พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1892/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่านาขัดต่อ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่านา และประเด็นอำนาจฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า นายสุขเช่านา 36 ไร่ ต่อมานายสุขตายมรดกตกมาเป็นของจำเลยในฐานะทายาทโดยธรรม. จำเลยเก็บผลประโยชน์ในนาที่เช่า จึงมีภาระต้องชำระค่าเช่าแทนผู้ตาย คิดเป็นเงิน 7,020 บาท. โจทก์ได้มีหนังสือทวงถามให้จำเลยนำค่าเช่ามาชำระและได้บอกเลิกการเช่านา ขอให้ศาลบังคับ. คำฟ้องของโจทก์จึงแสดงชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172. ฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม.
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่านา ห้ามมิให้ผู้เช่านาเรียกเก็บค่าเช่านาที่มีผลทำนาได้ข้าวเปลือกโดยปกติไร่ละ 40 ถังต่อปี เรียกเก็บได้ไม่เกินไร่ละ 10 ถัง. ตามสัญญาที่ฟ้องเรียกเก็บค่าเช่าไร่ละ 15 ถัง. สัญญาดังกล่าวจึงขัดต่อกฎหมายตกเป็นโมฆะ ไม่มีผลบังคับให้เรียกค่าเช่ากันได้ตามสัญญา.
คำฟ้องของโจทก์นอกจากเรียกค่าเช่านาและขับไล่ โจทก์ยังได้บอกเลิกสัญญาเช่านารายนี้.และจำเลยได้ต่อสู้ว่า จำเลยได้เช่านาจากบุคคลอื่น. ที่นาไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของโจทก์.โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง. คดีมีประเด็นจะต้องวินิจฉัยต่อไปการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยเสียนั้นไม่ชอบ. การให้ศาลชั้นต้นทำการสืบพยานโจทก์จำเลยตามประเด็นแล้วพิพากษาใหม่.
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่านา ห้ามมิให้ผู้เช่านาเรียกเก็บค่าเช่านาที่มีผลทำนาได้ข้าวเปลือกโดยปกติไร่ละ 40 ถังต่อปี เรียกเก็บได้ไม่เกินไร่ละ 10 ถัง. ตามสัญญาที่ฟ้องเรียกเก็บค่าเช่าไร่ละ 15 ถัง. สัญญาดังกล่าวจึงขัดต่อกฎหมายตกเป็นโมฆะ ไม่มีผลบังคับให้เรียกค่าเช่ากันได้ตามสัญญา.
คำฟ้องของโจทก์นอกจากเรียกค่าเช่านาและขับไล่ โจทก์ยังได้บอกเลิกสัญญาเช่านารายนี้.และจำเลยได้ต่อสู้ว่า จำเลยได้เช่านาจากบุคคลอื่น. ที่นาไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของโจทก์.โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง. คดีมีประเด็นจะต้องวินิจฉัยต่อไปการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยเสียนั้นไม่ชอบ. การให้ศาลชั้นต้นทำการสืบพยานโจทก์จำเลยตามประเด็นแล้วพิพากษาใหม่.