พบผลลัพธ์ทั้งหมด 266 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2370/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับช่วงสิทธิจากผู้รับชำระหนี้ร่วม และอายุความของสิทธิเรียกร้อง
โจทก์เอาประกันภัยค้ำจุนรถยนต์คันเกิดเหตุไว้แก่จำเลย ลูกจ้างของโจทก์ขับรถยนต์ดังกล่าวโดยประมาทไปชนรถยนต์ของ ร. เสียหาย ร. จึงฟ้องเรียกค่าเสียหายจากโจทก์และจำเลย คดีถึงที่สุดโดยศาลพิพากษาให้โจทก์และจำเลยร่วมกันใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ ร. โจทก์และจำเลยไม่ชำระ ร. จะบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินของโจทก์ โจทก์จึงชำระหนี้ตามคำพิพากษาทั้งหมดให้แก่ ร. ไป ดังนี้ โจทก์ย่อมเข้าสู่ฐานะเป็นผู้รับช่วงสิทธิของ ร. ด้วยอำนาจกฎหมายมีสิทธิฟ้องเรียกร้องเงินที่โจทก์ได้ชำระให้แก่ ร. ไปแล้วคืนจากจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ร่วมได้
สิทธิเรียกร้องของโจทก์ดังกล่าวข้างต้นไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้ จึงต้องถือว่ามีอายุความสิบปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
สิทธิเรียกร้องของโจทก์ดังกล่าวข้างต้นไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้ จึงต้องถือว่ามีอายุความสิบปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2335/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์การประเมินภาษี: ต้องอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ก่อน จึงจะฟ้องต่อศาลได้
เจ้าพนักงานประเมินแจ้งการประเมินให้โจทก์ชำระภาษีเพิ่มโดยถือเอาเงินได้พึงประเมินของภริยาเป็นเงินได้ของสามี การที่โจทก์ขอให้แยกยอดเงินได้ของภริยาออกคำนวณภาษีเป็นคนละส่วนกับเงินได้ส่วนของโจทก์ เท่ากับโจทก์โต้แย้งการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินว่า โจทก์ไม่ควรต้องรับผิดเสียภาษีสำหรับเงินได้ส่วนของภริยา โจทก์ต้องอุทธรณ์การประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ก่อนจึงจะมีสิทธิอุทธรณ์คำวินิจฉัยอุทธรณ์ต่อศาลได้
การที่จำเลยมีหนังสือแจ้งการพิจารณาของเจ้าพนักงานประเมินตามคำร้องของโจทก์ที่ขอให้แก้ไขการประเมินโดยขอให้แยกยอดเงินได้ของสามีและภริยานั้น ไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะนำคดีมาฟ้องต่อศาล
การที่จำเลยมีหนังสือแจ้งการพิจารณาของเจ้าพนักงานประเมินตามคำร้องของโจทก์ที่ขอให้แก้ไขการประเมินโดยขอให้แยกยอดเงินได้ของสามีและภริยานั้น ไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะนำคดีมาฟ้องต่อศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2301/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกบริษัท การแต่งตั้งผู้ชำระบัญชี และอำนาจศาลในการสั่งแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีเพิ่มเติม
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีมติพิเศษให้เลิกบริษัทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1236(4) ซึ่งมีผลตามกฎหมายให้บริษัทเลิกกันแล้ว จึงไม่มีเหตุที่ผู้ร้องซึ่งเป็นกรรมการของบริษัทจะต้องใช้สิทธิทางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 ขอให้ศาลสั่งเลิกบริษัทอีก
ผู้ร้องและกรรมการอื่นของบริษัทมีเหตุผิดใจกันไม่อาจชำระบัญชีร่วมกันได้. และข้อบังคับของบริษัทก็ไม่ได้กำหนดเรื่องผู้ชำระบัญชีไว้. ผู้ร้องจึงมีสิทธิร้องขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีของบริษัทได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1251 วรรคสอง.
ที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นได้มีมติให้ จ. กับ ว. เป็นผู้ชำระบัญชีของบริษัท. แต่ผู้ร้องขอให้ศาลตั้ง จ.แต่ผู้เดียวเป็นผู้ชำระบัญชีโดยไม่ปรากฏตามทางไต่สวนว่าเป็นเพราะเหตุใด. ข้อเท็จจริงยังไม่พอแก่การวินิจฉัยจึงสมควรให้ศาลชั้นต้นไต่สวนในข้อนี้เสียก่อน.
ผู้ร้องและกรรมการอื่นของบริษัทมีเหตุผิดใจกันไม่อาจชำระบัญชีร่วมกันได้. และข้อบังคับของบริษัทก็ไม่ได้กำหนดเรื่องผู้ชำระบัญชีไว้. ผู้ร้องจึงมีสิทธิร้องขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีของบริษัทได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1251 วรรคสอง.
