พบผลลัพธ์ทั้งหมด 561 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3179/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตั้งตัวแทนโดยไม่ทำเป็นหนังสือ สัญญาเช่าที่ทำผ่านตัวแทนไม่ผูกพันเจ้าของทรัพย์
โจทก์ผู้รับมรดกของ อ. ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินและตึกแถวที่เช่า จำเลยอ้างว่าจำเลยตั้งให้ ร. เป็นตัวแทนของจำเลยเข้าทำสัญญาเช่าและจดทะเบียนการเช่าตึกแถวกับ อ. ผู้ให้เช่า ซึ่ง อ. ก็ทราบเรื่องนี้ดีและยินยอมให้ ร. เข้าทำสัญญาเช่าในฐานะตัวแทนของจำเลยได้กรณีจึงเป็นเรื่องที่จำเลยเปิดเผยให้บุคคลภายนอกทราบแล้วว่าตนเป็นตัวการตั้งให้ ร. ทำสัญญาเช่าแทนจำเลยจะมาอ้างว่าตนเป็นตัวการไม่เปิดเผยชื่อ กลับแสดงตนให้ปรากฏและเข้ารับเอาสัญญาเช่าที่ ร. ตัวแทนได้ทำไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 806 หาได้ไม่ การที่จำเลยตั้ง ร. เป็นตัวแทนไปกระทำการดังกล่าวซึ่งต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงต้องทำเป็นหนังสือเมื่อการตั้งตัวแทนของจำเลยไม่ได้ทำ เป็นหนังสือจึงไม่เป็นผลให้ใช้บังคับแก่ อ. และโจทก์ได้ว่าจำเลยเป็นผู้เช่าตามสัญญาเช่าดังกล่าวโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยออกไปจากตึกแถวของโจทก์ได้
เมื่อข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามคำฟ้อง คำให้การและที่คู่ความแถลงรับกันเพียงพอที่จะวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นข้อใดหรือทั้งคดีโดยไม่ต้องฟังข้อเท็จจริงอื่นอีกแล้วศาลก็มีอำนาจที่จะสั่งงดสืบพยานได้
เมื่อข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามคำฟ้อง คำให้การและที่คู่ความแถลงรับกันเพียงพอที่จะวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นข้อใดหรือทั้งคดีโดยไม่ต้องฟังข้อเท็จจริงอื่นอีกแล้วศาลก็มีอำนาจที่จะสั่งงดสืบพยานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2903/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีชดใช้ค่าเสียหายจากพนักงานที่ยักยอกทรัพย์สิน และการรับสภาพหนี้
วัสดุที่ขาดบัญชีอยู่ในครอบครองและรับผิดชอบของจำเลย หากจำเลยยักย้ายเอาทรัพย์สินของโจทก์ไปโจทก์ย่อมมีสิทธิติดตามและเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของโจทก์จากจำเลยผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1336การที่โจทก์ขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ไม่ใช่เรื่องละเมิด จึงไม่มีอายุความในการฟ้องคดี เมื่อจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์ การที่รองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวงทำบันทึกให้จำเลยกับ ฉ. ร่วมกันชดใช้ราคาของที่หายและจำเลยเซ็นชื่อรับทราบคำสั่งในบันทึกดังกล่าว ถือไม่ได้ว่าจำเลยยอมรับผิดตามบันทึกเพราะจำเลยเพียงแต่เซ็นชื่อรับทราบคำสั่งของรองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวงเท่านั้นโจทก์จะฟ้องร้องบังคับคดีให้จำเลยรับผิดตามบันทึกไม่ได้ และถือไม่ได้ว่าสิทธิเรียกร้องของโจทก์เกี่ยวกับความเสียหายดังกล่าวตั้งหลักฐานขึ้นโดยประนีประนอมยอมความการที่จำเลยผ่อนชำระเงินให้โจทก์เป็นการรับสภาพต่อเจ้าหนี้ด้วยใช้เงินบางส่วน เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงเท่านั้น โจทก์มีวัตถุประสงค์ในการจัดหาจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า หรือประกอบธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้ามิใช่บุคคลผู้เป็นพ่อค้าน้ำมันเบนซิน สิทธิเรียกร้องของโจทก์ในการที่จะเรียกเอาค่าน้ำมันเบนซินจากจำเลยจึงมีอายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2903/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีเบียดบังทรัพย์สิน, ละเมิด, และค่าน้ำมันเบนซิน: หลักการและข้อยกเว้น
