พบผลลัพธ์ทั้งหมด 561 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3528/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีซ้ำซ้อน: การฟ้องคดีหมิ่นประมาทในประเด็นเดียวกันกับที่ศาลอื่นรับไว้แล้ว ทำให้ฟ้องต้องห้าม
โจทก์เคยฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงพระนครเหนือว่าจำเลยโฆษณาข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ในหนังสือพิมพ์รายวันศาลแขวงพระนครเหนือได้ไต่สวนมูลฟ้องและมีคำสั่งให้ประทับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาแล้ว ต่อมาโจทก์ได้ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงเชียงใหม่ในเหตุอย่างเดียวกันอีกวันกระทำผิดและสถานที่เกิดเหตุก็ตรงกัน คำฟ้องของโจทก์ในคดีนี้จึงเป็นเรื่องเดียวกันกับที่ได้ยื่นฟ้องไว้แล้วต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 173(1) ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3519/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนตัวลูกหนี้ด้วยการแลกเช็คทำให้จำเลยผูกพันตามกฎหมายที่จะต้องชำระหนี้
การที่จำเลยออกเช็คของตนให้แก่โจทก์เพื่อแลกเปลี่ยนเอาเช็ค ของผู้อื่นซึ่งจำเลยสลักหลังไว้คืนมา เท่ากับเป็นการยอมตนเป็นลูกหนี้ แทนลูกหนี้คนเดิมซึ่งยังผลให้จำเลยต้องผูกพันตามกฎหมายที่จะต้อง ชำระหนี้แก่โจทก์เมื่อเช็คของจำเลยถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ก็ต้องถือว่าจำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3519/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสลักหลังเช็คและการยอมเป็นลูกหนี้แทนเดิม การออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่เกิดจากการเปลี่ยนตัวลูกหนี้
การที่จำเลยออกเช็คของตนให้แก่โจทก์เพื่อแลกเปลี่ยนเอาเช็คของผู้อื่นซึ่งจำเลยสลักหลังไว้คืนมา เท่ากับเป็นการยอมตนเป็นลูกหนี้แทนลูกหนี้คนเดิมซึ่งยังผลให้จำเลยต้องผูกพันตามกฎหมายที่จะต้องชำระหนี้แก่โจทก์เมื่อเช็คของจำเลยถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ก็ต้องถือว่าจำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3452/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้ยืมรถ: ผู้ยืมไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากบุคคลภายนอกที่ทำให้รถเสียหาย
เมื่อคำบรรยายฟ้องของโจทก์ให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนผลแห่งละเมิด พอแปลได้ว่ารวมถึงค่าเสียหายเพื่อการเสียความสามารถประกอบการงานแต่บางส่วน ทั้งในเวลาปัจจุบันและอนาคตด้วย ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 444 ศาลย่อมพิพากษาให้ผู้ทำละเมิดรับผิดในค่าเสียหายดังกล่าวได้ กรณีมิใช่พิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3451/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องผู้ยืมในคดีค่าเสียหาย: ผู้ยืมไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ทำละเมิดโดยตรง
ในการยืมใช้คงรูปนั้นประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 643 ได้บัญญัติให้ผู้ยืมต้องรับผิดต่อผู้ให้ยืมเฉพาะแต่กรณีผู้ยืมเอาทรัพย์ที่ยืมไปใช้การอย่างอื่นนอกจากการอันเป็นปกติแก่ทรัพย์สินนั้น หรือนอกจากการอันปรากฏในสัญญา หรือเอาไปให้บุคคลภายนอกใช้สอยหรือเอาไปไว้นานกว่าที่ควรจะเอาไว้ โจทก์เป็นแต่เพียงผู้ยืมรถคันที่ถูกชนไม่ได้เป็นเจ้าของไม่ปรากฏเหตุดังกล่าวที่โจทก์จะต้องรับผิดต่อผู้ให้ยืม. และการที่รถที่โจทก์ขับได้รับความเสียหายก็มิใช่เป็นความผิดของโจทก์ฉะนั้นโจทก์ในฐานะผู้ยืมจึงไม่ต้องรับผิดต่อเจ้าของรถและแม้ว่าโจทก์จะได้ซ่อมรถคันดังกล่าวไปแล้ว โจทก์ก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะรับช่วงสิทธิของเจ้าของรถที่จะเรียกร้องให้จำเลยรับผิดได้ เพราะการรับช่วงสิทธิจะมีได้ต่อเมื่อผู้รับช่วงสิทธิมีหนี้อันจะต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้คือเจ้าของรถ เมื่อโจทก์ไม่ใช่ผู้รับช่วงสิทธิโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3451/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องผู้ยืมทรัพย์ในกรณีรถชน: ผู้ยืมไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายหากความเสียหายเกิดจากบุคคลภายนอก
