พบผลลัพธ์ทั้งหมด 561 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละประเด็นข้อพิพาท การวินิจฉัยนอกประเด็น และอำนาจศาลในการลดค่าเสียหาย
ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นปรากฏว่า คู่ความได้สละประเด็นตามคำฟ้องและคำให้การที่มีอยู่ คงโต้เถียงกันแต่เพียงประเด็นเดียวว่า จำเลยส่งมอบรถยนต์ให้โจทก์แล้วหรือไม่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยยังมิได้ส่งมอบรถยนต์ให้โจทก์ จำเลยก็ต้องรับผิดตามฟ้องโจทก์ ส่วนค่าเสียหายถ้าสูงเกินไปศาลมีอำนาจลดลงได้ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าตามสัญญาเช่าซื้อ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกราคารถยนต์ที่เช่าซื้อได้อีก จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละประเด็นข้อพิพาทและการวินิจฉัยนอกประเด็น ศาลฎีกาชี้ว่าการวินิจฉัยนอกประเด็นเป็นเหตุให้คำพิพากษาไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นปรากฏว่า คู่ความได้สละประเด็นตามคำฟ้องและคำให้การที่มีอยู่ คงโต้เถียงกันแต่เพียงประเด็นเดียวว่า จำเลยส่งมอบรถยนต์ให้โจทก์แล้วหรือไม่ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยยังมิได้ส่งมอบรถยนต์ให้โจทก์ จำเลยก็ต้องรับผิดตามฟ้องโจทก์ ส่วนค่าเสียหายถ้าสูงเกินไปศาลมีอำนาจลดลงได้ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าตามสัญญาเช่าซื้อ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกราคารถยนต์ที่เช่าซื้อได้อีก จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 959/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องละเมิดเคลือบคลุม: จำเลยแต่ละคนต้องรับผิดในส่วนใดบ้าง โจทก์ต้องระบุให้ชัดเจน
โจทก์บรรยายฟ้องโดยระบุถึงการกระทำของจำเลยแต่ละคนที่ได้นำโคของตนปล่อยเข้าไปกัดกินต้นยางในสวนยางของโจทก์เป็นไปในลักษณะจำเลยแต่ละคนต่างคนต่างทำละเมิดต่อโจทก์ซึ่งการกระทำอันละเมิดต่อโจทก์ของจำเลยแต่ละคนนั้นจะทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายในส่วนของแต่ละคนมากน้อยเป็นจำนวนเท่าใด โจทก์มิได้บรรยายให้ปรากฏชัด ข้ออ้างแห่งการกระทำละเมิดของจำเลยแต่ละคนตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ไม่ใช่หนี้ร่วมที่โจทก์จะฟ้องขอบังคับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดในฐานะลูกหนี้ร่วมได้ตามคำขอท้ายฟ้อง จึงเป็นการขัดแย้งกันในตัว ยากที่จำเลยแต่ละคนจะต่อสู้คดีของตนได้ถูกต้องจึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 959/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องละเมิดเคลือบคลุม: การระบุความเสียหายของจำเลยแต่ละคน
โจทก์บรรยายฟ้องโดยระบุถึงการกระทำของจำเลยแต่ละคนที่ได้นำโคของตนปล่อยเข้าไปกัดกินต้นยางในสวนยางของโจทก์ เป็นไปในลักษณะจำเลยแต่ละคนต่างคนต่างทำละเมิดต่อโจทก์ ซึ่งการกระทำอันละเมิดต่อโจทก์ของจำเลยแต่ละคนนั้นจะทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายในส่วนของแต่ละคนมากน้อยเป็นจำนวนเท่าใด โจทก์มิได้บรรยายให้ปรากฏชัด ข้ออ้างแห่งการกระทำละเมิดของจำเลยแต่ละคนตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ไม่ใช่หนี้ร่วมที่โจทก์จะฟ้องขอบังคับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดในฐานะลูกหนี้ร่วมได้ตามคำขอท้ายฟ้อง จึงเป็นการขัดแย้งกันในตัว ยากที่จำเลยแต่ละคนจะต่อสู้คดีของตนได้ถูกต้องจึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 949/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในนามทางการค้า การใช้ชื่อคล้ายกันในธุรกิจโรงแรม การพิสูจน์ความเสียหายที่เกิดขึ้น