วัสดุที่ขาดบัญชีอยู่ในครอบครองและรับผิดชอบของจำเลย หากจำเลยยักย้ายเอาทรัพย์สินของโจทก์ไป โจทก์ย่อมมีสิทธิติดตามและเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของโจทก์จากจำเลยผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย ์มาตรา 1336 การที่โจทก์ขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ไม่ใช่เรื่องละเมิด จึงไม่มีอายุความในการฟ้องคดี
เมื่อจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์ การที่รองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวงทำบันทึกให้จำเลยกับ ฉ. ร่วมกันชดใช้ราคาของที่หายและจำเลยเซ็นชื่อรับทราบคำสั่งในบันทึกดังกล่าว ถือไม่ได้ว่าจำเลยยอมรับผิดตามบันทึกเพราะจำเลยเพียงแต่เซ็นชื่อรับทราบคำสั่งของรองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวงเท่านั้นโจทก์จะฟ้องร้องบังคับคดีให้จำเลยรับผิดตามบันทึกไม่ได้ และถือไม่ได้ว่าสิทธิเรียกร้องของโจทก์เกี่ยวกับความเสียหายดังกล่าวตั้งหลักฐานขึ้นโดยประนีประนอมยอมความการที่จำเลยผ่อนชำระเงินให้โจทก์เป็นการรับสภาพต่อเจ้าหนี้ด้วยใช้เงินบางส่วน เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงเท่านั้น
โจทก์มีวัตถุประสงค์ในการจัดหาจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า หรือประกอบธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้ามิใช่บุคคลผู้เป็นพ่อค้าน้ำมันเบนซิน สิทธิเรียกร้องของโจทก์ในการที่จะเรียกเอาค่าน้ำมันเบนซินจากจำเลยจึงมีอายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
เมื่อจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์ การที่รองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวงทำบันทึกให้จำเลยกับ ฉ. ร่วมกันชดใช้ราคาของที่หายและจำเลยเซ็นชื่อรับทราบคำสั่งในบันทึกดังกล่าว ถือไม่ได้ว่าจำเลยยอมรับผิดตามบันทึกเพราะจำเลยเพียงแต่เซ็นชื่อรับทราบคำสั่งของรองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวงเท่านั้นโจทก์จะฟ้องร้องบังคับคดีให้จำเลยรับผิดตามบันทึกไม่ได้ และถือไม่ได้ว่าสิทธิเรียกร้องของโจทก์เกี่ยวกับความเสียหายดังกล่าวตั้งหลักฐานขึ้นโดยประนีประนอมยอมความการที่จำเลยผ่อนชำระเงินให้โจทก์เป็นการรับสภาพต่อเจ้าหนี้ด้วยใช้เงินบางส่วน เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงเท่านั้น
โจทก์มีวัตถุประสงค์ในการจัดหาจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า หรือประกอบธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้ามิใช่บุคคลผู้เป็นพ่อค้าน้ำมันเบนซิน สิทธิเรียกร้องของโจทก์ในการที่จะเรียกเอาค่าน้ำมันเบนซินจากจำเลยจึงมีอายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2897/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนการเสพฝิ่น: ผู้ช่วยเตรียมอุปกรณ์ไม่ใช่ผู้ร่วมกระทำผิด แต่มีความผิดฐานสนับสนุน