ในการยืมใช้คงรูปนั้นประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา643 ได้บัญญัติให้ผู้ยืมต้องรับผิดต่อผู้ให้ยืมเฉพาะแต่กรณีผู้ยืมเอาทรัพย์ที่ยืมไปใช้การอย่างอื่นนอกจากการอันเป็นปกติแก่ทรัพย์สินนั้น หรือนอกจากการอันปรากฏในสัญญา หรือเอาไปให้บุคคลภายนอกใช้สอยหรือเอาไปไว้นานกว่าที่ควรจะเอาไว้ โจทก์เป็นแต่เพียงผู้ยืมรถคันที่ถูกชนไม่ได้เป็นเจ้าของไม่ปรากฏเหตุดังกล่าวที่โจทก์จะต้องรับผิดต่อผู้ให้ยืม. และการที่รถที่โจทก์ขับได้รับความเสียหายก็มิใช่เป็นความผิดของโจทก์ฉะนั้นโจทก์ในฐานะผู้ยืมจึงไม่ต้องรับผิดต่อเจ้าของรถและแม้ว่าโจทก์จะได้ซ่อมรถคันดังกล่าวไปแล้ว โจทก์ก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะรับช่วงสิทธิของเจ้าของรถที่จะเรียกร้องให้จำเลยรับผิดได้ เพราะการรับช่วงสิทธิจะมีได้ต่อเมื่อผู้รับช่วงสิทธิมีหนี้อันจะต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้คือเจ้าของรถ เมื่อโจทก์ไม่ใช่ผู้รับช่วงสิทธิโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3386/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทายาทผู้จัดการมรดกมีหน้าที่คืนที่ดินให้เจ้าของเดิม แม้มิได้ฟ้องภายใน 1 ปีหลังเจ้ามรดกเสียชีวิต
จำเลยเป็นบุตรและเป็นผู้จัดการดูแลเก็บผลประโยชน์จากอาคารตลาดซึ่งเป็นทรัพย์สินของเจ้ามรดก จึงอยู่ในฐานะเป็นทายาทผู้รับมรดกของเจ้ามรดกและเป็นผู้ได้เข้าไปจัดการมรดกด้วย จำเลยต้องรับทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดในกองมรดกของเจ้ามรดกนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1600 เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทที่ให้เจ้ามรดกอาศัยปลูกสร้างอาคารตลาดประสงค์จะเอาที่พิพาทของตนคืน ได้บอกกล่าวให้จำเลยทราบแล้วจำเลยไม่ปฏิบัติตาม โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยได้
กรณีดังกล่าวจะนำอายุความมรดก 1 ปีตามมาตรา 1754 มาใช้บังคับหาได้ไม่เพราะมิใช่เรื่องฟ้องร้องเกี่ยวกับมรดก
กรณีดังกล่าวจะนำอายุความมรดก 1 ปีตามมาตรา 1754 มาใช้บังคับหาได้ไม่เพราะมิใช่เรื่องฟ้องร้องเกี่ยวกับมรดก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3386/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทายาทผู้จัดการมรดกมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการคืนที่ดินให้เจ้าของเดิม
จำเลยเป็นบุตรและเป็นผู้จัดการดูแลเก็บผลประโยชน์จากอาคารตลาดซึ่งเป็นทรัพย์สินของเจ้ามรดก จึงอยู่ในฐานะเป็นทายาทผู้รับมรดกของเจ้ามรดกและเป็นผู้ได้เข้าไปจัดการมรดกด้วย จำเลยต้องรับทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดในกองมรดกของเจ้ามรดกนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1600 เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทที่ให้เจ้ามรดกอาศัยปลูกสร้างอาคารตลาดประสงค์จะเอาที่พิพาทของตนคืน ได้บอกกล่าวให้จำเลยทราบแล้วจำเลยไม่ปฏิบัติตาม โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยได้
กรณีดังกล่าวจะนำอายุความมรดก 1 ปีตามมาตรา 1754มาใช้บังคับหาได้ไม่เพราะมิใช่เรื่องฟ้องร้องเกี่ยวกับมรดก
กรณีดังกล่าวจะนำอายุความมรดก 1 ปีตามมาตรา 1754มาใช้บังคับหาได้ไม่เพราะมิใช่เรื่องฟ้องร้องเกี่ยวกับมรดก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3330-3331/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: คดีสัญญาซื้อขายที่ดิน - ประเด็นผิดสัญญาเดียวกัน แม้ฟ้องก่อนมีคำพิพากษา
ก่อนฟ้องคดีนี้โจทก์ถูกจำเลยฟ้องขับไล่ออกจากที่พิพาท อ้างว่าโจทก์ผิดสัญญาจะซื้อจะขายที่พิพาท โจทก์ให้การอย่างเดียวกับข้ออ้างตามคำบรรยายฟ้องคดีนี้ต่อมาคดีแรกศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่โจทก์ ดังนี้ เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้กับคดีแรกมีประเด็นข้อพิพาทอย่างเดียวกัน และศาลมีคำวินิจฉัยชี้ขาดคดีแรกว่าโจกท์เป็นฝ่ายผิดสัญญา ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 แม้โจทก์จะฟ้องคดีนี้ก่อนที่ศาลจะวินิจฉัยคดีแรกก็ตาม แต่เมื่อศาลพิพากษาคดีแรกแล้ว กรณีก็ต้องอยู่ภายใต้บังคับของมาตรา 144 เช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3313/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกจ่ายเงินบำรุงการศึกษาและการสั่งซื้ออาหารเพิ่มเติม ครูใหญ่ไม่ผิดฐานทุจริตหากไม่มีเจตนาเบียดบัง
จำเลยเป็นครูใหญ่โรงเรียนอนุบาล กรอกรายการเพิ่มขึ้นในใบสำคัญคู่จ่ายค่าอาหารเลี้ยงนักเรียน มีจำนวนสูงกว่าหลักฐานการเบิกเงินของแม่ครัว เนื่องจากการที่จำเลยสั่งซื้ออาหารเพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอรับประทาน เป็นการกรอกเพิ่มขึ้นเพื่อให้จำนวนเงินตรงกับที่จ่ายไปจริงหาได้มีเจตนาทุจริตคิดเบียดบังเอาเงินบำรุงการศึกษาของโรงเรียนเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นไม่ และไม่เป็นการทำเอกสารเท็จหรือรับรองข้อความอันเป็นเท็จอันจะเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147,162