โจทก์ประกอบกิจการโรงแรมชื่อรามาดา อินน์ ในประเทศทั่วโลก จำเลยประกอบกิจการโรงแรมในประเทศไทยใช้ชื่อว่ารามาดา โฮเต็ล ชื่อทางการค้าของโจทก์และจำเลยแม้จะคล้ายคลึงกันและโจทก์ใช้ชื่อนี้ก่อนจำเลยก็ตาม ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิในนามของบุคคล การจะขอห้ามจำเลยมิให้ใช้ชื่อเดียวกับโจทก์จะต้องปรากฏว่าเป็นเหตุให้โจทก์เสื่อมเสียประโยชน์หรือได้รับความเสียหาย และจะเสียหายอยู่สืบไป และเมื่อคำว่า รามาดา เป็นภาษาเมกซิกันอินเดียนแดง มีความหมายว่าที่พักแรม มิใช่คำที่โจทก์ประดิษฐ์คิดขึ้นเอง และโจทก์ก็มิได้เข้ามาประกอบกิจการ โรงแรมในประเทศไทย จึงถือไม่ได้ว่ากิจการโรงแรมของจำเลยในประเทศไทยเป็นการแข่งขันกับกิจการโรงแรมของโจทก์ในต่างประเทศอันจะกระทบกระเทือนถึงผลประโยชน์ของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 18 ขอให้ศาลสั่งห้ามจำเลยใช้ชื่อนั้นในการประกอบกิจการโรงแรมของจำเลยในประเทศไทยได้ และปัญหาดังกล่าวนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยจะมิได้ฎีกาศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 949/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในชื่อทางการค้า: การใช้ชื่อคล้ายกันทางธุรกิจ และผลกระทบต่อชื่อเสียง/ประโยชน์
โจทก์ประกอบกิจการโรงแรมชื่อรามาดาอินน์ ในประเทศทั่วโลก จำเลยประกอบกิจการโรงแรมในประเทศไทยใช้ชื่อว่ารามาดาโฮเต็ล ชื่อทางการค้าของโจทก์และจำเลยแม้จะคล้ายคลึงกันและโจทก์ใช้ชื่อนี้ก่อนจำเลยก็ตาม ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิในนามของบุคคล การจะขอห้ามจำเลยมิให้ใช้ชื่อเดียวกับโจทก์จะต้องปรากฏว่าเป็นเหตุให้โจทก์เสื่อมเสียประโยชน์หรือได้รับความเสียหาย และจะเสียหายอยู่สืบไป และเมื่อคำว่า รามาดาเป็นภาษาเมกซิกันอินเดียนแดง มีความหมายว่าที่พักแรม มิใช่คำที่โจทก์ประดิษฐ์คิดขึ้นเอง และโจทก์ก็มิได้เข้ามาประกอบกิจการ โรงแรมในประเทศไทย จึงถือไม่ได้ว่ากิจการโรงแรมของจำเลยในประเทศไทยเป็นการแข่งขันกับกิจการโรงแรมของโจทก์ในต่างประเทศอันจะกระทบกระเทือนถึงผลประโยชน์ของโจทก์ โจทก์ จึงไม่มีสิทธิอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 18 ขอให้ศาลสั่งห้ามจำเลยใช้ชื่อนั้นในการประกอบกิจการโรงแรมของจำเลยในประเทศไทยได้ และปัญหาดังกล่าวนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยจะมิได้ฎีกา ศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 904/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายและมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทเพื่อขาย เป็นกรรมเดียวตาม พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์
พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 มาตรา 13 บัญญัติห้ามเฉพาะการผลิต ขาย นำเข้า หรือส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 หรือประเภท 2เท่านั้นว่ามีความผิดและมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 89 และตามมาตรา 4 ได้วิเคราะห์ศัพท์คำว่า " ขาย " ว่าหมายความรวมถึง จำหน่าย จ่าย แจกแลกเปลี่ยนส่งมอบ หรือมีไว้เพื่อขาย ฉะนั้นการขายหรือมีไว้เพื่อขายตามนัยแห่งพระราชบัญญัตินี้จึงเป็นความผิดอย่างเดียวกัน