ที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นได้มีมติให้ จ. กับ ว. เป็นผู้ชำระบัญชีของบริษัท. แต่ผู้ร้องขอให้ศาลตั้ง จ.แต่ผู้เดียวเป็นผู้ชำระบัญชีโดยไม่ปรากฏตามทางไต่สวนว่าเป็นเพราะเหตุใด. ข้อเท็จจริงยังไม่พอแก่การวินิจฉัยจึงสมควรให้ศาลชั้นต้นไต่สวนในข้อนี้เสียก่อน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2301/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกบริษัท, การตั้งผู้ชำระบัญชี, และอำนาจศาลในการพิจารณาแต่งตั้งผู้ชำระบัญชี
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีมติพิเศษให้เลิกบริษัทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1236 (4) ซึ่งมีผลตามกฎหมายให้บริษัทเลิกกันแล้ว จึงไม่มีเหตุที่ผู้ร้องซึ่งเป็นกรรมการของบริษัทจะต้องใช้สิทธิทางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 ขอให้ศาลสั่งเลิกบริษัทอีก
ผู้ร้องและกรรมการอื่นของบริษัทมีเหตุผิดใจกันไม่อาจชำระบัญชีร่วมกันได้. และข้อบังคับของบริษัทก็ไม่ได้กำหนดเรื่องผู้ชำระบัญชีไว้ ผู้ร้องจึงมีสิทธิร้องขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีของบริษัทได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1251 วรรคสอง
ที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นได้มีมติให้ จ. กับ ว. เป็นผู้ชำระบัญชีของบริษัท. แต่ผู้ร้องขอให้ศาลตั้ง จ.แต่ผู้เดียวเป็นผู้ชำระบัญชีโดยไม่ปรากฏตามทางไต่สวนว่าเป็นเพราะเหตุใด ข้อเท็จจริงยังไม่พอแก่การวินิจฉัย จึงสมควรให้ศาลชั้นต้นไต่สวนในข้อนี้เสียก่อน
ผู้ร้องและกรรมการอื่นของบริษัทมีเหตุผิดใจกันไม่อาจชำระบัญชีร่วมกันได้. และข้อบังคับของบริษัทก็ไม่ได้กำหนดเรื่องผู้ชำระบัญชีไว้ ผู้ร้องจึงมีสิทธิร้องขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีของบริษัทได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1251 วรรคสอง
ที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นได้มีมติให้ จ. กับ ว. เป็นผู้ชำระบัญชีของบริษัท. แต่ผู้ร้องขอให้ศาลตั้ง จ.แต่ผู้เดียวเป็นผู้ชำระบัญชีโดยไม่ปรากฏตามทางไต่สวนว่าเป็นเพราะเหตุใด ข้อเท็จจริงยังไม่พอแก่การวินิจฉัย จึงสมควรให้ศาลชั้นต้นไต่สวนในข้อนี้เสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2296/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยทบต้นหลังสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีครบกำหนด: สิทธิคิดดอกเบี้ยถึงวันที่ทวงถามหนี้
ในระหว่างที่สัญญาบัญชีเดินสะพัดยังดำเนินอยู่ต่อไปหลังจากที่ครบกำหนดอายุสัญญาแล้วนั้น ธนาคารโจทก์ได้มีหนังสือทวงถามให้จำเลยชำระหนี้ตามยอดเงินในบัญชีภายในกำหนด15 วัน นับแต่วันรับหนังสือ เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับหนังสือทวงถามหรือไม่เมื่อวันใดจึงไม่อาจทราบวันผิดนัดแน่ชัดได้ โจทก์จึงมีสิทธิคิดดอกเบี้ยทบต้นได้จนถึงวันที่ครบกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ออกหนังสือทวงถามให้ชำระหนี้ จากนั้นคงเรียกได้แต่ดอกเบี้ยธรรมดา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2209/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระงับหนี้จากการคืนรถและปฏิเสธการจ่ายเช็ค ไม่ถือเป็นการห้ามโอนโดยเจตนาทุจริต
