พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,256 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1052/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คจากการพนัน: เช็คที่ออกเพื่อเปลี่ยนเช็คจากหนี้การพนันไม่สมบูรณ์ ผู้ถือเช็คไม่ต้องรับผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
ป.พ.พ.มาตรา855บัญญัติว่าตั๋วเงินที่ออกให้เพื่อใช้เงินที่ยืมมาใช้ในการพนันหรือขันต่อนั้นไม่สมบูรณ์ดังนั้นเช็คพิพาทที่จำเลยออกให้โจทก์ร่วมเพื่อเปลี่ยนเช็คของช. อันมีมูลหนี้มาจากการพนันขันต่อย่อมไม่สมบูรณ์ไปด้วยเมื่อธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยจึงไม่มีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1052/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คที่ออกเพื่อชำระหนี้จากการพนัน ถือเป็นตั๋วเงินไม่สมบูรณ์ ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค
ตั๋วเงินที่ออกให้เพื่อใช้เงินที่ยืมมาใช้ในการพนันหรือขันต่อนั้นไม่สมบูรณ์ เช็คพิพาทที่จำเลยออกให้โจทก์ร่วมเพื่อเปลี่ยนเช็คของช.อันมีมูลหนี้มาจากการพนันขันต่อนั้นย่อมไม่สมบูรณ์ไปด้วยการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2497มาตรา3.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1038/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมาศาลตามกำหนดนัด: เหตุสมควรจากวัยชราและการค้นหาห้องพิจารณาคดี
ศาลอาญานัดไต่สวนมูลฟ้องเวลา 13.30 นาฬิกา ทนายโจทก์ซึ่งมีอายุ 73 ปี มาถึงศาลเวลา 13.30 นาฬิกา แล้วเสียเวลาไปกับการหาห้องพิจารณาซึ่งมีเป็นจำนวนมากประมาณ 30 นาที จึงพบ เมื่อทราบว่าศาลมีคำสั่งให้ยกฟ้องไปแล้วทนายโจทก์ก็ยื่นคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นไต่สวนมูลฟ้องใหม่ ในเวลาที่ใกล้เคียงกันกับที่ศาลมีคำสั่งนั้น กรณียังไม่อาจถือได้ว่าโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดโดยไม่มีเหตุสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1038/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมาศาลตามกำหนดนัด: เหตุผลสมควรในการล่าช้าและการไต่สวนมูลฟ้องใหม่
ศาลอาญานัดไต่สวนมูลฟ้องเวลา13.30นาฬิกาทนายโจทก์ซึ่งมีอายุ73ปีมาถึงศาลเวลา13.30นาฬิกาแล้วเสียเวลาไปกับการหาห้องพิจารณาซึ่งมีเป็นจำนวนมากประมาณ30นาทีจึงพบเมื่อทราบว่าศาลมีคำสั่งให้ยกฟ้องไปแล้วทนายโจทก์ก็ยื่นคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นไต่สวนมูลฟ้องใหม่ในเวลาที่ใกล้เคียงกันกับที่ศาลมีคำสั่งนั้นกรณียังไม่อาจถือได้ว่าโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดโดยไม่มีเหตุสมควร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1038/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสมควรในการไม่มาศาลตามนัด: อายุ, ความคุ้นเคยสถานที่, และระยะเวลาค้นหาห้องพิจารณา
ในวันนัดไต่สวนมูลฟ้องทนายโจทก์มาศาลหลังจากศาลยกฟ้องโจทก์ไปแล้วการที่ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่อ้างว่ามาถึงห้องพิจารณาล่าช้าเพราะต้องเสียเวลาไปกับการค้นหาห้องพิจารณาจนเลยกำหนดเวลาไปประมาณ30นาทีนั้นเป็นเหตุที่เป็นไปได้เนื่องจากทนายโจทก์มีอายุ73ปีอยู่ในวัยชราและไม่คุ้นเคยกับห้องพิจารณาของศาลอาญาซึ่งมีจำนวนมากกรณีจึงยังไม่อาจถือได้ว่าโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดโดยไม่มีเหตุสมควรศาลต้องดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องต่อไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1035/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะผู้เสียหายในคดีเช็ค: ผู้รับเช็คจากผู้อื่นมีสิทธิฟ้องดำเนินคดีได้
จำเลยออกเช็คพิพาทให้ส. เพื่อชำระหนี้ต่อมาส. นำเช็คดังกล่าวไปแลกเงินสดจากโจทก์เมื่อเช็คถึงกำหนดโจทก์นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินดังนี้ถือว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินซึ่งเป็นวันที่มีการกระทำผิดของจำเลยโจทก์จึงอยู่ในฐานะเป็นผู้เสียหายที่จะดำเนินคดีแก่จำเลยตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1035/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ทรงเช็ค - การฟ้องคดีอาญาเช็ค - ผู้รับเช็คโดยชอบ