ความผิดฐานเสพฝิ่นนั้น กฎหมายประสงค์ลงโทษผู้เสพรับเข้าร่างกายเท่านั้นลักษณะความผิดไม่เปิดช่องให้ผู้อื่นมาร่วมกระทำความผิดด้วยกันได้การที่จำเลยช่วยเหลือ ก.โดยใช้เหล็กแหลมแยงรูกล้องสูบฝิ่นขณะก.กำลังเสพฝิ่นถือไม่ได้ว่าจำเลยร่วมเสพฝิ่นกับก. แต่การกระทำของจำเลย เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ก. ในการเสพฝิ่นจำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน ก. ในการกระทำความผิดฐานเสพฝิ่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2897/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนการเสพฝิ่น: ผู้ช่วยเตรียมอุปกรณ์ไม่ใช่ผู้เสพ แต่มีความผิดฐานสนับสนุน
ความผิดฐานเสพฝิ่นนั้น กฎหมายประสงค์ลงโทษผู้เสพรับเข้าร่างกายเท่านั้น ลักษณะความผิดไม่เปิดช่องให้ผู้อื่นมาร่วมกระทำความผิดด้วยกันได้การที่จำเลยช่วยเหลือ ก.โดยใช้เหล็กแหลมแยงรูกล้องสูบฝิ่นขณะ ก. กำลังเสพฝิ่นถือไม่ได้ว่าจำเลยร่วมเสพฝิ่นกับ ก. แต่การกระทำของจำเลย เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ ก. ในการเสพฝิ่น จำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน ก. ในการกระทำความผิดฐานเสพฝิ่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2875/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินร่วมต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของรวมทั้งหมด มิฉะนั้นสัญญาไม่สมบูรณ์
ที่ดินมีโฉนดซึ่ง พ. มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับพี่น้องคนอื่นและมิได้ มีการแบ่งแยกว่าส่วนของใครอยู่ตอนไหนและ มีเนื้อที่เท่าใด ผู้มีชื่อในโฉนด ซึ่งถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันจึงยังเป็นเจ้าของรวมอยู่ตามส่วนที่ตนถือกรรมสิทธิ์
โจทก์ทำสัญญาจะซื้อที่ดินกับ พ. โดยระบุว่าที่ดินตามเนื้อที่ ที่ตกลงซื้อขายกันนี้อยู่ทางทิศตะวันออกของที่ดินแปลงใหญ่จึงเป็นการซื้อขายตัวทรัพย์ซึ่งมิใช่เป็นการขายกรรมสิทธิ์เฉพาะส่วนของ พ. จะกระทำได้ก็แต่ด้วยความยินยอมแห่งเจ้าของรวมทุกคนเมื่อยังมิได้มีการแบ่งที่ดินเป็นส่วนสัดการที่ พ. เอาตัวทรัพย์มาทำสัญญาจะขาย ให้โจทก์โดยเจ้าของรวมคนอื่นมิได้ยินยอมด้วย จึงไม่มีผลผูกพัน เจ้าของรวมคนอื่นและโจทก์จะฟ้องบังคับตามสัญญามิได้
โจทก์ทำสัญญาจะซื้อที่ดินกับ พ. โดยระบุว่าที่ดินตามเนื้อที่ ที่ตกลงซื้อขายกันนี้อยู่ทางทิศตะวันออกของที่ดินแปลงใหญ่จึงเป็นการซื้อขายตัวทรัพย์ซึ่งมิใช่เป็นการขายกรรมสิทธิ์เฉพาะส่วนของ พ. จะกระทำได้ก็แต่ด้วยความยินยอมแห่งเจ้าของรวมทุกคนเมื่อยังมิได้มีการแบ่งที่ดินเป็นส่วนสัดการที่ พ. เอาตัวทรัพย์มาทำสัญญาจะขาย ให้โจทก์โดยเจ้าของรวมคนอื่นมิได้ยินยอมด้วย จึงไม่มีผลผูกพัน เจ้าของรวมคนอื่นและโจทก์จะฟ้องบังคับตามสัญญามิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2875/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินที่มีเจ้าของรวมต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของรวมทั้งหมด จึงจะสมบูรณ์
ที่ดินมีโฉนดซึ่ง พ. มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับพี่น้องคนอื่นและมิได้ มีการแบ่งแยกว่าส่วนของใครอยู่ตอนไหนและ มีเนื้อที่เท่าใดผู้มีชื่อในโฉนด ซึ่งถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันจึงยังเป็นเจ้าของรวมอยู่ตามส่วนที่ตนถือกรรมสิทธิ์