จำเลยขายวัตถุออกฤทธิ์ชนิดเมทแอมเฟตามีนให้สายลับ 2 เม็ดและต่อมาในเวลาใกล้เคียงกันตรวจค้นได้จากตัวจำเลยอีก 4 เม็ดวัตถุออกฤทธิ์ดังกล่าวทั้ง 6 เม็ดจึงเป็นจำนวนเดียวกัน ที่จำเลยขายและมีไว้ในครอบครองเพื่อขายในวันเวลาเดียวกันและต่อเนื่องกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวคือการขาย
จำเลยขายวัตถุออกฤทธิ์ชนิดเมทแอมเฟตามีนให้สายลับ 2 เม็ดและต่อมาในเวลาใกล้เคียงกันตรวจค้นได้จากตัวจำเลยอีก 4 เม็ดวัตถุออกฤทธิ์ดังกล่าวทั้ง 6 เม็ดจึงเป็นจำนวนเดียวกัน ที่จำเลยขายและมีไว้ในครอบครองเพื่อขายในวันเวลาเดียวกันและต่อเนื่องกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวคือการขาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 904/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายและมีไว้เพื่อขายวัตถุออกฤทธิ์ถือเป็นกรรมเดียวตาม พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ฯ
พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518มาตรา 13 บัญญัติห้ามเฉพาะการผลิต ขาย นำเข้า หรือส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 หรือประเภท 2เท่านั้นว่ามีความผิดและมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 89 และตามมาตรา 4 ได้วิเคราะห์ศัพท์คำว่า ' ขาย ' ว่าหมายความรวมถึง จำหน่าย จ่าย แจกแลกเปลี่ยน ส่งมอบ หรือมีไว้เพื่อขาย ฉะนั้นการขายหรือมีไว้เพื่อขายตามนัยแห่งพระราชบัญญัตินี้จึงเป็นความผิดอย่างเดียวกัน
จำเลยขายวัตถุออกฤทธิ์ชนิดเมทแอมเฟตามีนให้สายลับ 2 เม็ด และต่อมาในเวลาใกล้เคียงกันตรวจค้นได้จากตัวจำเลยอีก 4 เม็ด วัตถุออกฤทธิ์ดังกล่าวทั้ง 6 เม็ดจึงเป็นจำนวนเดียวกัน ที่จำเลยขายและมีไว้ในครอบครองเพื่อขายในวันเวลาเดียวกันและต่อเนื่องกันการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวคือการขาย
จำเลยขายวัตถุออกฤทธิ์ชนิดเมทแอมเฟตามีนให้สายลับ 2 เม็ด และต่อมาในเวลาใกล้เคียงกันตรวจค้นได้จากตัวจำเลยอีก 4 เม็ด วัตถุออกฤทธิ์ดังกล่าวทั้ง 6 เม็ดจึงเป็นจำนวนเดียวกัน ที่จำเลยขายและมีไว้ในครอบครองเพื่อขายในวันเวลาเดียวกันและต่อเนื่องกันการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวคือการขาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะผู้ขับรถโดยสารกับความผิดพ.ร.บ.ขนส่งทางบก: ผู้ขับรถไม่ใช่ผู้ประกอบการ แต่ผิดฐานใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษี
จำเลยเป็นเพียงคนขับรถยนต์โดยสารของเจ้าของรถ จึงอยู่ในฐานะเป็นผู้ประจำรถ หาใช่อยู่ในฐานะเป็นผู้ประกอบการขนส่งประจำทางไม่ จึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกฯ มาตรา23แต่เมื่อรถคันเกิดเหตุไม่ได้เสียภาษีรถประจำปีจำเลยเป็นผู้ขับและนำไปใช้ขณะเกิดเหตุ จึงมีความผิดตามมาตรา 71,148
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 848/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สำนักงานจัดหางาน: ความรับผิดต่อการลักทรัพย์ของคนรับใช้ - ไม่ถือเป็นการละเมิด
จำเลยประกอบกิจการสำนักงานจัดหางาน โจทก์ติดต่อให้ทางสำนักงานจำเลยจัดหาคนรับใช้ให้ โดยเสียค่าบำเหน็จแทนคนรับใช้ที่จำเลยจัดหาให้ ต่อมาคนรับใช้ได้หนีออกจากบ้านและลักทรัพย์ของโจทก์ไป ดังนี้ถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ทำละเมิดต่อโจทก์