คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
พูน จักรเสน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 266 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1660/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิเสธข้อกล่าวหาเป็นผู้กู้ร่วม และการนำสืบพยานบุคคลเพื่อพิสูจน์สถานะในสัญญา
จำเลยที่ 2 ให้การว่าไม่เคยกู้เงินโจทก์ เซ็นชื่อในหนังสือสัญญากู้ในฐานะเป็นภริยาของจำเลยที่ 1 เท่านั้น คำให้การดังกล่าวเท่ากับปฏิเสธฟ้องโจทก์ว่า จำเลยที่ 2 ไม่ได้เป็นคู่สัญญากับโจทก์ในฐานะเป็นผู้กู้ร่วม กับจำเลยที่ 1 คดีจึงมีประเด็นตามข้อต่อสู้ของจำเลยที่ 2 ที่ศาล จะต้องพิจารณาให้ได้ความต่อไป ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานเป็นการไม่ถูกต้อง
เมื่อข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้แน่ชัดว่า จำเลยที่ 2 ลงชื่อในเอกสารสัญญากู้ ในฐานะเป็นผู้กู้ร่วมกับจำเลยที่1 หรือลงชื่อในฐานะเป็นภริยาผู้ให้ความยินยอม การนำสืบในประเด็นตามข้อต่อสู้ของจำเลยที่ 2 จึงไม่เป็นการต้องห้ามมิให้ นำสืบพยานบุคคลแทนพยานเอกสาร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1652/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานสำคัญแม้ไม่เป็นไปตามรูปแบบ หากเป็นประโยชน์ต่อความยุติธรรม
แม้โจทก์จะระบุพยานฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติ มาตรา87(2) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แต่ถ้าศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี คือตัวโจทก์กับสัญญาเช่า ศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1590/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาซ้ำ: คำพิพากษายกฟ้องเนื่องจากฟ้องไม่ชัดเจน ไม่ถือเป็นคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาด
คดีก่อนศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยเห็นว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม บรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาซึ่งเกิดการกระทำผิดในอนาคต ไม่พอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) ไม่ได้ยกฟ้องโจทก์เพราะเหตุต่างๆ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 ในคดีก่อนจึงยังไม่มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้อง โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ใหม่ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามข่มขืนกระทำชำเราเด็ก: การล่วงละเมิดทางเพศโดยไม่สำเร็จความใคร่
ผู้เสียหายอายุ 5 ขวบเศษ จำเลยได้พูดขู่บังคับผู้เสียหายให้ถอดกางเกงออกและจำเลยได้เอาอวัยวะเพศของจำเลยใส่ที่อวัยวะเพศผู้เสียหายแล้วกระทำยิกๆ เมื่อผู้เสียหายรู้สึกเจ็บที่ของลับ จะร้องให้คนช่วย จำเลยได้ใช้ผ้าปิดปากไว้ ไม่ปรากฏว่าอวัยวะเพศของจำเลยล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเรา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1582/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยทรัพย์สินอื่นแทนเงิน: การนำสืบและข้อจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่ง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 บัญญัติห้ามการนำสืบเฉพาะกรณีการใช้เงิน ไม่ห้ามการนำสืบกรณีใช้ทรัพย์สินอย่างอื่นชำระหนี้แทนเงิน มาตรา 321 จึงบัญญัติว่าถ้าเจ้าหนี้ยอมชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระหนี้ที่ได้ตกลงกันไว้ ท่านว่าหนี้นั้นเป็นอันระงับสิ้นไป และมาตรา 656 วรรคสองก็บัญญัติถึงการที่ผู้ให้กู้ยืมยอมรับเอาสิ่งของหรือทรัพย์สินอย่างอื่นเป็นการชำระหนี้แทนเงินที่กู้ยืมไว้ด้วย จำเลยจึงนำสืบว่าได้เอาที่ดินตีใช้หนี้เงินที่กู้โจทก์ไปแล้วได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1568/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องหย่าเนื่องจากภริยาออกจากบ้านโดยไม่กลับ และแจ้งให้จัดการเรื่องหย่า ถือเป็นการละทิ้งร้างเกินกว่าหนึ่งปี