โจทก์ทำสัญญาจะซื้อที่ดินกับ พ.โดยระบุว่าที่ดินตามเนื้อที่ ที่ตกลงซื้อขายกันนี้อยู่ทางทิศตะวันออกของที่ดินแปลงใหญ่จึงเป็น การซื้อขายตัวทรัพย์ซึ่งมิใช่เป็นการ ขายกรรมสิทธิ์เฉพาะส่วนของพ. จะกระทำได้ก็แต่ด้วยความยินยอมแห่งเจ้าของรวมทุกคนเมื่อยังมิได้ มีการแบ่งที่ดินเป็นส่วนสัดการที่พ. เอาตัวทรัพย์มาทำสัญญาจะขาย ให้โจทก์โดยเจ้าของรวมคนอื่นมิได้ยินยอมด้วย จึงไม่มีผลผูกพัน เจ้าของรวมคนอื่นและโจทก์จะฟ้องบังคับตามสัญญามิได้
โจทก์ทำสัญญาจะซื้อที่ดินกับ พ.โดยระบุว่าที่ดินตามเนื้อที่ ที่ตกลงซื้อขายกันนี้อยู่ทางทิศตะวันออกของที่ดินแปลงใหญ่จึงเป็น การซื้อขายตัวทรัพย์ซึ่งมิใช่เป็นการ ขายกรรมสิทธิ์เฉพาะส่วนของพ. จะกระทำได้ก็แต่ด้วยความยินยอมแห่งเจ้าของรวมทุกคนเมื่อยังมิได้ มีการแบ่งที่ดินเป็นส่วนสัดการที่พ. เอาตัวทรัพย์มาทำสัญญาจะขาย ให้โจทก์โดยเจ้าของรวมคนอื่นมิได้ยินยอมด้วย จึงไม่มีผลผูกพัน เจ้าของรวมคนอื่นและโจทก์จะฟ้องบังคับตามสัญญามิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2831/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดกรรมเดียวต่อกฎหมายหลายบท กรณีใช้เครื่องชั่งผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบในการค้า ศาลฎีกาแก้ไขโทษ
จำเลยมีไว้เพื่อใช้ซึ่งเครื่องชั่งที่ผิดอัตรา และได้ใช้เครื่องชั่งนั้นในกิจการต่อเนื่องกับผู้อื่น ซึ่งต่างก็มีวัตถุประสงค์เพื่อเอาเปรียบในการค้าเช่นเดียวกัน จึงเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ศาลล่างทั้งสองลงโทษเป็น 2 กระทง ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็หยิบยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2735/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินวางศาลเพื่อคุ้มครองประโยชน์ระหว่างพิจารณาคดี: สิทธิการรับคืนและกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย
โจทก์นำเงินมาวางตามคำสั่งศาลซึ่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ ของโจทก์ระหว่างการพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา264และเพื่อเป็นประกันความเสียหายของจำเลยหากโจทก์แพ้คดี ซึ่งโจทก์มีสิทธิรับไปจากศาลเมื่อโจทก์ชนะคดีเมื่อคดีถึงที่สุดแล้วโจทก์เป็นฝ่ายชนะเงินดังกล่าวจึงเป็นเงินค้างจ่ายอยู่ในศาลที่โจทก์จะต้องขอรับไปในกำหนดห้าปี ตามมาตรา 323หากล่วงเลยกำหนดห้าปีนับแต่วันคดีถึงที่สุดโจทก์ย่อมไม่มีสิทธิขอรับคืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2735/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินวางศาลเพื่อคุ้มครองประโยชน์ระหว่างพิจารณาคดี: สิทธิการรับคืนและการหมดอายุตามกำหนด
โจทก์นำเงินมาวางตามคำสั่งศาล ซึ่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ ของโจทก์ระหว่างการพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 และเพื่อเป็นประกันความเสียหายของจำเลย หากโจทก์แพ้คดีซึ่งโจทก์มีสิทธิรับไปจากศาลเมื่อโจทก์ชนะคดีเมื่อคดีถึงที่สุดแล้วโจทก์เป็นฝ่ายชนะเงินดังกล่าว จึงเป็นเงินค้างจ่ายอยู่ในศาลที่โจทก์จะต้องขอรับไปในกำหนดห้าปี ตามมาตรา 323 หากล่วงเลยกำหนดห้าปีนับแต่วันคดีถึงที่สุดโจทก์ย่อมไม่มีสิทธิขอรับคืน