โจทก์ขายรถแทรกเตอร์ให้แก่จำเลย โดยจำเลยออกเช็คล่วงหน้าชำระหนี้ค่ารถให้โจทก์ไว้ 4 ฉบับ โจทก์นำเช็คสองฉบับแรกไปขึ้นเงิน แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเนื่องจากจำเลยมีคำสั่งให้ระงับการจ่าย เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ในวันที่ 11 พฤษภาคม2524 โจทก์มีหนังสือผ่อนผันแก่จำเลยอีก 4 วัน ในวันเดียวกันนั้นจำเลยได้นำรถแทรกเตอร์มาคืนโจทก์แล้วสั่งธนาคารให้ระงับการจ่ายเงินตามเช็ค เนื่องจากโจทก์ซ่อมและนำรถแทรกเตอร์ให้ไม่ได้ดังที่สัญญาไว้และจำเลยคืนรถแทรกเตอร์ให้โจทก์ไปแล้ว โจทก์ได้นำเช็คไปขึ้นเงินและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันที่ 13 เดือนเดียวกันเช่นนี้ หนี้ที่จำเลยจะต้องชำระราคาค่ารถแทรกเตอร์ ตามที่ระบุจำนวนไว้ในเช็คจึงระงับไปแล้ว มูลหนี้ตามเช็คย่อมไม่มี การที่จำเลยห้ามมิให้ธนาคารใช้เงินตามเช็คจึงมิใช่เป็นการห้ามโดยเจตนาทุจริต จำเลยจึงไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2209/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระงับหนี้ตามเช็คและการห้ามจ่ายโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อจำเลยคืนรถและมีข้อพิพาทเรื่องค่าสึกหรอ
โจทก์ขายรถแทรกเตอร์ให้แก่จำเลย โดยจำเลยออกเช็คล่วงหน้าชำระหนี้ค่ารถให้โจทก์ไว้ 4 ฉบับ โจทก์นำเช็คสองฉบับแรกไปขึ้นเงิน แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเนื่องจากจำเลยมีคำสั่งให้ระงับการจ่าย เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ในวันที่ 11 พฤษภาคม2524 โจทก์มีหนังสือผ่อนผันแก่จำเลยอีก 4 วัน ในวันเดียวกันนั้นจำเลยได้นำรถแทรกเตอร์มาคืนโจทก์แล้วสั่งธนาคารให้ระงับการจ่ายเงินตามเช็ค เนื่องจากโจทก์ซ่อมและนำรถแทรกเตอร์ให้ไม่ได้ดังที่สัญญาไว้และจำเลยคืนรถแทรกเตอร์ให้โจทก์ไปแล้ว โจทก์ได้นำเช็คไปขึ้นเงินและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันที่13 เดือนเดียวกันเช่นนี้ หนี้ที่จำเลยจะต้องชำระราคาค่ารถแทรกเตอร์ ตามที่ระบุจำนวนไว้ในเช็คจึงระงับไปแล้วมูลหนี้ตามเช็คย่อมไม่มี การที่จำเลยห้ามมิให้ธนาคารใช้เงินตามเช็คจึงมิใช่เป็นการห้าม โดยเจตนาทุจริต จำเลยจึงไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2178/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องค่าเสียหายจากการเช่า: การส่งคืนทรัพย์สินถือว่าเสร็จสิ้นเมื่อใด
โจทก์มีหนังสือบอกเลิกการเช่าบ้านพิพาทลงวันที่ 24เมษายน 2523 บอกเลิกการเช่าประจำเดือนพฤษภาคม 2523หลังจากที่ครบกำหนดการบอกกล่าวผู้แทนโจทก์ไปตรวจดู ไม่ปรากฏว่ามีคนอยู่ในบ้านเช่า จึงต้องถือว่าจำเลยได้ส่งคืนบ้านพิพาทให้โจทก์โดยชอบแล้วอย่างช้าที่สุดภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2523 โจทก์ฟ้องจำเลยให้ใช้ค่าเสียหายในทรัพย์สินที่เช่าเกินกำหนดหกเดือนนับแต่วันส่งคืนทรัพย์สินที่เช่า จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 563
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2178/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องค่าเสียหายจากการเช่า: การส่งคืนทรัพย์สินและการนับอายุความ
โจทก์มีหนังสือบอกเลิกการเช่าบ้านพิพาทลงวันที่ 24 เมษายน 2523 บอกเลิกการเช่าประจำเดือนพฤษภาคม 2523 หลังจากที่ครบกำหนดการบอกกล่าวผู้แทนโจทก์ไปตรวจดู ไม่ปรากฏว่ามีคนอยู่ในบ้านเช่า จึงต้องถือว่าจำเลยได้ส่งคืนบ้านพิพาทให้โจทก์โดยชอบแล้วอย่างช้าที่สุดภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2523 โจทก์ฟ้องจำเลยให้ใช้ค่าเสียหายในทรัพย์สินที่เช่าเกินกำหนดหกเดือนนับแต่วันส่งคืนทรัพย์สินที่เช่า จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 563
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1966/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายไม้ที่ไม่ผูกพันจำเลย เนื่องจากตัวแทนทำสัญญาเองโดยไม่ได้รับความยินยอม
แม้ตัวแทนของจำเลยจะได้ทำสัญญาขายไม้ให้แก่โจทก์ แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าตัวแทนของจำเลยได้ทำสัญญาดังกล่าวในนามของจำเลยกับตัวแทนของจำเลยเองโดยอาศัยโจทก์เป็นเครื่องมือ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากจำเลยซึ่งเป็นตัวการ สัญญานั้นย่อมไม่ผูกพันจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 805