ภริยาออกจากบ้านที่อยู่กินกับสามีไปอยู่ที่อื่น ไม่กลับตามคำขอร้องของสามี และบอกให้สามีจัดการเรื่องหย่า ภริยาจงใจละทิ้งร้างไปเกิน 1 ปีสามีฟ้องหย่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1565/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดอกเบี้ยเกินอัตรา: โมฆะเฉพาะดอกเบี้ย, ชำระหนี้ตามอำเภอใจไม่อ้างอิงได้, ใช้ประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 329
การกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรานั้นตกเป็นโมฆะเฉพาะดอกเบี้ยเท่านั้น ต้นเงินหาตกเป็นโมฆะไม่
เมื่อจำเลยนำสืบไม่ได้ว่าเงินที่ยังค้างชำระโจทก์อยู่จำนวนใดเป็นดอกเบี้ยและจำนวนใดเป็นต้นเงินกู้ ก็ต้องถือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 329 ว่าเงินที่จำเลยชำระแก่โจทก์ไปแล้วจำนวนหนึ่งนั้นต้องเอาใช้เป็นดอกเบี้ยเสียก่อน ส่วนจำนวนหนี้ที่เหลือถือว่าเป็นต้นเงินกู้ที่ยังค้างชำระ
เมื่อถือว่าจำเลยได้ชำระดอกเบี้ยไปแล้ว แม้จะฟังว่าเป็นดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมาย ก็เท่ากับเป็นการชำระหนี้ตามอำเภอใจ โดยที่รู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีความผูกพันต้องชำระ จำเลยไม่มีสิทธิยกขึ้นต่อสู้คดีให้หลุดพ้นความรับผิดไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1558/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากละเลยระเบียบการตรวจสอบลายเซ็นสั่งจ่ายข้าวสารและการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงาน
ระเบียบงานของโจทก์มีว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นหัวหน้ากองข้าวสาร มีหน้าที่กำหนดตัวบุคคลผู้มีอำนาจเซ็นสั่งจ่ายข้าวสาร และส่งตัวอย่างลายเซ็นชื่อของผู้มีอำนาจสั่งจ่ายข้าวสารไปให้แผนกคลังสินค้าเพื่อตรวจสอบก่อนที่จะจ่ายข้าวสาร แต่จำเลยที่ 1 ไม่มีหน้าที่ควบคุมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่แผนกคลังสินค้าที่มีหน้าที่จ่ายข้าวสารตามใบสั่ง จำเลยที่ 1 กำหนดตัวบุคคลซึ่งมีอำนาจเซ็นสั่งจ่ายข้าวสารแล้ว แต่ไม่ได้ส่งตัวอย่างลายเซ็นชื่อของผู้มีอำนาจเซ็นสั่งจ่ายไปให้แผนกคลังสินค้าได้มีผู้ปลอมลายเซ็นชื่อของผู้มีอำนาจสั่งจ่ายข้าวสารและเจ้าหน้าที่แผนกคลังสินค้าได้จ่ายข้าวสารไปตามใบสั่งซึ่งมีลายเซ็นปลอม ดังนี้การที่จำเลยที่ 1 ฝ่าฝืนระเบียบ ไม่ส่งตัวอย่างลายเซ็นของผู้ที่มีอำนาจสั่งจ่ายให้แผนกคลังสินค้าทราบ เพื่อตรวจสอบลายเซ็นนั้นไม่เป็นเหตุโดยตรงที่ทำให้มีบุคคลปลอมลายเซ็นของผู้มีอำนาจสั่งจ่าย จึงจะถือว่าจำเลยที่ 1 ประมาทเลินเล่อทำให้โจทก์เสียหายเพราะเหตุนี้ไม่ได้
จำเลยที่ 2 เป็นผู้ช่วยหัวหน้าคลังสินค้ากลาง มีหน้าที่จะต้องตรวจลายเซ็นชื่อผู้สั่งจ่ายในใบสั่งจ่ายข้าวสารตาม ระเบียบ การที่ไม่มีตัวอย่างลายเซ็นชื่อของผู้มีอำนาจสั่งจ่ายในใบสั่งจ่ายสินค้าที่แท้จริงไว้เพื่อตรวจสอบ โดยจำเลยที่ 2 มิได้เรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ซึ่งมีหน้าที่ส่งตัวอย่างลายเซ็นให้ส่งตัวอย่างลายเซ็นมาให้ ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ได้ละเลยไม่ปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าวอันเป็นการประมาทเลินเล่อมาตั้งแต่ต้น