จำเลยออกเช็คพิพาทให้ส.เพื่อชำระหนี้ต่อมาส.นำเช็คดังกล่าวไปแลกเงินสดจากโจทก์เมื่อเช็คถึงกำหนดโจทก์นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินดังนี้ถือว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินซึ่งเป็นวันที่มีการกระทำผิดของจำเลยโจทก์จึงอยู่ในฐานะเป็นผู้เสียหายที่จะดำเนินคดีแก่จำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯได้.(ที่มา-ส่งเสิรม).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายจ้างต่อละเมิดของลูกจ้าง: ต้องพิสูจน์การกระทำในทางการจ้าง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าลูกจ้างขับขี่รถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่1โดยจำเลยที่2ที่3ได้ใช้ให้ลูกจ้างผู้นั้นขับขี่รถดังกล่าวไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่1เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่2ที่3ให้ใช้ลูกจ้างขับขี่รถยนต์ของจำเลยที่1คันเกิดเหตุแต่กลับได้ความว่าหลังจากเลิกงานแล้วลูกจ้างแอบขึ้นไปเอากุญแจรถคันเกิดเหตุจากที่แขวนตามปกติที่ตึกชั้นสามแล้วใช้ขับรถคันเกิดเหตุไปเที่ยวโดยพลการจนเกิดเหตุชนกันย่อมถือไม่ได้ว่าลูกจ้างกระทำไปในทางการที่จ้างของจำเลยทั้งสาม. ในคดีละเมิดเมื่อโจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยทั้งสามจะต้องร่วมกันรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งละเมิดซึ่งลูกจ้างได้กระทำไปในทางการที่จ้างจำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธโจทก์ย่อมมีหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงให้ได้ความตามที่โจทก์กล่าวอ้างเมื่อโจทก์ไม่สามารถนำสืบให้ได้ความตามที่กล่าวอ้างศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันรับผิดกับลูกจ้างต่อโจทก์ไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายจ้างต่อละเมิดของลูกจ้าง: โจทก์ต้องพิสูจน์การกระทำในทางการจ้าง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าลูกจ้างขับขี่รถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 ได้ใช้ให้ลูกจ้างผู้นั้นขับขี่รถดังกล่าวไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่1 เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ให้ใช้ลูกจ้างขับขี่รถยนต์ของจำเลยที่ 1 คันเกิดเหตุ แต่กลับได้ความว่าหลังจากเลิกงานแล้วลูกจ้างแอบขึ้นไปเอากุญแจรถคันเกิดเหตุจากที่แขวนตามปกติที่ตึกชั้นสามแล้วใช้ขับรถคันเกิดเหตุไปเที่ยวโดยพลการจนเกิดเหตุชนกันย่อมถือไม่ได้ว่าลูกจ้างกระทำไปในทางการที่จ้างของจำเลยทั้งสาม
ในคดีละเมิด เมื่อโจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยทั้งสามจะต้องร่วมกันรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งละเมิดซึ่งลูกจ้างได้กระทำไปในทางการที่จ้างจำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ โจทก์ย่อมมีหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงให้ได้ความตามที่โจทก์กล่าวอ้าง เมื่อโจทก์ไม่สามารถนำสืบให้ได้ความตามที่กล่าวอ้าง ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันรับผิดกับลูกจ้างต่อโจทก์ไม่ได้
ในคดีละเมิด เมื่อโจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยทั้งสามจะต้องร่วมกันรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งละเมิดซึ่งลูกจ้างได้กระทำไปในทางการที่จ้างจำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ โจทก์ย่อมมีหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงให้ได้ความตามที่โจทก์กล่าวอ้าง เมื่อโจทก์ไม่สามารถนำสืบให้ได้ความตามที่กล่าวอ้าง ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันรับผิดกับลูกจ้างต่อโจทก์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 989/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตได้ ถือเป็นกรรมเดียวเจตนารมณ์ของกฎหมาย
ความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯฐานมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้กับฐานมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้นั้นเจตนารมณ์ของกฎหมายต้องการให้เป็นความผิดในลักษณะเดียวกันบทมาตราที่บัญญัติให้เป็นความผิดก็เป็นมาตราเดียวกันวัตถุที่ต้องห้ามนั้นไม่ว่าจะเป็นอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนกฎหมายถือว่าเป็นวัตถุประเภทเดียวกันฉะนั้นการมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ในขณะเดียวกันจึงเป็นความผิดกรรมเดียว.