนอาคารไป ดังที่บัญญัติไว้ ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 213 คำพิพากษาจึงชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2261/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินให้โดยยังมิได้จดทะเบียน: สิทธิในมรดก
การที่เจ้าของที่ดินได้มายื่นเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมต่อทางอำเภอยกที่ดินซึ่งมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้จำเลย ก็ย่อมแสดงให้เห็นว่าเจ้าของที่ดินประสงค์จะยกที่ดินดังกล่าวให้แก่จำเลยโดยการทำนิติกรรมและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หาใช่เป็นกรณีเจตนาสละการครอบครองไม่ จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 525 และประมวลกฎหมายที่ดินพ.ศ.2497 มาตรา 4ทวิ เมื่อการให้ยังไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เนื่องจากเจ้าของที่ดินถึงแก่กรรมเสียก่อนนิติกรรมการให้ก็ย่อมไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายที่ดินดังกล่าวจึงยังเป็นมรดกของเจ้าของที่ดินอยู่ โจทก์จึงมีสิทธิขอแบ่งได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2217/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าสินไหมทดแทนการขาดไร้อุปการะจากละเมิด ผู้ตายมีฐานะยากดีมีจนอย่างไรไม่สำคัญ
จำเลยเป็นฝ่ายทำละเมิดทำให้สามีโจทก์และบิดาโจทก์ถึงแก่ความตาย เมื่อสามีตายภริยาย่อมขาดไร้อุปการะจากสามีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1461 และเมื่อบิดาตายบุตรผู้เยาว์ก็ย่อมขาดไร้อุปการะจากบิดาตามมาตรา 1564โจทก์ในคดีนี้ซึ่งเป็นภริยาและบุตรผู้เยาว์ของผู้ตายจึงย่อมมีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อการขาดไร้อุปการะนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 วรรคสามโดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าผู้ตายจะมีฐานะยากดีมีจนอย่างไรเพราะเป็นสิทธิที่ผู้เสียหายจะพึงได้รับชดใช้ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2175/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพัน ยุติข้อพิพาท แม้จะมีข้อโต้แย้งเรื่องความผิดสัญญาหรือความเสียหาย
จำเลยได้ว่าจ้างโจทก์ให้ก่อสร้างอาคารเรียน โจทก์ใช้เหล็กเส้นผิดขนาดจากที่กำหนดไว้ในแบบในการก่อสร้างอาคารเรียนดังกล่าว โจทก์จึงบันทึกข้อความไว้ว่ายอมให้จำเลยหักเงินเป็นค่าปรับตามจำนวนที่จำเลยกำหนดไว้ได้และจำเลยยินยอมให้โจทก์ดำเนินการก่อสร้างต่อไป โดยไม่ต้องรื้ออาคารที่ก่อสร้างไปแล้ว ดังนี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องเบี้ยปรับที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 379 แต่เป็นกรณีที่โจทก์จำเลยมาทำความตกลงระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นแล้วซึ่งมีผลเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 จำเลยย่อมมีสิทธิหักเงินตามจำนวนที่กำหนดไว้ ปัญหาว่าโจทก์ผิดสัญญาหรือไม่หรือจำเลยเสียหายมากน้อยเพียงใด ย่อมเป็นอันยุติไปแล้วโดยผลของสัญญาประนีประนอมยอมความ ไม่มีเหตุที่จะรื้อฟื้นขึ้นมาพิจารณาอีก
การที่โจทก์บันทึกไว้ว่ายินดีให้หักเงินจำนวน 119,412 บาทก่อนหมายความว่าโจทก์ยอมให้หักไว้ก่อนตามจำนวนดังกล่าว โดยโจทก์ยินดีรับไปเฉพาะส่วนที่เหลือจากหักแล้ว
การที่โจทก์บันทึกไว้ว่ายินดีให้หักเงินจำนวน 119,412 บาทก่อนหมายความว่าโจทก์ยอมให้หักไว้ก่อนตามจำนวนดังกล่าว โดยโจทก์ยินดีรับไปเฉพาะส่วนที่เหลือจากหักแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2164-2173/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเล่นแชร์ดอกตาม: สิทธิเรียกร้องดอกเบี้ยของผู้รับเงินในงวดหลัง
การเล่นแชร์ประเภทดอกตาม คือผู้ที่เปียได้ไปแล้วจะต้องส่งดอกเบี้ยพร้อมกับต้นเงินแชร์เป็นงวด ๆ จนกว่าจะครบกำหนดนั้น ผู้เล่นที่มีสิทธิรับเงินในงวดต่อ ๆ ไปย่อมมีสิทธิได้ดอกเบี้ยในการประมูลครั้งก่อน ๆ เป็นผลประโยชน์ตอบแทน การให้ดอกเบี้ยดังกล่าวจึงเป็นข้อตกลงอย่างหนึ่งของสัญญาเล่นแชร์ ผู้มีสิทธิรับค่าแชร์ในภายหลังย่อมมีสิทธิเรียกได้ตามสัญญานั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1946/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับมูลหนี้ในคดีกู้ยืมเงิน ไม่เป็นการนำสืบนอกประเด็น หากเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทว่าจำเลยกู้เงินหรือไม่
ก่อนเริ่มสืบพยาน ศาลชั้นต้นได้ให้จำเลยตรวจดูสัญญากู้เอกสารหมาย จ.1 แล้ว จำเลยแถลงว่าจำเลยเป็นผู้เขียนสัญญาและลงชื่อเป็นผู้กู้จริงแต่หนี้ตามสัญญาเป็นค่าดอกเบี้ยเงินกู้จำนวนหนึ่งที่จำเลยกู้เงินโจทก์ และโจทก์คิดดอกเบี้ยร้อยละสามต่อเดือน จำเลยไม่มีเงินชำระจึงทำสัญญากู้ให้ไว้ การที่จำเลยนำสืบถึงมูลหนี้ว่าเป็นมาอย่างไรนั้น ก็เพื่อแสดงว่าความจริงจำเลยไม่ได้กู้เงินและรับเงินตามสัญญากู้ไปจากโจทก์ จึงรวมอยู่ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดว่า จำเลยกู้เงินโจทก์หรือไม่นั่นเอง จึงไม่เป็นการนำสืบนอกประเด็น