จำเลยที่ 2 มอบให้จำเลยที่ 4 ถึงที่ 7 ทำหน้าที่ตรวจสอบใบสั่งจ่ายสินค้าแทน. ผู้ทำแทนก็ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ครบถ้วน เมื่อมีการปลอมลายมือผู้สั่งจ่ายแล้วนำมาเบิกสินค้าข้าวสาร จำเลยที่ 4 ถึงที่ 7 ตรวจดูลายเซ็นโดยเทียบกับลายเซ็นที่ผู้สั่งจ่ายเซ็นไว้ในใบสั่งจ่ายเก่าๆ ที่ยื่น เพราะไม่มีตัวอย่างลายเซ็นที่แท้จริงไว้ตรวจสอบ แล้วจ่ายข้าวสารไปตามใบสั่งจ่ายปลอมทำให้โจทก์เสียหาย ดังนี้ จำเลยที่ 2 จะปัดความรับผิดหาได้ไม่
จำเลยที่ 3 เป็นผู้ช่วยหัวหน้าคลังสินค้ากลาง ซึ่งเก็บเฉพาะข้าวสาร และเป็นผู้เก็บรักษากุญแจโกดังแต่ผู้เดียว มีหน้าที่ปฏิบัติการควบคุม ตรวจตราใบสั่งจ่ายสินค้าและรับจ่ายข้าวสารด้วย จึงปฏิเสธความรับผิดไม่ได้
ส่วนจำเลยที่ 4 มีหน้าที่ฝึกสอนจำเลยที่ 5 ถึงที่ 7 ในการจ่ายข้าวสารตามใบสั่งจ่าย แต่ไม่มีตัวอย่างลายเซ็นของผู้มีอำนาจสั่งจ่ายมาให้ตรวจสอบ จำเลยที่ 4 ถึงที่ 7 เป็นพนักงานชั้นผู้น้อย ไม่มีหน้าที่ทวงถามให้มีการส่งตัวอย่างลายเซ็นมา การฝึกสอนก็เพียงให้ดูว่าใบสั่งจ่ายที่ผู้มาขอรับมีรายการอะไรบ้างลายเซ็นชื่อผู้สั่งจ่ายครบถ้วนหรือไม่ โดยให้ดูจากลายเซ็นชื่อผู้สั่งจ่ายเก่าๆ จำเลยที่ 5 ถึงที่ 7ก็สั่งจ่ายข้าวสารไปตามระเบียบที่จำเลยที่ 4 ฝึกสอน เมื่อมีการปลอมลายเซ็นและมีการจ่ายข้าวสารไปตามลายเซ็นปลอมนั้น.โดยให้การจ่ายก็ปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าวเช่นนี้ จะถือว่าจำเลยที่ 5 ถึงที่ 7 ไม่ปฏิบัติตามระเบียบเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์มิได้ แต่จำเลยที่ 4 มีหน้าที่ต้องตรวจสอบรายการสินค้าที่จะจ่ายหรือขอดูหลักฐานเอกสารใบขายเงินสด หรือใบเสร็จรับเงินจากผู้ซื้อที่มารับของตามระเบียบว่าด้วยการรับจ่ายฯลฯ ให้ถูกต้องเสียก่อน เมื่อจำเลยที่ 4 ไม่ปฏิบัติตามจึงต้องรับผิดตามจำนวนเงินในใบจ่ายสินค้าฉบับที่จำเลยที่ 4เป็นผู้เขียนตามใบสั่งจ่ายสินค้าปลอมนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1456/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รอการลงโทษคดีพนัน: พิจารณาจากประวัติผู้ต้องหา ฐานะครอบครัว และความผิดไม่ร้ายแรง
ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลยในคดีการพนัน 3 เดือน ปรับ 1,500 บาท รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุก 1 เดือน 15 วัน ปรับ 1,500 บาท ไม่รอการลงโทษ แต่ให้ลงโทษกักขังแทนโทษจำคุก 1 เดือน 15 วัน ปรับ 1,500 บาท จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษโดยผู้พิพากษาผู้พิจารณาในศาลชั้นต้นเห็นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกา ศาลฎีกาพิพากษาแก้ ให้รอการลงโทษจำคุกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1453/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ชื่อเจ้าของรถยนต์ที่บริษัทเลิกกิจการ ผู้ร้องต้องดำเนินการต่อนายทะเบียน ไม่ใช่ศาล
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องได้ครอบครองเป็นเจ้าของรถยนต์มา 11 ปีแล้ว แต่ชื่อเจ้าของในทะเบียนยังคงเป็นของบริษัท ต. ซึ่งได้จดทะเบียนเลิกบริษัทและชำระบัญชีไปแล้ว ไม่มีคู่พิพาทที่จะฟ้องร้องเอาได้ ขอให้ศาลสั่งแก้ชื่อในทะเบียนรถยนต์เป็นของผู้ร้องดังนี้ ผู้ร้องชอบที่จะร้องต่อนายทะเบียนยานพาหนะที่รถยนต์นั้นจดทะเบียนไว้เพื่อให้นายทะเบียนยานพาหนะได้จัดการแก้ทะเบียนเจ้าของรถให้ถูกต้องตามความเป็นจริง ผู้ร้องจะขอให้ศาลมีคำสั่งให้แก้ชื่อเจ้าของรถยนต์ตามใบอนุญาตทะเบียนรถยนต์เดิมมาเป็นชื่อของผู้ร้องโดยถือว่าผู้ร้องจะต้องใช้สิทธิทางศาลหาได้ไม่
of 27